น่าน - เศรษฐกิจแย่ โจรชุกชุมแฝงตัวหาบ้านเหยื่อ วันเดียวถูกงัด 3 ราย ตำรวจเร่งเก็บหลักฐานเตรียมล่าหัวขโมย คาดแฝงตัวเป็นเซลล์ตระเวนหาบ้านเหยื่อ
พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ คำบุญเรือง สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองน่าน ได้รับแจ้งว่ามีเหตุงัดแงะที่บ้านของนางฟองจันทร์ ยาใจ อายุ 82 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 4 ต.กองควาย อ.เมือง จ.น่าน วานนี้ (24 มี.ค.) จึงประสานตำรวจชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องนอนถูกรื้อค้น ข้าวของกระจัดกระจาย
นางฟองจันทร์ ยาใจ อายุ 82 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ออกไปสวนตั้งแต่เช้าและกลับบ้านตอนเย็น พอเข้าห้องนอนก็พบว่าภายในห้องถูกรื้อค้น และเงินสดที่เก็บไว้ในกระป๋องซ่อนไว้ในตู้โต๊ะเครื่องแป้ง หายไปจำนวน 7 พันบาท
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจหาหลักฐาน ก็ได้รับแจ้งเหตุงัดแงะที่บ้านของนายเดช วงศ์เทพ อายุ 70 ปี เลขที่ 1 หมู่ 2 บ้านดู่ใต้ อ.เมือง จ.น่าน ซึ่งห่างจากบ้านหลังแรกประมาณ 10 กิโลเมตร จึงรีบรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ อีกหลัง ซึ่งพบว่าภายในบ้านถูกรื้อค้นตามห้องต่างๆ แต่ไม่มีทรัพย์สินหาย
นายเดช วงศ์เทพ อายุ 70 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า เมื่อกลับเข้าบ้านพบประตูถูกงัด และภายในก็ถูกรื้อค้นทั่วบ้าน แต่เนื่องด้วยตนและครอบครัวไม่ค่อยได้อยู่บ้าน จึงไม่ได้เก็บทรัพย์สินมีค่าไว้ในบ้าน คาดว่า คนร้ายคงจะพยายามรื้อค้นหา แต่ไม่มีสิ่งของให้หยิบฉวยออกไปได้ จะมีก็แต่เพียงเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งก็มีขนาดใหญ่ ยากลำบากต่อการขนย้าย โจรจึงไม่ขโมยไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกหลักฐานและตรวจสอบภายในบ้าน ก็ได้รับอีกว่ามีเหตุงัดแงะที่บ้านของ นางเยาวลักษณ์ อัทธยศ อายุ 48 ปี เลขที่ 42/10 ถ.ราษฎรอำนวย ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน จึงรีบตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเจ้าของบ้านยืนรอด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และพาไปยังห้องนอน ชี้จุดเก็บทรัพย์สิน ในลิ้นชักหัวเตียงและลิ้นชักตู้เสื้อผ้า
นางเยาวลักษณ์ เล่าว่า หลังเลิกงานเมื่อกลับบ้านพบว่าภายในบ้านถูกรื้อค้น ข้าวของกระจัดกระจาย จึงตรวจดูตามห้องต่างๆ และพบว่า สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ข้อมือ 1 บาท แหวนทองคำหนัก 1 สลึง 5 วง ที่เก็บไว้ในลิ้นชักหัวเตียงหายไป นอกจากนี้ยังมีเข็มขัดเงินโบราณ 2 เส้น และออมสิน 1 กระปุก ไม่ทราบจำนวนเงิน หายไปด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกเป็นหลักฐาน ก่อนประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดน่าน เข้าตรวจเก็บหลักฐานบ้านที่เกิดเหตุทั้ง 3 หลัง
พ.ต.อ.สิทธิชัย ทนันไชย ผกก.สภ.เมืองน่าน กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่า หัวขโมยรายนี้น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และเป็นคนต่างถิ่น โดยแฝงตัวมาในลักษณะเซลล์ขายสินค้า ตระเวนหาซื้อที่ หรือเช่าบ้าน เพื่อหาข้อมูลในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งหากพบว่าบ้านหลังไหนปลอดคน หรือไม่ค่อยมีใครอยู่บ้านในเวลากลางวันหรือกลางคืน ก็จะวางแผนลงมืองัดแงะ ซึ่งขณะนี้ได้หลักฐานบางส่วนแล้ว และได้ให้ทางชุดสืบสวนติดตาม ขยายผล คาดว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ในเร็ววัน
อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระวังภัย โดยแต่ละชุมชนต้องช่วยกันสอดส่อง และเฝ้าสังเกตบุคคลแปลกหน้าต่างถิ่นเข้าออกหมู่บ้าน ไม่ว่าจะในรูปแบบใด เพื่อป้องกันภัยในระดับหนึ่ง และแจ้งเบาะแสให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
