ตร.เลือกใช้แผน “พิทักษ์เลือกตั้ง 54” รับมือการเลือกตั้งที่ร้อนระอุ มอบหมายรอง ผบ.ตร.ทุกนายดูแลพื้นที่ภูธรและนครบาล พร้อมจัดระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเลือกตั้งและจัดกำลังอารักขาผู้สมัคร ส.ส.ทุกภาคส่วน หากมีการร้องขอ
วันนี้ (12 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการเปิดศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศรส.ลต.ตร.) ว่า เมื่อวานนี้เวลา 16.00 น. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ได้เปิดศูนย์ ศรส.ลต.ตร. ซึ่งประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถติดต่อที่ศูนย์ได้ที่ เบอร์ 0-2255-4499 และ 1599 ซึ่งหากพบเหตุที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่วางตัวไม่เป็นกลาง เหตุรุนแรง ผู้ทำผิดกฏหมายเลือกตั้งสามารถติดต่อมาทางศูนย์เพื่อดำเนินการ
พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวต่อว่า พล.ต.อ.วิเชียรได้ลงนามในคำสั่ง 2 คำสั่ง คือ 1.แผนพิทักษ์เลือกตั้ง 54 ซึ่งเป็นแผนที่มอบหมายหน้าที่ให้ฝ่ายปฏิบัติ ฝ่ายสนับสนุน ฝ่ายข่าว ซึ่ง ผบ.ตร.ให้ความสำคัญต่อการเลือกตั้งครั้งนี้มากเนื่องจากมีความละเอียดอ่อนและมีผลต่ออนาคตของประเทศ โดยมอบหมายให้รอง ผบ.ตร.ทุกคนเป็นรอง ผอ.ศรส.ลต.ตร.โดยให้ดูแลพื้นที่ทั้ง ภูธรและนครบาลตามหน้างานของแต่ละคนที่มีการแบ่งงานไปก่อนหน้านี้ และมอบหมายให้พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ ดูเรื่องการวางตัวเป็นกลางของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูเรื่องการทำผิดวินัย การทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้มีการอบรมถึงหลักเกณฑ์ ข้อห้ามต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้และทำไม่ได้
พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวต่อว่า ส่วนการบริหารสถานการณ์ร้ายแรงมอบหมายให้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. ดูแลโดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10) ที่ดูแลเรื่องมือปืนรับจ้างมาประกอบกำลังสนับสนุน สำหรับการสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งนั้นให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ที่ปรึกษา (สบ 10) เข้ามาดูแล โดยมี พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ.ตร.เข้ามาช่วยสนับสนุน เพื่อขับเคลื่อนศูนย์ฯให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวต่อว่า 2.แผนระดมกวาดล้างอาชญากรรมในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนช่วงเลือกตั้ง เป็นแผนย่อยที่มาดูเรื่องอาชญากรรมต่างๆ ที่มีผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ได้สั่งการให้ไปดูเรื่องของความขัดแย้งในพื้นที่ ให้ไปดูเรื่องของกลุ่มมือปืน ผู้ที่เคยมีประวัติให้อาวุธปืน พกพาอาวุธปืน ผู้ที่มีนิสัยก้าวร้าว ให้แต่ละโรงพักรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มาเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลเพื่อนำมาใช้ได้ทันที นอกจากนั้นยังสั่งให้แต่ละจังหวัดไปดูพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง ตลอดจนกลุ่มต่างๆ ที่มีความขัดแย้งกันอยู่ทั้งขัดแย้งการเมือง ธุรกิจ เรื่องส่วนตัวที่จะนำไปสู้ความรุนแรงได้ เพื่อสรุปเป็นข้อมูลไว้ และพยายามเข้าไปเจรจาให้กลุ่มที่มีความขัดแย้งไม่ให้ใช้ความรุนแรงและป้องกันการรุนแรงโดยการตรวจอาวุธ ตั้งด่านตรวจด่านสกัดต่างๆ ยับยั้งการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ
โฆษก ตร.กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ร้ายแรงหรือเหตุการณ์ที่อาจจะไม่ปลอดภัยต่อตัวผู้สมัคร ส.ส. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมกำลังไว้อารักขาผู้สมัคร ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ โดยได้สั่งการให้ผู้บัญชาการแต่ละภาคฝึกซ้อมและจัดอบรมเรื่องกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะไปอารักขาไว้ หากมีการร้องขอของผู้สมัครเข้ามาก็จะสามารถจัดกำลังไปให้ได้ทันที โดยการร้องขอกำลังนั้นต่างจังหวัดให้ประสานงานผ่านทาง ผบก.จว.แต่ละจังหวัด ส่วนผู้สมัครในกทม.ให้ประสานมาที่ ผบช.น. ส่วนในส่วนของผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อให้ประสานผ่านทาง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผช.ผบ.ตร.ในฐานะเลขานุการ ศรส.ลต.ตร. หากพื้นที่ไหนที่มีความขัดแย้งรุนแรง ผบก.จว.ก็สามารถประสานขอกำลังจากส่วนกลาง และเจ้าหน้าที่การข่าวลงไปสนับสนุนเพื่อป้องกันเหตุรุนแรง
“ชุดอารักขาที่ลงไปจะได้รับการอบรมด้านกฎหมาย การวางตัว ข้อห้ามต่างๆ เพื่อป้องกันความไม่เป็นกลางไว้ และได้รับการฝึกซ้อมการอารักขาบุคคลสำคัญมาเป็นอย่างดีการทำงานจะแบ่งเป็นชุด ชุดละ 2-5 คนสลับหมุนเวียนกันไป กำลังที่ใช้แล้วแต่สภาพความรุนแรงในพื้นที่ การเลือกตั้งครั้งนี้มีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะแบบแบ่งเขตที่เป็นเขตเดียว เบอร์เดียวไม่มีที่ 2 เจ้าหน้าที่ก็จะต้องควบคุมความรุนแรงให้ได้ ซึ่งตอนนี้ก็มี ส.ส.ในพื้นที่บางส่วนขอกำลังมาบ้างแล้ว สำหรับพื้นที่ที่มีการแข่งขันรุนแรงเช่น จ.ชลบุรี จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี และจ.ในภาคอีสาน เชื่อว่ากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปอารักขาเพียงพอ เพราะวันก่อนเลือกตั้งและวันเลือกตั้งกำลังเหล่านี้จะถูกเรียกกลับมาสนับ สนุนการเลือกตั้ง เนื่องจากผู้สมัครไม่ต้องหาเสียงอยู่ ณ ที่ตั้ง” โฆษก ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนว่ามีความเคลื่อนไหวบ้างหรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีเป็นนัยยะสำคัญ กลุ่มมือปืนเก่าที่มีประวัติก็อาจจะไม่ทำ แต่คนที่ไม่เคยมีประวัติก็อาจจะมาทำแทนซึ่งเราก็ต้องดูพวกที่นิยมความรุนแรง และการย้ายข้ามเขตมาก่อเหตุ ตำรวจต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพต้องดูความเคลื่อนไหวทุกอย่างในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ๆ ที่เข้ามา นอกจากนั้นก็ต้องรวบรวมข้อมูลเรื่องกระสุนปืน หัวกระสุนปืน ผู้ที่มีประวัติเกี่ยวกับระเบิดด้วย ต้องมีความรอบคอบรวบรวมทุกอย่างที่พบ