ตร.เปิดแผนยุทธการ 315 ปราบยาเสพติดในชุมชนเมือง 2,003 แห่ง ตั้งเป้า 5 เดือนลดการแพร่ระบาดให้ได้ร้อยละ 10 จากผู้ติดยาที่มีอยู่ 1 แสนคน พร้อมเปิดสายด่วน 1386 ให้แจ้งเบาะแสค้ายานรก 24 ชั่วโมง
วันนี้ (11 พ.ค. )เมื่อเวลา 11.00 น. ที่เมืองทองธานี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.อ.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และนางสุรีย์ประภา ตรัยเวช เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมกันเปิดพิธีปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลในระยะเร่งด่วน หรือยุทธการ 315 โดยมีผู้แทนชุดปฏิบัติการและผู้นำชุมชนกว่า 2,000 คนเข้าร่วมงาน
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า จากความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับจากปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประกอบด้วย จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี จ.สมุทรสาคร จ.นครปฐม และ จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดอย่างหนาแน่นคิดเป็นร้อยละ 35 ของปัญหายาเสพติดทั้งหมดในประเทศ โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ป.ป.ส., ป.ป.ท., กอ.รมน. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จึงร่วมกันจัดตั้งโครงการตามแผนยุทธการ 315 ขึ้น โดยจะมี พล.ต.ท.วรพงษ์ ทำหน้าที่เป็น ผอ.กอ.ฉก.ปส.315 ซึ่งจะเน้นปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชุมชนที่มีปัญหาให้มีความเข้มข้นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ชุมชนในกรุงเทพฯ 2,003 แห่ง และพื้นที่ในจังหวัดปริมณฑลอีก 18 อำเภอ ซึ่งโครงการนี้จะดำเนินการเป็นเวลา 5 เดือน และจะสิ้นสุดโครงการในช่วงเดือนก.ย.นี้
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวต่อว่า การดำเนินโครงการนี้ไม่ได้เน้นปราบปรามยาเสพติดเพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นความร่วมมือจากประชาชนด้วยการนำผู้เสพยาเสพติดมาบำบัดรักษา โดยจะใช้การชักชวนให้ผู้ติดยาเสพติดสมัครใจเข้ารับการบำบัดเป็นแนวทางแรก จากนั้นจะติดตามดูแลช่วยเหลือภายหลังการบำบัด เพื่อจะได้เป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนโดยไม่เน้นความรุนแรง ส่วนกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในระดับขายส่งและรายย่อยในทุกพื้นที่ ทางกอ.ฉก.ปส.315 ก็จะตรวจสอบไปที่พื้นที่เสี่ยง เช่น สถานบันเทิง แหล่งมั่วสุม โดยเฉพาะบริเวณรอบสถานศึกษา จำนวน 1,180 แห่ง ซึ่งจะเน้นดำเนินการในด้านจิตวิทยามวลชน โดยจะมอบหมายให้สถานีตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบดำเนินการในส่วนนี้ นอกจากนี้จะมีการจัดชุดเฉพาะกิจไปติดตามหาข่าว เพื่อขยายผลการจับกุมและยึดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นปัญหายาเสพติดสามารถแจ้งเบาะแสเข้ามาที่หมายเลข 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับแผนยุทธการ 315 จะเน้นการช่วยเหลือและรับการสมัครใจของผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดการติดยาเสพติดมากกว่าการปราบปราม โดยเบื้องต้นจะเริ่มดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อลดการแพร่ะบาดของยาเสพติดในพื้นที่เมืองหลวงก่อน ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าภายในระยะเวลา 5 เดือนของการดำเนินโครงการดังล่าวจะต้องลดปัญหายาเสพติดให้ได้ร้อยละ 10 จากจำนวนผู้ติดยาเสพติดที่มีอยู่ประมาณ 1 แสนคน
วันนี้ (11 พ.ค. )เมื่อเวลา 11.00 น. ที่เมืองทองธานี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.อ.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และนางสุรีย์ประภา ตรัยเวช เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมกันเปิดพิธีปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลในระยะเร่งด่วน หรือยุทธการ 315 โดยมีผู้แทนชุดปฏิบัติการและผู้นำชุมชนกว่า 2,000 คนเข้าร่วมงาน
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า จากความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับจากปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประกอบด้วย จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี จ.สมุทรสาคร จ.นครปฐม และ จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดอย่างหนาแน่นคิดเป็นร้อยละ 35 ของปัญหายาเสพติดทั้งหมดในประเทศ โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ป.ป.ส., ป.ป.ท., กอ.รมน. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จึงร่วมกันจัดตั้งโครงการตามแผนยุทธการ 315 ขึ้น โดยจะมี พล.ต.ท.วรพงษ์ ทำหน้าที่เป็น ผอ.กอ.ฉก.ปส.315 ซึ่งจะเน้นปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชุมชนที่มีปัญหาให้มีความเข้มข้นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ชุมชนในกรุงเทพฯ 2,003 แห่ง และพื้นที่ในจังหวัดปริมณฑลอีก 18 อำเภอ ซึ่งโครงการนี้จะดำเนินการเป็นเวลา 5 เดือน และจะสิ้นสุดโครงการในช่วงเดือนก.ย.นี้
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวต่อว่า การดำเนินโครงการนี้ไม่ได้เน้นปราบปรามยาเสพติดเพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นความร่วมมือจากประชาชนด้วยการนำผู้เสพยาเสพติดมาบำบัดรักษา โดยจะใช้การชักชวนให้ผู้ติดยาเสพติดสมัครใจเข้ารับการบำบัดเป็นแนวทางแรก จากนั้นจะติดตามดูแลช่วยเหลือภายหลังการบำบัด เพื่อจะได้เป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนโดยไม่เน้นความรุนแรง ส่วนกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในระดับขายส่งและรายย่อยในทุกพื้นที่ ทางกอ.ฉก.ปส.315 ก็จะตรวจสอบไปที่พื้นที่เสี่ยง เช่น สถานบันเทิง แหล่งมั่วสุม โดยเฉพาะบริเวณรอบสถานศึกษา จำนวน 1,180 แห่ง ซึ่งจะเน้นดำเนินการในด้านจิตวิทยามวลชน โดยจะมอบหมายให้สถานีตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบดำเนินการในส่วนนี้ นอกจากนี้จะมีการจัดชุดเฉพาะกิจไปติดตามหาข่าว เพื่อขยายผลการจับกุมและยึดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นปัญหายาเสพติดสามารถแจ้งเบาะแสเข้ามาที่หมายเลข 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับแผนยุทธการ 315 จะเน้นการช่วยเหลือและรับการสมัครใจของผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดการติดยาเสพติดมากกว่าการปราบปราม โดยเบื้องต้นจะเริ่มดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อลดการแพร่ะบาดของยาเสพติดในพื้นที่เมืองหลวงก่อน ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าภายในระยะเวลา 5 เดือนของการดำเนินโครงการดังล่าวจะต้องลดปัญหายาเสพติดให้ได้ร้อยละ 10 จากจำนวนผู้ติดยาเสพติดที่มีอยู่ประมาณ 1 แสนคน