ผบ.ตร.แจงยุทธการ 315 ไม่แทรกแซงการหาเสียงเลือกตั้ง ชี้ ส่งรถฮัมวี่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่เป็นยุทธวิธีของทหารในการเข้าพื้นที่ เช่นเดียวกับที่ตำรวจมีรถคุมขังผู้ต้องหา โวจะสามารถจับกุมมือยิง “ประชา ประสพดี” ได้ก่อนวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.
วันนี้ (26 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีที่ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตมีนบุรี หนองจอก พรรคเพื่อไทย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัคร ส.ส.เขตบึงกุ่ม คันนายาว พรรคเพื่อไทย นายสิงห์ทอง บัวชุม ผู้สมัคร ส.ส.เขตลาดพร้าว วังทองหลาง พรรคเพื่อไทย เข้าร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ตามยุทธการปราบปรามยาเสพติด 315 ว่า ยุทธการนี้เป็นการรวมกำลังกัน 3 ฝ่าย คือ ตำรวจ ทหารและพลเรือน เพื่อกวาดล้างยาเสพติดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยการทำงานบางครั้งเจ้าหน้าที่จะเข้าไปพูดคุย ซักถาม เพื่อต้องการให้ผู้เสพไปบำบัดรักษาการติดยาเสพติด และเป็นการสแกนพื้นที่
ส่วนที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าการปฏิบัติหน้าที่ของทหารโดยเข้าไปในชุมชนนั้น อาจถูกมองว่ามีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า เรื่องนี้ ตร.จะทบทวนว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตามยุทธการดังกล่าวทำให้คิดไปเช่นนั้นหรือไม่ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบยุทธวิธี 315 และยังดูแลการเลือกตั้งเข้าไปตรวจสอบและทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ แต่คงไม่มีการยกเลิกการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยุทธการนี้จะทำให้ประชาชนหวาดระแวงทหารหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นว่า ประชาชนตกใจขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครอาจได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมา จึงอยากชี้แจงว่าการนำรถฮัมวี่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่เป็นยุทธวิธีของทหารในการเข้าพื้นที่ เช่นเดียวกับที่ตำรวจมีรถคุมขังผู้ต้องหา ซึ่งเรื่องนี้จะมีการชี้แจงไปที่ผู้สมัคร ส.ส.และประชาชนให้เข้าใจ
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวอีกว่า การทำงานปราบปรามยาเสพติดลำพังกำลังตำรวจอย่างเดียวไม่พอ ก็ต้องพึ่งทหาร แต่การเลือกตั้ง นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอง ไม่มีทหาร เพราะจะถูกมองว่าไม่เป็นธรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำเอง ยกเว้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ จ.สงขลา ที่เป็นพื้นที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มี กอ.รมน. ดูแลรักษาความปลอดภัย โดยมีทหารเป็นเจ้าภาพในการดูแลรักษาความปลอดภัยช่วงเลือกตั้งร่วมกับตำรวจและพลเรือน
สั่ง “อัศวิน” ตรวจข้อเท็จจริงตร.ล่อซื้อยาถูกยิงดับ
พล.ต.อ.วิเชียร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ และตำรวจกองกำกับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) เข้าไปล่อซื้อยาบ้าภายในอาคารนนท์ทิพย์ คอนโดมิเนียม ซ.ศรีพร 2 ถ.เลี่ยงเมือง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีสายตำรวจเสียชีวิต 1 ราย ว่า เรื่องนี้มีความไม่ชอบมาพากล จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ10) ฐานะรักษาราชการแทน ผบช.ภ.1 เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งถ้าพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจริงก็ต้องดำเนินการทางวินัย ซึ่งเป็นการยืนยันว่าตำรวจทำผิดก็ต้องเหมือนเนื้อร้ายที่เราต้องตัดทิ้งไป
โวจะจับมือยิง “ประชา” ได้ก่อน 3 ก.ค.
ส่วนความคืบหน้าการจับกุมคนร้ายยิง นายประชา ประสพดี ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 7 จ.สมุทรปราการ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า คดีนี้ได้เร่งรัดอยู่ ซึ่งทางตำรวจขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานก่อน อย่างไรก็ตาม แม้ช่วงนี้จะล่าช้าไปบ้าง แต่ก็เป็นไปตามแนวทางที่เราทำไว้ ซึ่งอย่าให้ตนบอกว่าจะจับให้ได้วันไหน เพราะไม่ได้ตามนั้นก็ไม่ดี แต่ยืนยันว่า จะสามารถจับมือยิงให้ได้ก่อนวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.
