คนร้ายควบ จยย.ปีนทางเท้าวิ่งราวเหยื่อสาวสูญเกือบล้าน!

สองคนร้ายควบ จยย.มาคนละคัน แล้วจอดรอท่าอยู่ริมถนน ส่วนอีกคันไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับปีนขึ้นฟุตปาธกระชากกระเป๋าเหยื่อสาวหุ้นส่วนธุรกิจส่งออกของครอบครัว ขณะกำลังเดินนำเงินไปให้พนักงานขึ้นเงิน และใช้จ่ายเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท เจ้าตัวเผยสูญเงินสด 1.2 แสนบาท เช็คเงินสดอีกหลายแสน รวมมูลค่าเกือบล้านบาท ชี้ คนร้ายอายุประมาณ 19 ปี หลังเกิดเหตุได้พยายามวิ่งตามพร้อมตะโกนให้คนช่วย แต่ไม่ทันคนร้าย

วันนี้ (29 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ร.ต.ต.ณัฐพล ชุ่มบัวตอง พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์บริเวณซอยพระราม 3/37 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.บางโพงพาง

ที่เกิดเหตุบนฟุตปาธ พบ น.ส.พรรษมณฑ์ เตมีเจตน์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1138/39 ตรอกวัดจันทร์ใน แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตื่นตระหนก พร้อมกับเปิดเผยว่า ตนทำงานอยู่ที่บริษัท พา-สยาม อินเตอร์เทรด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทส่งออกอาหารสำเร็จรูป และเป็นธุรกิจกงสีของครอบครัว ก่อนเกิดเหตุตนและแฟนหนุ่มได้ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค หมายเลขทะเบียน จย 5434 กรุงเทพมหานคร ออกมาจากบ้านพักย่านถนนพระราม 2 จากนั้นก็นำรถไปจอดไว้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขารัชดา-ท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ ก่อนจะเดินไปตามฟุตปาธ เพื่อเข้าไปยังบริษัทที่อยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก โดยถือกระเป๋าที่มีเงินสดแ ละเช็คเอาไว้ข้างลำตัว ระหว่างนั้นมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับรถ จยย.มาคนละคัน โดยคนร้ายที่ขับรถ จยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้ขับรถ จยย.ขึ้นมาบนฟุตปาธ และกระชากกระเป๋าของตนไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขับหลบหนีไป พร้อมกับคนร้ายที่จอดรถรออยู่ริมถนน ซึ่งตนพยายามวิ่งตาม และตะโกนให้คนช่วย แต่ไม่สามารถจับคนร้ายได้ ส่วนแฟนของตนที่เดินตามกันมาติดๆ นั้น ตนก็ส่งสัญญาณบอกไม่ทัน เพราะไม่คิดว่าจะถูกก่อเหตุ

น.ส.พรรษมณฑ์ กล่าวต่อไปว่า ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปเป็นเงินสด จำนวน 1.2 แสนบาท เช็คเงินสดของธนาคารกสิกรไทย ระบุจำนวนเงิน 1.5 แสน 3 ใบ และเช็คเงินสด ระบุจำนวนเงิน 8 หมื่นบาท อีก 4 ใบ รวมมูลค่าเกือบล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินที่จะต้องนำไปให้พนักงานขึ้นเงิน และใช้จ่ายเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท ซึ่งตนได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ทำการอายัดการเบิกเช็คดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

“ทั้งนี้ เงินสดและเช็คที่ถูกคนร้ายวิ่งราวไปนั้น ฉันไม่ได้เพิ่งเบิกออกมาจากธนาคาร แต่เอาติดตัวมาจากบ้านพัก เพื่อนำมามอบให้พนักงาน ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น สำหรับรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายที่เป็นคนกระชากกระเป๋า เป็นชายอายุประมาณ 19 ปี ไว้ผมยาวประบ่า สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำตาล นุ่งกางเกงขาสั้น ส่วนอีกคนสวมหมวกกันน็อก และเสื้อคลุมจึงไม่ทันสังเกต ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ยังไม่ได้สงสัยใครในบริษัท เพราะคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ อีกทั้งประชาชนที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ บอกว่า บริเวณดังกล่าวมีการกระชากกระเป๋ากันบ่อยครั้ง เบื้องต้นมีกล้องวงจรปิดตรงที่เกิดเหตุ 1 ตัว แต่ทางเจ้าของกล้อง บอกว่า เสีย” น.ส.พรรษมณฑ์ กล่าว

ด้าน ร.ต.ต.ณัฐพล กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่จะต้องสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายเพิ่มเติม และให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียง เพื่อหาเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจ หากพบกลุ่มวัยรุ่นที่มีรูปพรรณสัณฐานตรงตามที่ผู้เสียหายให้การ ก็ให้ทำการตรวจค้นและคุมตัวมาสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป