ภาค 1 ตามรวบหนุ่มขอนแก่น ฆ่าล้างหนี้ยาบ้า รับสารภาพยิงสาวสระบุรีจริง เพราะผู้ตายติดค้างค้ายาเสพติด ขณะที่ตำรวจวัดพระยาไกรจับ “ไอ้คลั่ง” เมาแล้วชักมีดวิ่งไล่ฟันเหยื่อจนได้รับบาดเจ็บปางตาย บางคนถึงขั้นพิการ
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 00.10 น. พ.ต.ท.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รองผกก.สส.2 บช.ภ.1 พ.ต.ท.จิรัฏฐ์ ดอกไม้ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ร.ต.อ.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ สว.กก.สส.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ บช.ภ.1 ร่วมกันจับกุม นายดำรงค์ ศรีคุ้ม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 9 ต.เก่างิ้ว อ.พล จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 801/2554 ลงวันที่ 26 เม.ย.54 ในข้อหาฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลาประมาณ 22.45 น.วันที่ 11 เม.ย.ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง น.ส.พรวิไร ขันธิทรง อายุ 30 ปี เสียชีวิต บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 42 หมู่ 9 ต.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหา คือ คนร้าย และทราบอีกว่าได้หลบไปซ่อนตัวอยู่ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ตรอกป่าช้าตาลอย ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุม
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุยิง น.ส.พรวิไล จริง เนื่องจากผู้ตายติดเงินค่ายาบ้าตนอยู่ 25,000 บาท แต่ผู้ตายกลับนำเงินมาให้ตนเพียง 13,000 บาท จึงเกิดมีปากเสียงกัน จนตนเกิดความโมโหใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายไป 2 นัด ก่อนหลบหนีและถูกจับกุมได้ดังกล่าว
รวบ “ไอ้คลั่ง” เมาชักมีดไล่ฟันดะ
ในวันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.อ.ขวัญชัย แป้นมณฑา รองสว.สส.สน.วัดพระยาไกร
นำกำลังเข้าจับกุม นายเกรียงไกร หรือ เอก แย้มศรี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 279 ซอยเจริญกรุง 85 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 160/2554 ลงวันที่ 21 มี.ค.54 ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถูกนายเกรียงไกรใช้อาวุธมีดไล่ฟันจนได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง ซึ่งบางรายต้องกลายเป็นคนพิการ เนื่องจากถูกฟันเข้าที่แขนหวิดขาด โดยทุกครั้งที่นายเกรียงไกรดื่มเหล้าเมา ก็มักจะก่อเหตุทะเลาะวิวาทเสมอ โดยเบื้องต้นจึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนก่อนประสานให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมต่อไป