รวบแก๊งใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้เหยื่อชิง จยย. พบประวัติเคยถูกจับคดีปล้นทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ยาเสพติดมาอย่างโชกโชน เผยจะขับ จยย.หมุนเวียนกันตระเวนหาเหยื่อแล้วเข้าประกบขับปาดหน้าให้หยุด ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้เพื่อให้เหยื่อตกใจทิ้งรถ โดยนำไปขายราคาคันละ 2,500-4,500 บาท เพื่อซื้อยาเสพ-เลี้ยงลูกเมีย
วันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ สน.ยานนาวา พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบก.น.6 พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.มนต์ชัย ศรีประเสริฐ ผกก.สน.ยานนาวา และ พ.ต.ท.ภาสกร รัตนปนัดดา สว.สส.สน.ยานนาวา พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา ร่วมกันแถลงการจับกุม นายสมโภชน์ หรือเขียด มะสาตร์ อายุ 30 ปี นายนัฐพล หรือนัด ซื่อเลื่อม อายุ 19 ปี และนายต่าย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีขาวน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน สขพ-795 กทม. จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีส้มดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน โครงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ เคเอสอาร์ หมายเลขทะเบียน สฉพ-666 กทม. เครื่องช็อตไฟฟ้า 1 เครื่อง และเครื่องมือถอดอะไหล่รถจำนวนมาก
พล.ต.ต.สุวัฒน์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา นายวิฑูร กรแก้ววรกุล ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ว่าขณะที่กำลังขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ เคเอสอาร์ หมายเลขทะเบียน สฉพ-666 กทม.เข้าไปในซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 10 ก็ถูกคนร้ายชาย 2 คน ขี่จักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2 คันปาดหน้าแล้วเข้ามาประกบ ก่อนจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้ใส่ตัว 2 ครั้งจนได้รับบาดเจ็บต้องทิ้งรถวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายชิงเอาจักรยานยนต์ไป
พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสืบทราบว่า นายนัฐพล และนายต่าย ซึ่งมีประวัติเคยถูกจับกุมคดีปล้นทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ คดีครอบครองอาวุธปืน และคดียาเสพติดมาอย่างโชกโชน คือคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุชิงจักรยานยนต์ของนายวิฑูร จึงนำกำลังเข้าจับกุมนายต่ายเอาไว้ได้เป็นคนแรก พร้อมของกลางที่บ้านพักย่านรามคำแหง จากนั้นจึงขยายผลติดตามจับกุมตัวนายนัฐพล กับนายสมโภชน์ เอาไว้ได้ที่บ้านพักย่านฝั่งธนบุรี พร้อมของกลางอีกส่วนหนึ่ง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่า แต่ละครั้งพวกตนจะลงมือกันแค่ 2 คน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปใช้จักรยานยนต์ 2 คันขี่ตระเวนหาเหยื่อ ซึ่งเมื่อเจอเหยื่อแล้วก็ตามประกบ ก่อนจะปาดหน้าให้เหยื่อหยุด จากนั้นใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้ใส่เหยื่อ ซึ่งเมื่อเหยื่อตกใจทิ้งรถวิ่งหนีไปก็จะชิงเอาจักรยานยนต์ไปซ่อนไว้ก่อนแล้วค่อยเอารถไปขายต่อให้นายปาร์ค ไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุล ที่พักอยู่ในหมู่บ้านเศรษฐกิจ ย่านหนองแขม ราคาคันละ 2,500-4,500 บาท จากนั้นเอาเงินมาแบ่งกันไปซื้อยาเสพ และใช้จ่ายเลี้ยงลูกเมีย ซึ่งเท่าที่จำได้พวกตนร่วมกันก่อเหตุมาแล้ว 8 ครั้ง ในท้องที่ สน.บุคคโล สน.บางมด สน.บางบอน สน.วัดพระยาไกร สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สน.