ศาลสั่งจำคุกคนละ 18 ปี แก๊งปล้น จยย.อุกอาจร่วมกับ 2 เยาวชนซิ่ง จยย.ประกบปาดหน้าก่อนชักปืนจี้ชิงเอา จยย.คาวาซากิมูลค่า 6 หมื่น หลบหนีลอยนวล จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษเหลือติดคุก คนละ 9 ปี 7 เดือน
วันนี้ (5 เม.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีปล้นทรัพย์ ที่พนักงานอัยการคดีอาญาเป็นโจทก์ฟ้อง นายประวิทย์ หรืออั๋น คงจันทร์ อายุ 24 ปี ชาว จ.พิจิตร และนายนพพล หรือแม็ก วงษ์มณี อายุ 26 ปี ชาว จ.ชลบุรี ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะ, พ.ร.บ.อาวุธปืน ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 18 ม.ค.54 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า
เมื่อวันที่ 16 พ.ย.53 เวลา 02.30 น. ขณะนายอนุดิษฏ์ ธรรมลังกา ผู้เสียหายกำลังขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ ทะเบียน ขฉน-พิษณุโลก ใกล้แยก ร.ร.วิบูลย์บริหารธุรกิจ หรือวีแบค ภายในซอยรามอินทรา 39 แขวงอนุสาวรีย์ชัย เขตบางเขน จำเลยทั้งสองกับเยาวชนอีก 2 คนที่แยกฟ้องไปแล้วได้ขี่จักรยานยนต์คนละคันโดยมีเยาวชนซ้อนท้ายปาดหน้าและประกบจักรยานยนต์ของนายอนุดิษฏ์ จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนสั้นไม่ทราบชนิด และขนาดจ่อศีรษะผู้เสียหายแล้วพูดจาข่มขู่ ก่อนปล้นเอาจักรยานยนต์ราคา 60,000 บาทของผู้เสียหายหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ติดตามจับกุมตัวจำเลยทั้งสองได้ และให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าฝ่ายโจทก์มีผู้เสียหายเบิกความยืนยันเป็นลำดับขั้นตอน ไม่มีข้อพิรุธสงสัยว่า จะเบิกความปรักปรำใส่ร้ายจำเลยให้ต้องรับผิด เชื่อว่าเบิกความไปตามจริง เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง
พิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง, 83 พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 วรรคสาม ฐานร่วมกันปล้นทรัพย์จำคุกคนละ 18 ปี ฐานมีอาวุธปืนฯ จำคุกคนละ 8 เดือน และฐานพกพาอาวุธปืนฯ จำคุกอีกคนละ 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 18 ปี 14 เดือน คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยคนละ 9 ปี 7 เดือน
