xs
xsm
sm
md
lg

“ผู้พิพากษา” ฟ้อง “อิสสระคอนโด” เรียก 4 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสงกรานต์ อิสสระ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง
ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญา ฟ้อง “สงกรานต์ อิสสระ” นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังและพวก เหตุก่อสร้างคอนโดฯ “ดิ อิสสระ ลาดพร้าว” ละเมิดเรียกค่าเสียหาย 4 ล้าน เพราะคอนโดฯ สร้างทั้งวันทั้งคืน ทำตึกแถวทรุด แถมเสียงดัง ฝุ่นฟุ้งกระจายจนป่วยโรคหัวใจ-เครียด ศาลชี้คู่ความยังอยู่ระหว่างเจรจาตกลงกัน เห็นควรส่งสำนวนให้องค์คณะไกล่เกลี่ยต่อ

วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดชี้สองสถานในคดีนายจิตรกร พัฒนาศิริ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสงกรานต์ อิสสระ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง นายพลพัฒ กรรณสูต บริษัท ซี.ไอ.เอ็น.เอสเตท จำกัด บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด นายสุกิจ อัมพรสุขสกุล และ นายเชิดศักดิ์ อัมพรสุขสกุล เป็นจำเลยที่ 1-6 เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหายจำนวน 4,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

ทั้งนี้ ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2554 สรุปว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ.2550 จำเลยที่ 1-3 ได้ตกลงร่วมกันก่อสร้างอาคารคอนโดมิเนียม โดยใช้ชื่อโครงการว่า “ดิ อิสสระ ลาดพร้าว” (THE ISSARA LADRPAO) สำหรับพักอาศัย ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 47 ชั้น ติดถนนลาดพร้าวระหว่างซอยลาดพร้าว 12 และ 14 ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินของโจทก์ โดยว่าจ้างจำเลยที่ 4-6 ดำเนินการก่อสร้าง โดยให้คนงานของจำเลยเจาะ อัด ดึง ตอกเสาเข็มขนาดใหญ่ โดยใช้อุปกรณ์ก่อสร้าง และเครื่องจักรขนาดใหญ่ใช้คนงานก่อสร้างจำนวนมาก โดยทำการก่อสร้างตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น.ทุกวัน ตลอดเรื่อยมาและคงยังดำเนินการอยู่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งทำให้เกิดแรงสะเทือนอย่างแรง จึงเป็นเหตุให้อาคารตึกแถวของโจทก์ทรุดและอาจเกิดผลทำตึกแถวเสียรูปทรง ผนังอาคารและพื้นอาคารร้าวชำรุด เกิดความเสียหายหลายแห่ง อีกทั้งคนงานจำเลยทำให้เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมรบกวนการอยู่อาศัยโดยปกติสุขของโจทก์ ทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจายจำนวนมากปลิวเข้ามาในอาคาร ทำให้โจทก์เกิดโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรง และเกิดผดผื่นคันตามผิวหนัง ตาอักเสบ และเกิดอาการภูมิแพ้ ทำให้สุขภาพไม่ดี และป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหลอดเลือดหัวใจและความดันสูง ทั้งยังทำให้เกิดความเครียดจนทำให้เกิดอาการโรคหัวใจ ซึ่งต้องเข้ารับการรักษาผ่าตัด ที่สถาบันทรวงอก ทั้งนี้ การกระทำของพวกจำเลยเป็นการละเมิดทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งทรัพย์สินและสุขภาพ โดยโจทก์ได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจ สน.สุทธิสาร และสำนักงานเขตจตุจักรแล้ว แต่ไม่ดำเนินการ จึงต้องนำคดีมาฟ้องศาล เพื่อขอให้บังคับจำเลยห้ามมิให้จำเลยทั้งหกและบริวารและลูกจ้าง ทำการก่อสร้างอาคารคอนโดมิเนียม ตั้งแต่เวลา 16.30 -08.30 น.ของวันถัดไปในวันเปิดทำงานราชการและให้หยุดก่อสร้างในวันหยุดราชการ ให้จำเลยทั้งหก จัดหาที่พักอาศัยให้แก่โจทก์ในระหว่างการก่อสร้างคอนโดมิเนียม โดยให้จำเลยทั้งหกเป็นผู้ออกค่าเช่า จนกว่าจะสร้างเสร็จ ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 4,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้อง

อย่างไรก็ตาม จำเลยทั้งหกให้การปฎิเสธ อ้างว่า จำเลยที่ 4 ได้รับอนุญาตก่อสร้างตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.ซึ่งเป็นเวลาปกติตามกฎหมาย การก่อสร้างอาคาร แม้เกิดเสียงบ้างแต่ก็ถูกควบคุมด้านมลภาวะ เสียงดังไม่เกินกฎหมายกำหนด

โดยศาลแพ่งได้ทำการไต่สวนคำขอคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทางไต่สวนได้ความว่าจำเลยทั้งหกทำการก่อสร้างอาคารคอนโดมิเนียม ซึ่งอยู่ติดกับที่พักอาศัยของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ เนื่องจากการก่อสร้างเสียงดังมาก ทั้งก่อสร้างหลังเวลา 17.00-24.00 น.ของแต่ละวัน ซึ่งเป็นเวลาเกินกว่าที่จำเลยทั้งหกได้รับอนุญาตจากทางราชการ อันเป็นการรบกวนการอยู่อาศัยโดยปกติของโจทก์ คำร้องของโจทก์มีเหตุสมควรและกรณีมีเหตุฉุกเฉิน จึงมีคำสั่งห้ามจำเลยทั้งหกก่อสร้างอาคารตั้งแต่เวลา 17.00-24.00 น.เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ขณะเดียวกัน ในวันนี้ศาลให้ทนายจำเลยที่ 1-3 รับหมายห้ามชั่วคราวกรณีฉุกเฉินลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2554 แล้วแถลงว่าตามที่ศาลได้ส่งสำนวนไปให้องค์คณะไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทนั้นปรากฏว่าการไกล่เกลี่ยยังไม่แล้วเสร็จมีนัดที่จะต้องไกล่เกลี่ยกันอีกในวันที่ 21 มิถุนายน 2554 จึงขอเลื่อนนัดชี้สองสถานออกไปก่อน

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าเมื่อคู่ความยังอยู่ระหว่างการเจรจากัน จึงเห็นควรให้ส่งสำนวนไปยังองค์คณะไกล่เกลี่ยดำเนินการไกล่เกลี่ยต่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น