ยานนาวา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะ ต่อนายนัฐพล และนายต่าย ส่วนนายสมโภชน์ที่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุในวันดังกล่าวนั้น ได้แจ้งข้อหารับของโจร เนื่องจากเป็นแค่คนนำจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปขายต่อ พร้อมทั้งจะประสานให้พนักงานสอบสวนเจ้าของท้องที่อื่นมาอายัดตัวไปดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ สน.ยานนาวา พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบก.น.6 พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.มนต์ชัย ศรีประเสริฐ ผกก.สน.ยานนาวา และ พ.ต.ท.ภาสกร รัตนปนัดดา สว.สส.สน.ยานนาวา พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา ร่วมกันแถลงการจับกุม นายสมโภชน์ หรือเขียด มะสาตร์ อายุ 30 ปี นายนัฐพล หรือนัด ซื่อเลื่อม อายุ 19 ปี และนายต่าย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีขาวน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน สขพ-795 กทม. จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีส้มดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน โครงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ เคเอสอาร์ หมายเลขทะเบียน สฉพ-666 กทม. เครื่องช็อตไฟฟ้า 1 เครื่อง และเครื่องมือถอดอะไหล่รถจำนวนมาก
พล.ต.ต.สุวัฒน์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา นายวิฑูร กรแก้ววรกุล ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ว่าขณะที่กำลังขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ เคเอสอาร์ หมายเลขทะเบียน สฉพ-666 กทม.เข้าไปในซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 10 ก็ถูกคนร้ายชาย 2 คน ขี่จักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2 คันปาดหน้าแล้วเข้ามาประกบ ก่อนจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้ใส่ตัว 2 ครั้งจนได้รับบาดเจ็บต้องทิ้งรถวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายชิงเอาจักรยานยนต์ไป
พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสืบทราบว่า นายนัฐพล และนายต่าย ซึ่งมีประวัติเคยถูกจับกุมคดีปล้นทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ คดีครอบครองอาวุธปืน และคดียาเสพติดมาอย่างโชกโชน คือคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุชิงจักรยานยนต์ของนายวิฑูร จึงนำกำลังเข้าจับกุมนายต่ายเอาไว้ได้เป็นคนแรก พร้อมของกลางที่บ้านพักย่านรามคำแหง จากนั้นจึงขยายผลติดตามจับกุมตัวนายนัฐพล กับนายสมโภชน์ เอาไว้ได้ที่บ้านพักย่านฝั่งธนบุรี พร้อมของกลางอีกส่วนหนึ่ง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่า แต่ละครั้งพวกตนจะลงมือกันแค่ 2 คน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปใช้จักรยานยนต์ 2 คันขี่ตระเวนหาเหยื่อ ซึ่งเมื่อเจอเหยื่อแล้วก็ตามประกบ ก่อนจะปาดหน้าให้เหยื่อหยุด จากนั้นใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้ใส่เหยื่อ ซึ่งเมื่อเหยื่อตกใจทิ้งรถวิ่งหนีไปก็จะชิงเอาจักรยานยนต์ไปซ่อนไว้ก่อนแล้วค่อยเอารถไปขายต่อให้นายปาร์ค ไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุล ที่พักอยู่ในหมู่บ้านเศรษฐกิจ ย่านหนองแขม ราคาคันละ 2,500-4,500 บาท จากนั้นเอาเงินมาแบ่งกันไปซื้อยาเสพ และใช้จ่ายเลี้ยงลูกเมีย ซึ่งเท่าที่จำได้พวกตนร่วมกันก่อเหตุมาแล้ว 8 ครั้ง ในท้องที่ สน.บุคคโล สน.บางมด สน.บางบอน สน.วัดพระยาไกร สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สน.ยานนาวา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะ ต่อนายนัฐพล และนายต่าย ส่วนนายสมโภชน์ที่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุในวันดังกล่าวนั้น ได้แจ้งข้อหารับของโจร เนื่องจากเป็นแค่คนนำจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปขายต่อ พร้อมทั้งจะประสานให้พนักงานสอบสวนเจ้าของท้องที่อื่นมาอายัดตัวไปดำเนินคดีต่อไป