“นครบาล” เตรียมเสนอ ตร.ตั้ง สน.เพิ่มอีก 10 แห่ง แบ่งเบาพื้นที่ดูแลจาก 88 สน.เดิม ตั้งเป้าลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ กทม.
วันนี้ (13 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. ได้เตรียมเรื่องเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อขอเพิ่มสถานีตำรวจพื้นที่กทม. สังกัดบช.น. อีก 10 สน. จากเดิม 88 สน. เป็น 98 สน. หลังได้มีการประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบช.น. ผบก.1-9 และ ผกก.สน.ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่สน. ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เพื่อหาข้อสรุปแนวทางการดำเนินการ และรวบรวมข้อมูลการแบ่งเขตพื้นที่ สน.ใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้มีตำแหน่งนายตำรวจระดับ ผกก., รอง ผกก., สว.เพิ่มอัตราใหม่ขึ้นมาอีกด้วย
มีรายงานว่า สน.ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ที่มีการเสนอชื่อทั้ง 10 สน.มีดังนี้ 1.สน.บางบัว สังกัด บก.น 2 จะมีการแบ่งเขตมาจากพื้นที่ สน.บางเขน และ สน.ทุ่งสองห้อง 2.สน.คลองสามวา แบ่งเขตออกมาจากพื้นที่ สน.คันนายาว 3.สน.ทรายกองดิน สังกัด บก.น.3 มีการแบ่งเขตออกมาจากพื้นที่ สน.มีนบุรี 4.สน.สะพานสูง สังกัด บก.น.4 แบ่งเขตพื้นที่สน.หัวหมาก สน.ประเวศ และสน.บางชัน ออกมา 5.สน.วังหิน แบ่งเขตส่วนหนึ่งออกมาจากพื้นที่สน.โชคชัย 6.สน.คลองเตย สังกัด บก.น.5 แบ่งจาก สน.ทองหล่อ และสน.คลองตัน 7.สน.บางจาก สังกัด บก.น.5 แบ่งจาก สน.พระโขนงและสน.บางนา 8.สน.ประชาอุทิศ สังกัด บก.น.8 แบ่งจาก สน.ราษฎร์บูรณะ 9.สน.จอมทอง สังกัด บก.น.9 แบ่งจาก สน.บางขุนเทียน และ 10.สน.เอกชัย สังกัด บก.น.9 แบ่งจาก สน.ท่าข้าม
นอกจากนี้ สน.ที่รับผิดชอบพื้นที่ทางน้ำจะยกระดับให้มี ผกก.เป็นหัวหน้าสถานี จำนวน 4 สน. คือ 1.สน.บางโพ สังกัด บก.น.1 พร้อมทั้งเพิ่มพื้นที่ทางบกให้รับผิดชอบ โดยแบ่งเขตพื้นที่มาจาก สน.สามเสน และสน.เตาปูน 2.สน.บวรมงคล สังกัด บก.น.7 เพิ่มเติมพื้นที่ทางบก โดยแบ่งเขตพื้นที่จาก สน.บางยี่ขัน ให้รับผิดชอบเพิ่มเติม 3.สน.ปากคลองสาน สังกัด บก.น.8 และ4.สน.บางคอแหลม สังกัด บก.น.8 โดยทาง บช.น. นำเรื่องดังกล่าวเสนอ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พิจารณาอนุมัติหลักการเพื่อประกาศเป็นกฎกระทรวง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามในราชกิจจานุเบกษา หลังประกาศแต่งตั้งเรียบร้อยจะเข้าสู่ สตช. อีกครั้ง
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.อก.บช.น. กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันบางพื้นที่มีสภาพปัญหาอาชญากรรมสูง บางโรงพัก เช่น สน.บางเขน สน.โชคชัย สน.คันนายาว เป็นต้น มีพื้นที่รับผิดชอบมากเป็นอุปสรรคในการทำงาน จึงจำเป็นต้องมีซอยพื้นที่ออกมาเพิ่มสถานีตำรวจขึ้น เป้าหมาย คือ ลดปัญหาอาชญากรรม อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน เป็นการแบ่งเขตความรับผิดชอบของตำรวจให้เล็กลงเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้น รวมทั้งเส้นแบ่งเขตคู คลอง ถนน ต่างๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงไป
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า การแบ่งสถานีตำรวจใหม่จะมีการจำแนกดังนี้ 1.สถานีตำรวจที่มีปริมาณการเกิดคดีอาชญากรรมสูงต้องแบ่งพื้นที่ออกมากึ่งหนึ่ง 2.สถานีตำรวจที่มีเขตรับผิดชอบทางน้ำให้เพิ่มทางบก เพราะปัจจุบันแผนผังโครงสร้างเมืองได้เปลี่ยนแปลงไป 3.มีการจับกลุ่ม 5 สถานีตำรวจแล้วนำมาแบ่งพื้นที่แยกออกมาอีก 1 สน. โดยดูและปรับเขตรับผิดชอบ และ 4.โรงพักใดที่ขึ้นกับศาลหลายแห่งก็จะปรับให้เหลือ 2 ศาล เช่น สน.คันนายาว มีคดีต้องขึ้นศาล 3 แห่ง โดยมีเพียง 5 กม. ต้องขึ้นกับศาลมีนบุรี อาจเปลี่ยนพื้นที่ไปท้องที่ สน.มีนบุรี แทน
“เกณฑ์การตั้งชื่อ สน.จะต้องเป็นชื่อที่ประชาชนคุ้นเคย และง่ายต่อการจดจำ อาจเป็นชื่อที่สอดคล้องกับหน่วยราชการในท้องที่ โดยชื่อ สน.ห้ามใช้ชื่อของผู้สนับสนุน หรืออุปถัมภ์อย่างเด็ดขาด สถานีตำรวจใหม่อาจจะต้องเช่าสถานที่ก่อนระหว่างรอสร้างอาคาร โรงพักแห่งใหม่ก็ไม่จำเป็นต้องมีห้องขังแต่จะให้ใช้ห้องขังของโรงพักเก่าแทน โดย สน.ใหม่จะเน้นจุดรับแจ้งความคอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน รวมทั้ง สน.ต้องตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งชุมชน หรือจุดที่มักเกิดอาชญากรรมหวัง เช่น สน.บางบัว เดิมจะใช้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อาจย้ายไปใจกลางชุมชนบางบัว เป็นต้น” พล.ต.ต.ปิยะกล่าว
ผบก.อก.กล่าวด้วยว่า กรณีจะมีการเปิดรับเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นทวนใหม่ 7,000 อัตรานั้น อาจจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด อก.ปจ.เดิมที่มีอยู่ไปสังกัด สน.ใหม่ และตำรวจใหม่ไปอยู่สังกัดหน่วย บก.สปพ. ทั้งนี้จะมีการปรับจำนวน สน.ในสังกัด บก.ต่างๆ ให้ง่ายต่อการรับผิดชอบ เช่น สน.พระราชวัง เดิมอยู่พื้นที่ บก.น.6 อาจเพิ่มเข้าไปพื้นที่ บก.น.1 เพราะสน.พระราชวัง เกี่ยวข้องกับงานถวายการรับเสด็จฯ คาดว่าสัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุปเรื่องการแบ่งเขตพื้นที่ สน.ใหม่ในสังกัด บช.น.ทั้งหมด