มือยิงเสี่ยกาแฟอ้างไม่มีคนจ้าง แค้นผู้ตายสั่งเก็บผู้มีพระคุณ

“นครบาล” แถลงจับทีมยิงเสี่ยกาแฟ “ลาวีต้า” หลังตามจับตัวได้ขณะหลบซ่อนในโรงแรม จ.มหารสารคาม สารภาพวางแผนเฝ้าติดตามผู้ตายมา 1 เดือน ที่ลงมือสังหาร เพราะผู้ตายจะยิง “เฮียโอ้ย” ผู้มีพระคุณ จึงชิงลงมือ อ้างไม่มีใครจ้างวาน ก่อนที่จะขอเงินจากเฮียโอ้ยหลบหนี และแบ่งให้กับพรรคพวก ขณะที่ ตร.ออกหมายจับทีมสังหารอีกหนึ่งที่ยังหลบหนี ส่วนเฮียโอ้ยจะเร่งตามตัวมาสอบว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่

วันนี้ (3 มี.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบก.สส. แถลงจับกุม นายพยนต์ หรือ ฟลุ๊ค รัตนเดชา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 454/45 ซ.วัดไผ่เงิน แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. และ นายณัฐวุฒิ หรือ โอม ศาสนาไทย อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 454/35 ซ.ประดู่ 11/1 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม.ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 122, 123/2554 ลงวันที่ 3 มี.ค.2554 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมของกลางรถยนต์เชฟโรเลต สีดำ ทะเบียน ฎฬ 6497 กทม.และเงินสด 17,920 บาท โดยจับกุมได้ที่ โรมแรมได้มอนรีสอร์ท ถนนมหาสารคาม-วาปีปทุม ต.แวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม

พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายสมชาย เหลืองตระกูล เจ้าของธุรกิจกาแฟสำเร็จรูปลาวีต้า ขณะกำลังวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ใต้สะพานพระราม 9 ถนนพระราม 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม.ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มูลเหตุจูงใจในคดีนี้เกิดจากความขัดแย้งทางธุรกิจของผู้ตายกับผู้จ้างวาน และได้ให้กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งมีความใกล้ชิดวางแผนลงมือก่อเหตุ ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มีส่วนเกี่ยวข้องและได้หลบหนีไปพักที่โรงแรมดังกล่าวจึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้พร้อมของกลาง

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดย นายพยนต์ กล่าวว่า เป็นมือยิงผู้ตายโดยมีนายณัฐวุฒิ เป็นผู้ขี่ จยย.ทะเบียน ษขง 861 กทม.ในการก่อเหตุ และมี นายเอฟ โรจนประดิษฐ์ อายุ 29 ปี เป็นคนชี้เป้า ซึ่งพวกตนได้วางแผนและเฝ้าดูผู้ตายประมาณ 1 เดือน โดยนายเอฟ ติดตามผู้ตายจากบ้านพักมายังจุดเกิดเหตุ ก่อนโทรศัพท์แจ้งให้ตนทราบ เมื่อได้โอกาสจึงลงมือก่อเหตุแล้วหลบหนีไป โดยได้ขอเงินจากผู้ใช้จ้างวาน 200,000 บาท เพื่อหลบหนี โดยแบ่งให้ นายเอฟ 50,000 บาท และ นายณัฐวุฒิ 30,000 บาท ซึ่งพวกตนทำกันเองไม่มีผู้จ้างวานแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุเนื่องจากได้ยินข่าวว่าผู้ตายจะก่อเหตุยิง “เฮียโอ้ย” ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณของตน และอดีตเคยเป็น กต.ตร.สน.วัดพระยาไกร และ สน.บางโพงพาง โดยเฮียโอ้ย เคยบอกว่า ถ้าเฮียเป็นไรไปก็เป็นผีมือของผู้ตาย ตนจึงชิงลงมือยิงผู้ตายก่อน จากนั้นได้โทรศัพท์ไปบอกเฮีย เพื่อขอเงินในการหลบหนี ส่วนอาวุธปืนนำไปทิ้งที่เกาะกลางถนนใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ จนกระทั่งถูกจับกุมได้ดังกล่าว

พล.ต.ต.รณศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้ศาลได้ออกหมายจับนายเอฟ แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี พร้อมกับจะเร่งติดตามตัวเฮียโอ้ย มาทำการสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ก่อนดำเนินการต่อไป