นครบาลขานรับโครงการ “ประชาวิวัฒน์” ปราบอาชญากรรมใน กทม.ตามเป้าที่วางไว้ เผย ท้องที่ “สน.โชคชัย-ทองหล่อ-ลาดพร้าว-ห้วยขวาง” ติด 1 ใน 10 พื้นที่สถิติอาชญากรรมสูงมาก โดยมีพื้นที่ 46 สน.ที่สามารถควบคุมอาชญากรรมได้ “สน.ดุสิต-นางเลิ้ง-สุทธิสาร” อยู่ในข่ายนี้ด้วย
วันนี้ (11 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.อก.บช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงโครงการประชาวิวัฒน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการลดปัญหาอาชญากรรมในระยะเวลา 6 เดือน ทำให้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตำรวจจะต้องนำมาปฏิบัติ ว่า พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น.ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องไปแล้วเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) ในกรณีเตรียมความพร้อมตามโครงการประชาวิวัฒน์ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย โดยทางตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่เพื่อลดปัญหาอาชญากรรมให้ได้ ซึ่งในวันนี้ ทาง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น.เข้าชี้แจงกับคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงความพร้อมและการขอสนับสนุนงบประมาณ
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อไปว่า ทาง บช.น.พร้อมที่จะปฏิบัติงานสนองตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หลายมาตรการที่รัฐบาลกำหนดมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เริ่มดำเนินงานมานานแล้ว และตรงกับสิ่งที่รัฐบาลต้องการ โดยทั้งหมดถือเป็นงานหลักในการดูแลปัญหาอาชญากรรม ซึ่งได้แบ่งมาตรการการป้องกันอาชญากรรม เช่น บูรณาการกำลังพล, การกำหนดจุดที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมสูง, การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการป้องกันอาชญากรรม โดยการติดตั้งกล้อง CCTV ในพื้นที่จุดเสี่ยง 250 จุด โดยติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งหมด 881 ตัว เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม
“สำหรับพื้นที่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมมี 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.พื้นที่ที่มีอาชญากรรมสูงมาก จำนวน 10 สน.ได้แก่ สน.โชคชัย, มีนบุรี, ห้วยขวาง, ท่าข้าม, ลาดพร้าว, ทองหล่อ, หัวหมาก, วังทองหลาง, บางขุนเทียน และพหลโยธิน 2.พื้นที่ที่มีสถิติอาชญากรรมสูง จำนวน 15 สน.ได้แก่ สน.ราษฎร์บูรณะ, คันนายาว, พระโขนง, ทุ่งสองห้อง, บางซื่อ, ประเวศ, คลองตัน, ตลิ่งชัน, ภาษีเจริญ, บางนา, พญาไท, โคกคราม, บางเขน, บางโพงพาง และดินแดง 3.พื้นที่ที่มีสถิติอาชญากรรมค่อนข้างสูง จำนวน 17 สน.ได้แก่ สน.บึงกุ่ม, ปทุมวัน, เพชรเกษม, เตาปูน, บางมด, หนองแขม, บางชัน, สายไหม, ทุ่งมหาเมฆ, วัดพระยาไกร, ยานนาวา, หลักสอง, ลุมพินี, ประชาชื่น, ชนะสงคราม, บางรัก, บางยี่ขัน และดินแดง” โฆษก บช.น.กล่าวและว่า
4.พื้นที่ที่สามารถควบคุมอาชญากรรมได้ จำนวน 46 สน.ได้แก่ สน.ดอนเมือง, ดุสิต, นางเลิ้ง, บางโพ, มักกะสัน, สามเสน, สุทธิสาร, จระเข้น้อย, ฉลองกรุง, นิมิตใหม่, ประชาสำราญ, ร่มเกล้า, ลาดกระบัง, ลำผักชี, ลำหิน, สุวินทวงศ์, หนองจอก, อุดมสุข, ท่าเรือ, จักรวรรดิ, พระราชวัง, พลับพลาไชย 1, พลับพลาไชย 2, สำราญราษฎร์, ท่าพระ, ธรรมศาลา, บวรมงคล, บางกอกน้อย, บางกอกใหญ่, บางขุนนนท์, บางพลัด, บางยี่ขัน, บางเสาธง, ศาลาแดง, ตลาดพลู, ทุ่งครุ, บางคอแหลม, บุคคโล, บุปผาราม, ปากคลองสาน, สมเด็จเจ้าพระยา, เทียนทะเล, สำเหร่, บางบอน, หนองค้างพลู และแสมดำ
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีมีเป้าหมายให้ลดปัญหาอาชญากรรมในกรุงเทพฯ แบ่งได้ 4 กลุ่มดังนี้ 1.กลุ่มที่ 1-4 ในภาพรวมทั้ง 88 สน.ภายใน 3 เดือน ต้องลดอาชญากรรมให้ได้ 10% ภายใน 6 เดือน ต้องลดอาชญากรรมให้ได้ 20% 2.กลุ่มที่ 1 และ กลุ่มที่ 2 ภายใน 3 เดือน ต้องลดอาชญากรรมให้ได้ 15% ภายใน 6 เดือน ต้องลดอาชญากรรมให้ได้ 30% และในกลุ่มที่ 3 ภายใน 3 เดือน ต้องลดอาชญากรรมให้ได้ 9% ภายใน 6 เดือน ต้องลดอาชญากรรมให้ได้ 18% และ กลุ่มที่ 4 ต้องรักษาสถานภาพอาชญากรรมให้ได้ 0%