ตำรวจท่องเที่ยวบุกซิวตัวกรรมการบริษัทฟลามิงโก ที่หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าทัวร์ประเทศเกาหลีแล้วปิดบริษัทหนีไป ขณะเจ้าตัวนั่งแท็กซี่กลับแมนชั่นตอนเช้ามืด อ้างไม่ได้ตั้งใจโกง แต่เป็นเพราะขาดทุนตั้งแต่ต้นเนื่องจากหาตั๋วสายการบินโลว์คอสต์ไม่ได้เลยต้องไปใช้สายการบินราคาสูง จนต้องขาดทุนรายละ 1 หมื่น ที่ผ่านมาพยายามหมุนเงินพาลูกค้าไปทัวร์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว
จากกรณีมีกลุ่มผู้เสียหายกว่า 100 รายเข้าร้องเรียนต่อนายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และพล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตรสุขศรี ผบก.ทท.ว่าถูกบริษัท ฟลามิงโก อินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวล จำกัด หลอกให้โอนเงินค่าทัวร์ประเทศเกาหลีแล้วปิดบริษัทหนีไป พร้อมทั้งให้ช่วยติดตามจับกุมตัวนายปรีชา ดวงศรี อายุ 29 ปี กรรมการบริษัทดังกล่าวตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้ (29 มี.ค.) พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตรสุขศรี ผบก.ทท. พ.ต.อ.สาคร ศรีรัตนประยูร ผกก.1 บก.ทท. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจ กก.1 บก.ทท.ประมาณ 10 นาย นำหมายจับศาลอาญาเลขที่ 509/2554 ลงวันที่ 28 มี.ค.2554 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เข้าจับกุมนายปรีชา ดวงศรี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 17 ต.ตลาดไทร อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา กรรมการบริษัท ฟลามิงโก อินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวล จำกัด ขณะเจ้าตัวนั่งรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้าอัลติส สีเหลือง หมายเลขทะเบียน ทล-8613 กทม. กลับเข้ามาบริเวณลานจอดรถอาคารเพชรคณา แมนชั่น ซอยรัชดาภิเษก 7 ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายปรีชาให้การรับสารภาพว่าไม่ได้ตั้งใจโกงลูกค้าที่มาซื้อทัวร์กับทางบริษัทแต่เป็นขาดทุนมาตั้งแต่ต้น เนื่องจากตนเรียกเก็บค่าทัวร์เพียงแค่รายละ 17,900 บาท และตั้งใจจะจัดหาตั๋วเครื่องบินของสายการบินโลว์คอสต์ให้ลูกค้า แต่ก็ไม่สามารถจัดหาตั๋วของสายการบินเหล่านั้นได้ ทำให้ต้องไปซื้อตั๋วกับสายการบินที่ราคาสูงกว่าจนต้องขาดทุนรายละประมาณ 10,000 บาท ตนต้องนำเงินจากลูกค้าที่ซื้อทัวร์ในทริปต่อมาไปโปะเพื่อให้ลูกค้าที่ซื้อทัวร์ในทริปแรกๆ สามารถเดินทางไปเที่ยวได้
นายปรีชากล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันที่ 2-24 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนพยายามจะให้ทุกคนที่จองทริปทัวร์ไว้กับบริษัทของตนได้เดินทางไปเที่ยวให้มากที่สุด แต่ก็ไม่สามารถนำไปได้หมด เพราะไม่มีเงิน เนื่องจากไม่สามารถหมุนเงินได้ทันแล้ว หลังถูกจับกุมก็ต้องยอมให้ตำรวจดำเนินคดี เพราะตอนนี้ไม่มีเงินคืนลูกค้าแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจโกงลูกค้า เพราะหากตั้งใจโกงแล้ว คงจะปิดบริษทหนีไปตั้งแต่แรก ไม่พยายามหาทางพาลูกค้าไปเที่ยวอย่างที่ผ่านมา
ด้าน พ.ต.อ.ชาครกล่าวว่า ในเรื่องนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวให้ความสนใจมากเพราะทำให้เสียภาพพจน์ จึงทำการสืบสวนและเร่งติดตามจับกุมจนกระทั่งสามารถจับกุมตังขณะผู้ต้องหากำลังนั่งรถกลับเข้ามาที่พัก ทั้งนี้ จากกาารตรวจสอบประวัติของนายปรีชานั้นพบว่า เคยถูกจับดำเนินคดีที่ จ.นครราชสีมา และสน.เตาปูน ข้อหาประกอบกิจการทัวร์โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่สามารถไกล่เกลี่ยค่าเสียหายกับกลุ่มผู้เสียหายได้ ซึ่งหลังจากนี้จะควบคุมตัวไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะนำตัวมาแถลงข่าวในเวลา 10.00 น.วันนี้ (29 มี.ค.) ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เหยื่อจี้ ตร.เร่งจับเจ้าของ “ฟลามิงโก” ตุ๋นพาทัวร์เกาหลีปิดบริษัทหนี!