พิลึก! แจ้งจับ “พ.ต.ท.” อ้างถูกตบจ่อปืนขู่แล้วถอนแจ้งความหน้าตาเฉย

“ส.ต.ท.” เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดี “พ.ต.ท.” ฝ่ายสืบสวนภาค 7 อ้างถูกทำร้ายร่างกาย ชิงทรัพย์ ใช้ปืนข่มขู่ ขณะเข้าไปเจรจาระงับเหตุ “พ.ต.ท.” เมาสุราอาละวาดในร้านอาหารแถวนครปฐม แต่พอมีโทรศัพท์เรียกเข้าจังหวะให้ปากคำพนักงานสอบสวน “ส.ต.ท.” เปลี่ยนใจไม่แจ้งความเอาผิดและเดินทางกลับทันที

วันนี้ (30 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่กองปราบปราม ส.ต.ท.สิทธิชัย ดีทองคำ ผบ.หมู่งานสืบสวนตรวจตราและควบคุม กก.ดส. บช.น.เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ชวลิต หาญเสน่ห์ลักษณ์ พนักงานสอบสวน (สบ2) กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายตำรวจ ยศ. พ.ต.ท. สังกัด ฝ่ายสืบสวน บช.ภ.7 ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ชิงทรัพย์ และใช้อาวุธปืนข่มขู่ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

ส.ต.ท.สิทธิชัย กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ ตี 1 กว่าๆ ของวันที่ 30 มี.ค.ได้ไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งเป็นร้านของรุ่นน้องที่สนิทกัน ระหว่างนั้นมีชายคนหนึ่งซึ่งไม่เคยรู้จักมาก่อน นั่งดื่มกินอยู่ในร้านเดียวกันพร้อมกับพวกประมาณ 6 คน โดยชายคนดังกล่าวลักษณะท่าทางอยู่ในอาการเมาสุราอย่างหนัก ได้ขึ้นมาบนเวทีและเอะอะโวยวายส่งเสียงดัง พร้อมกับข่มขู่ให้ปิดไฟและปิดร้าน จากนั้นรุ่นน้องที่ดูแลร้านอยู่จึงขอให้ตนเข้าไปช่วยเจรจา จึงได้เข้าไปคุยกับชายคนดังกล่าวพร้อมแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กลับถูกชายคนดังกล่างจับกดให้นอนลงกับพื้นและใช้อาวุธปืนข่มขู่ แล้วตรวจค้นตัวพบกุญแจมือและค้นกระเป๋าสตางค์พบบัตรเจ้าพนักงานตำรวจ ต่อมาได้ดึงตนให้ลุกขึ้นมาพร้อมกับตบหน้า 1 ที พร้อมกล่าวว่า “กูไม่เชื่อหรอกว่ามึงเป็นตำรวจ” ก่อนจะปล่อยตัวกลับไป แต่ได้ยึดกระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์เอาไว้

ส.ต.ท.สิทธิชัย กล่าวต่อไปว่า ขณะเกิดเหตุยอมรับว่า ดื่มสุรา แต่ไม่ถึงกับเมา จากนั้นชายคนดังกล่าวได้สั่งให้ลูกน้องเชิญตนไปที่ สภ.เมือง จ.นครปฐม เพื่อพูดคุยกันพร้อมกับคืนโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ให้ก่อนปล่อยตัวกลับไป ซึ่งตรวจพบว่าเงินได้หายไปกว่า 2,000 บาท

“จากการตรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าวเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.ท.สังกัดฝ่ายสืบสวน บช.ภ.7 จากนั้นผมก็ได้โทรศัพท์รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ โดยผู้บังคับบัญชาได้บอกให้มาแจ้งความที่กองปราบฯ เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม” ส.ต.ท.สิทธิชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำอยู่นั้น ส.ต.ท.สิทธิชัย ได้คุยโทรศัพท์จากนั้นไม่นานก็แจ้งกับพนักงานสอบสวนว่าไม่ขอแจ้งความ และเดินทางกลับไปทันที