ศาลแพ่งเปิดแผนกคดีสิ่งแวดล้อม เปิดช่องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมฟ้องร้องโรงงาน หรือหน่วยราชการได้ง่ายขึ้น ตั้งแต่ 25 พ.ค.นี้เป็นต้นไป
วันนี้ (24 เม.ย.) นายเกษม เกษมปัญญา อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีการฟ้องร้องคดีที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมต่อศาลยุติธรรมทั่วประเทศมากขึ้นเป็นลำดับ และหลายคดีเป็นที่สนใจของประชาชน เช่น คดีเพลิงไหม้โกดังสารเคมีที่ท่าเรือคลองเตย คดีลำน้ำพองเน่าเสีย ซึ่งทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และประชาชนฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโรงงานที่เป็นต้นเหตุ แต่การดำเนินคดีสิ่งแวดล้อมที่ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมยังมีข้อจำกัดทั้งในด้านกฎหมาย และความรู้ความเข้าใจของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีแพ่งที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศเป็นไปโดยเรียบร้อยและเป็นระเบียบเดียวกัน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา จึงออกคำแนะนำของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับการดำเนินคดีสิ่งแวดล้อม และมีมติเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง การจัดตั้งแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลแพ่ง โดยประธานศาลฎีกาลงนามออกประกาศฯ ดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2554 ให้ศาลแพ่งเป็นศาลนำร่องในการจัดตั้งแผนกคดีสิ่งแวดล้อม มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในเขตศาลแพ่ง และคดีสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นนอกเขตศาลแพ่งที่มีความยุ่งยากซับซ้อน ให้ศาลแพ่งรับไว้พิจารณาพิพากษา ดังนั้นจึงออกประกาศอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เปิดทำการแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลแพ่ง ในวันที่ 25 พ.ค.54 เป็นต้นไป
