ตำรวจ สตม.บุกพระนครศรีอยุธยา ทลายแหล่งพักแรงงานเถื่อน รวบชาวพม่า 30 คน ขณะซ่อนตัวก่อนลอบเข้า กทม.หวังสวมรอยขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวช่วงเดือน มิ.ย.นี้
วันนี้ (22 พ.ค.) พ.ต.อ.เฉลิมพล จินตรัตน์ ผกก.2 บก.สส.สตม.เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ รอง ผกก.2 บก.สส.สตม.พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทวีป ช่างต่อ สว.กก.2 และ ร.ต.อ.พัฒนพงษ์ โรจนวานิชกิจ รอง สว.กก.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าซุ่มโป่งบริเวณโรงอิฐร้างไม่มีเลขที่ เยื้องบ้านเลขที่ 1 หมู่ 7 ต.โพธิ์สามต้น อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังสืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเถื่อนเข้าไปทำงานในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมลฑล ต่อมาได้มีรถกระบะโตโยต้ารุ่นวีโก้ ทะเบียน ญฌ-5782 กทม. และรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ ทะเบียน วท-9611 กทม.ขับเข้ามาจอดบริเวณดังกล่าว โดยคนขับรถทั้ง 2 คันได้เดินเข้าไปภายในโรงอิฐร้าง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม เมื่อผู้ต้องหาทั้งสองคนเห็นเจ้าหน้าที่ก็วิ่งหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายอนุศักดิ์ เชี่ยงหย็อง อายุ 28 ปี คนขับรถกระบะไว้ได้ ส่วนคนขับรถยนต์หลบหนีไปได้ ต่อมาได้เข้าตรวจสอบภายในโรงอิฐร้างดังกล่าว พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าซ่อนอยู่จำนวน 22 คน จึงควบคุมตัวดำเนินคดี
พ.ต.อ.เฉลิมพลกล่าวว่า ในเวลาเดียวกัน พ.ต.ท.ฑิฆัมพร ศรีสังข์ รอง ผกก.2 บก.สส.สตม.นำกำลังเจ้าหน้าที่อีกชุดเข้าจับกุม นายชัยวัฒน์ สำนักโนน อายุ 39 ปี บริเวณหน้าหมู่บ้านเปรมฤทัย เลคปาร์ก หมู่ที่ 4 ต.พะยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะกำลังขับรถกระบะโตโยต้ารุ่นวีโก้ ทะเบียน ฎภ-2992 กทม.ซึ่งภายในซุกซ่อนแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าอีก 8 คน
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าเป็นเครือข่ายนำพาแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศไทยเครือข่ายเดียวกัน โดยจะนำแรงงานต่างด้าวมาจากพื้นที่ จ.ตาก จากนั้นจะนำเข้ามาพักไว้ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อรอดูสถานการณ์ เมื่อมีจังหวะก็จะขับรถมารับเพื่อนำเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ โดยคิดค่าใช้จ่ายหัวละ 10,000-15,000 บาท
ด้าน พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.สส.สตม.กล่าวว่า เนื่องจากกลางเดือน มิ.ย.ที่จะถึงนี้ กระทรวงแรงงานมีกำหนดเปิดให้มีการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวขึ้น ทำให้ขณะนี้จะมีแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ประกอบด้วย พม่า ลาว และกัมพูชา ลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวนมาก เพื่อมารอการจดทะเบียน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวเถื่อน รวมถึงปราบปรามขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว เพื่อเป็นการสนองนโยบายด้านความมั่งคงของรัฐบาลต่อไป