ส.ส.เพื่อแม้วหอบหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีบอร์ด กสท ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ปล่อย “ทรูมูฟ” ตั้งสถานีบริการระบบ 3 จี เกินกว่าข้อสัญญา และยังเดินหน้าอนุญาตให้ทดลองระบบดังกล่าวต่อไป ขณะที่ รองผบก.ป.รับเรื่องไว้ตรวจสอบ ลั่นจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองปราบปราม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมาธิการ การเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคณะกรรมการและผู้บริหารบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ซึ่งทำหน้าที่ระหว่างวันที่ 26 เมษายน - 23 ธันวาคม 2553 ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ได้นำสำเนาหนังสือที่บริษัท กสท.โทรคมนาคมฯ อนุมัติให้บริษัท ทรูมูฟ จำกัด ตั้งสถานีบริการเทคโนโลยี HSPA หรือระบบ 3 จี รวม 656 สถานี สำเนาหนังสือแจ้งยกเลิกให้ทดลองระบบ 3 จี และให้รื้อถอนอุปกรณ์ และสำเนาหนังสือให้ตั้งสถานีทดลองระบบ 3 จี เพิ่มเป็น 1,433 สถานี มอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
นายสุรพงษ์กล่าวว่า การเข้าแจ้งความครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) อนุมัติให้บริษัท กสท โทรคมนาคมฯ ปรับปรุงระบบการสื่อสารเป็น 3 จี เมื่อปี 2551 จากนั้นบริษัท กสท โทรคมนาคมฯ ได้อนุญาตให้บริษัท ทรูมูฟ ทดลองตั้งสถานีให้บริการระบบ 3 จี จำนวน 656 สถานี แต่ปรากฏว่าทางบริษัท ทรูมูฟ กลับกระทำผิดเงื่อนไขโดยตั้งสถานีเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ กระทั่งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 บริษัท กสท โทรคมนาคมฯ จึงมีหนังสืออ้างมติที่ประชุมบอร์ดให้ยกเลิกการทดลองให้บริการระบบ 3 จี พร้อมทั้งให้รื้อถอนอุปกรณ์ทั้งหมด แต่บริษัท ทรูมูฟ ก็ยังไม่ดำเนินการ และยังคงทดลองบริการระบบ 3 จี
นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เข้ามากำกับดูแลจึงมีการประชุมคณะกรรมการและผู้บริหารบริษัท กสท โทรคมนาคมฯ ก่อนมีมติเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2553 อนุญาตให้บริษัท ทรูมูฟ ทดลองบริการระบบ 3 จี ต่อไปได้และยังเพิ่มสถานีบริการเป็น 1,433 สถานี
"การกระทำของบริษัท กสท โทรคมนาคมฯ ที่พบเห็นว่าบริษัท ทรูมูฟ กระทำผิดเงื่อนไขแต่กลับไม่ใช้อำนาจบังคับให้ยกเลิกการทดลองระบบ 3 จี จึงเข้าข่ายเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้ และนอกจากนี้ก็เตรียมจะแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกนับ 10 เรื่อง ซึ่งพบการกระทำที่เข้าข่ายความผิดโดยภายในสัปดาห์หน้าจะนำเรื่องเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.อีกด้วย” ส.ส.พรรคเพื่อไทยกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า พนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบหากเป็นเรื่องความผิดเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐตามที่มีการกล่าวหาก็จะต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองปราบปราม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมาธิการ การเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคณะกรรมการและผู้บริหารบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ซึ่งทำหน้าที่ระหว่างวันที่ 26 เมษายน - 23 ธันวาคม 2553 ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ได้นำสำเนาหนังสือที่บริษัท กสท.โทรคมนาคมฯ อนุมัติให้บริษัท ทรูมูฟ จำกัด ตั้งสถานีบริการเทคโนโลยี HSPA หรือระบบ 3 จี รวม 656 สถานี สำเนาหนังสือแจ้งยกเลิกให้ทดลองระบบ 3 จี และให้รื้อถอนอุปกรณ์ และสำเนาหนังสือให้ตั้งสถานีทดลองระบบ 3 จี เพิ่มเป็น 1,433 สถานี มอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
นายสุรพงษ์กล่าวว่า การเข้าแจ้งความครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) อนุมัติให้บริษัท กสท โทรคมนาคมฯ ปรับปรุงระบบการสื่อสารเป็น 3 จี เมื่อปี 2551 จากนั้นบริษัท กสท โทรคมนาคมฯ ได้อนุญาตให้บริษัท ทรูมูฟ ทดลองตั้งสถานีให้บริการระบบ 3 จี จำนวน 656 สถานี แต่ปรากฏว่าทางบริษัท ทรูมูฟ กลับกระทำผิดเงื่อนไขโดยตั้งสถานีเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ กระทั่งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 บริษัท กสท โทรคมนาคมฯ จึงมีหนังสืออ้างมติที่ประชุมบอร์ดให้ยกเลิกการทดลองให้บริการระบบ 3 จี พร้อมทั้งให้รื้อถอนอุปกรณ์ทั้งหมด แต่บริษัท ทรูมูฟ ก็ยังไม่ดำเนินการ และยังคงทดลองบริการระบบ 3 จี
นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เข้ามากำกับดูแลจึงมีการประชุมคณะกรรมการและผู้บริหารบริษัท กสท โทรคมนาคมฯ ก่อนมีมติเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2553 อนุญาตให้บริษัท ทรูมูฟ ทดลองบริการระบบ 3 จี ต่อไปได้และยังเพิ่มสถานีบริการเป็น 1,433 สถานี
"การกระทำของบริษัท กสท โทรคมนาคมฯ ที่พบเห็นว่าบริษัท ทรูมูฟ กระทำผิดเงื่อนไขแต่กลับไม่ใช้อำนาจบังคับให้ยกเลิกการทดลองระบบ 3 จี จึงเข้าข่ายเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้ และนอกจากนี้ก็เตรียมจะแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกนับ 10 เรื่อง ซึ่งพบการกระทำที่เข้าข่ายความผิดโดยภายในสัปดาห์หน้าจะนำเรื่องเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.อีกด้วย” ส.ส.พรรคเพื่อไทยกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า พนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบหากเป็นเรื่องความผิดเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐตามที่มีการกล่าวหาก็จะต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย