รถพ่วง 18 ล้อเฉี่ยวชน จยย.ทับร่าง นร.หญิงชั้น ม.2 เละ แขน-ขาหัก ส่วนเพื่อนชายโรงเรียนเดียวกันรอดแค่บาดเจ็บ ตร.ตามจับกุมโชเฟอร์รถพ่วงทันควัน สารภาพบรรทุกทรายเต็มคันรถ จะไปส่งย่านคลองเตย อ้างรถ จยย.ผู้ตายขับแซงขวาปาดหน้า ทำให้พุ่งชนอย่างแรง จนเกิดเหตุสลดดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจนำตัวไปสอบปากคำ ก่อนแจ้งข้อหาตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ร.ต.ท.ชนะมาร เต็นปักษี พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถพ่วงชนกับรถ จยย.บริเวณถนนพระราม 3 หน้าปากซอย 29 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบรถพ่วงยี่ห้อนิสสันสีฟ้า หมายเลขทะเบียนหัวรถ 84-1826 นครปฐม และตัวพ่วงทะเบียน 84-1832 นครปฐม ซึ่งเป็นของบริษัทรจนาพัฒนา จำกัด โดยมีนายพิทักษ์ แสงฤทธิ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 7 ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นผู้ขับขี่ ใกล้กันพบรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีแดงคาดดำ หมายเลขทะเบียน รลษ-696 กทม.ล้มคว่ำอยู่บริเวณเลนซ้ายของถนน ตรวจสอบพบร่าง ด.ญ.เสาวลักษณ์ เคนสุวรรณ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนยานนาวาวิทยา ติดอยู่ที่ล้อหลังด้านซ้ายของพ่วง ในสภาพสวมชุดนักเรียน มีบาดแผลศีรษะแตก ร่างกายแหลกเหลว แขนขาหักผิดรูป
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีร่องรอยถูกรถพ่วงลาก เป็นทางยาวกว่า 5 เมตร และมีเศษชิ้นเนื้อ มันสมอง เศษผม และเศษชิ้นส่วนของรถ จยย.กระจายเต็มพื้นถนน ท่ามกลางสายตาของผู้ที่มามุงดูด้วยความสลด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำแม่แรงมายกรถพ่วงขึ้นจึงสามารถนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาได้ นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหนึ่งราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายพรเทพ โพธิ์เตี้ย อายุ 15 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนเดียวกันกับผู้ตาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว
จากการสอบถาม นางหอม อ่อนสุข อายุ 53 ปี กล่าวว่า ตนเป็นแม่ของ ด.ญ.เสาวลักษณ์ ก่อนเกิดเหตุลูกสาวกำลังเดินทางกลับบ้านพร้อมเพื่อนชายที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเสียก่อน พอตนทราบก็ตกใจมากและรีบเดินทางมาดู เมื่อเห็นลูกเสียชีวิตก็ตกใจและเสียใจมาก เพราะปกติแล้วลูกสาวเป็นเด็กดี เรียนเก่ง และช่วยแม่ทำงานหาเงินในช่วงวันหยุด ไม่น่าจะจากครอบครัวไปเร็วอย่างนี้
จากการสอบสวน นายพิทักษ์ ให้การว่า ตนเป็นพนักงานขับรถของบริษัท รจนาพัฒนา จำกัด ก่อนเกิดเหตุได้บรรทุกทรายมาเต็มคันรถ เพื่อนำไปส่งที่ย่านคลองเตย ตนได้ขับรถมาทางคู่ขนานมุ่งหน้าถนนสาธุประดิษฐ์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนสังเกตเห็นรถ จยย.คันหนึ่งวิ่งแซงขวามาแล้วเข้าซ้าย และเห็นรถจยย.ของผู้ตาย วิ่งลงมาจากสะพานยกระดับทางขวามือตน แล้วหักเข้ามาในเลนซ้ายปาดหน้ารถตนเช่นกัน ซึ่งจังหวะนั้นตนพยายามเบรกแต่ก็ไม่ทัน จึงเฉี่ยวรถ จยย.คันแรกนิดเดียว ก่อนชนรถจยย.ของผู้ตายเข้าอย่างแรง จนเกิดเหตุสลดดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำพยานและผู้บาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมควบคุมตัวนายพิทักษ์ไปสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สน.บางโพงพาง ก่อนแจ้งข้อหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
