อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง “ จตุพร” หมิ่น พ่อ "กรณ์ จาติกวณิช" รมว.คลัง โกงเลี่ยงภาษีรถยนต์ ศาลเห็นว่าแถลงโดยสุจริตใจ ไม่ต้องรับโทษ
วันนี้(25 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 712 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ในคดีที่นายระพินทร์ ชลพินทุ ผู้รับมอบอำนาจจากนายไกรศรี จาติกวณิช บิดาของนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เป็นโจทก์ฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59,326,328 กรณีเมื่อวันที่ 12 ก.พ.2549 นายจตุพร แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เรื่องที่พรรคแต่งตั้งให้ นายกรณ์ เป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบการขายหุ้นของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้กลุ่มเทมาเส็ก สิงคโปร์ โดยพาดพิงถึง นายไกรศรี ทำนองว่า เป็นคนคดโกง เคยโดนลงโทษให้ออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร ในความผิดร่วมกันกับผู้อื่นนำรถโตโยต้า ซอร์เรอร์ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงภาษี
คดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ขณะโจทก์ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร เมื่อปี 2529 นั้น ได้ ถูกลงโทษทางวินัยโดยให้ออกจากราชการ ฐานเลี่ยงภาษีศุลกากรรถยนต์โตโยต้า รุ่นซอเรอร์ ที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร แต่สำแดงเท็จในใบขนส่งสินค้าผ่านวิธีการศุลกากรว่าเป็นรถยนต์ โตโยต้า รุ่นมาร์คทู ซึ่งราคาต่ำกว่ามาก คณะกรรมการสอบสวนเห็นว่า โจทก์ ยังไม่ผิดวินัยร้ายแรง แต่มีมลทินมัวหมอง หากยังรับราชการต่อไป จะทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย จึงมีมติให้ออกจากราชการ ซึ่งจำเลยย่อมเชื่อโดยสุจริตใจ ว่าโจทก์ได้กระทำผิดตามที่จำเลยแถลงข่าวจริง ดังนั้นจำเลยย่อมไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 330 วรรคแรก ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยเหตุผล อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ศาลได้เบิกตัว นายจตุพร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มาฟังคำพิพากษาฯ โดยสวมชุดนักโทษสีน้ำตาล ตีตรวนขาทั้ง 2 ข้าง มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และได้จับมือทักทายกับกลุ่มเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจในห้องพิจารณาคดีด้วย