รวบ “แก๊ง 4 โจร” ขับบีเอ็มฯ ตระเวนยกเค้าบ้านเศรษฐี ยึดของกลางหลายรายการ ทั้งเครื่องเพชร พระเครื่อง และทองคำ มูลค่ากว่า 10 ล้าน รับเคยติดคุกในคดีปล้นทรัพย์ ลักทรัพย์ และซ่องโจร
วันนี้ (12 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 15.00 น.พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต ผบก.น.5 พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส.บก.น.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.4 และ กก.สส.บก.น.5 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสมคิด หรือคิด แจ่มจรัส อายุ 38 ปี นายทวี หรือเบียร์ ศรีบุญเรือง อายุ 31 ปี นายเกษดา หรือโรจน์ สุขน้อย อายุ 29 ปี และนายบรรพจน์ หรือพจน์ ฮวดหนองโพธิ์ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 402,000 บาท ทรัพย์สินเครื่องประดับเช่น ทองรูปพรรณ เครื่องเพชร พระเลี่ยมทอง นาฬิกายี่ห้อแบรนด์เนม กล้องถ่ายรูป และกล้องส่องทางไกล รวมทั้งหมด 43 รายการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
พล.ต.ท.จักรทิพย์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อ 1 เดือนก่อน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา จับกุมขณะขับรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยู ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมวิ่งผ่านด่านตรวจ โดยครั้งนั้นเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนเถื่อนซุกซ่อนอยู่ในรถ 1 กระบอก พร้อมกับเครื่องเพชรอีกจำนวนหนึ่ง
ผบช.น.กล่าวว่า สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน อ้างว่าเครื่องเพชรเป็นสมบัติของตัวเอง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงยึดเอาไว้เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการประกันตัวในชั้นศาล
พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสืบทราบว่าเครื่องเพชรที่ตำรวจยึดไว้นั้นเป็นทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมมาจากหลายสถานที่ และมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาไว้แล้ว อีกทั้งเมื่อกลุ่มผู้ต้องหาได้ประกันตัวออกมาแล้วก็ยังตระเวนเข้าไปลักทรัพย์ตามหมู่บ้านหรูอย่างต่อเนื่อง เช่นเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 21 มี.ค.ท้องที่ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี และเมื่อเวลา 18.00 น. สน.ประเวศ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ
พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่จึงประสานขอหมายจับจากศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ 170-173/2554 ลงวันที่ 12 เม.ย.54 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ก่อนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้ตามบ้านพัก พร้อมของกลางอีกเป็นจำนวนมาก
จากการสอบสวน นายสมคิด หัวหน้าแก๊ง ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้พวกตนเคยถูกจับกุมในข้อหาปล้นทรัพย์ ลักทรัพย์ ซ่องโจร คดีทำร้ายร่างกาย และยาเสพติด จนกระทั่งได้มารู้จักกันในเรือนจำ หลังพ้นโทษออกมา ก็ช่วยกันวางแผนกับนายอ้วน ไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุลและพวกอีก 2 คน ขับรถไปตระเวนลักทรัพย์ตามหมู่บ้านหรู โดยพวกตนจะเลือกบ้านที่คิดว่าไม่มีใครอยู่ก่อน หลังจากนั้นก็จะเข้าไปกดออดพร้อมทั้งใช้กล้องส่องทางไกลส่องดู ว่าไม่มีใครในบ้านแน่ๆ ก็จะปีนรั้วเข้าไปใช้ชะแลงงัดเข้าไปลักทรัพย์สินในบ้านทันที จากนั้นก็จะเอาทรัพยสินมาแบ่งกันไปขาย
นายสมคิดให้การต่อว่า เท่าที่จำได้นั้นพวกตนเคยก่อเหตุมาแล้ว 13 ครั้ง ในท้องที่ สน.ประเวศ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี และพื้นที่ จ.นครนายก แต่มากจนจำสถานที่ไม่ได้ ส่วนของกลางจำพวกพระเครื่อง พระเลี่ยมทอง ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดมาได้เป็นจำนวนมากนั้นเป็นเพราะ ตนเป็นคนชอบสะสมพระเครื่องอย่างมาก เลยไม่เอาพระเครื่องกับพระเลี่ยมทองที่ขโมยมาได้ไปขายหรือจำนำเลย
พล.ต.ต.จักรทิพย์กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ส่งให้พนักงานสอบสวนท้องที่ที่เกิดเหตุดำเนินคดีต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถตามหาผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของของกลางได้ทุกรายการ โดยหากผู้เสียหายรายใด สงสัยว่าอาจจะเคยถูกแก๊งคนร้ายรายนี้เข้าไปลักทรัพย์สินภายในบ้านก็สามารถเดินทางมาตรวจสอบได้ที่ กก.สส.บก.น.4 และ กก.สส.บก.น.5
