จับเสี่ยเจ้าของธุรกิจน้ำยาล้างรถตกอับ คิดสั้นเข้าร้านทองทำทีขอซื้อทอง 9 บาทแต่งลูกสะใภ้ พอพนักงานเผลอกลับชิงทองหนีขึ้นแท็กซี่ สุดท้ายไปไม่รอดถูกอาสาสมัครตำรวจบ้านรวบทันควัน
วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 18.30 น.ที่ สน.เพชรเกษม พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมพงษ์ สีชำนิ สวป.สน.เพชรเกษม และ พ.ต.ท.ภูมิสิทธิ์ ไตรพัฒน์ศิลา สวป.สน.หนองแขม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายนพล รัตนศุภกาณ์ อายุ 55 ปี เจ้าของธุรกิจค้าน้ำยาล้างรถตามศูนย์คาร์แคร์ ผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์ร้านทองไท้เซ่งเฮง ปากซอยเพชรเกษม 63 (ซอยโรงพักเพชรเกษม) พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำ 2 เส้น สร้อยข้อมือทองคำ 1 เส้น และแหวนทองคำ 1 วง น้ำหนักรวม 9 บาท มูลค่ากว่า 180,000 บาท โดยจับกุมตัวได้ขณะนั่งรถแท็กซี่หลบหนีเข้าไปกลางซอยเพชรเกษม 77 แขวงและเขตหนองแขม กทม.
พล.ต.ต.ภัคพงศ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ภายในร้านค้าทองไท้เซ่งเฮง ปากซอยเพชรเกษม 63 ได้ทรัพย์สินเป็นทองคำรูปพรรณ น้ำหนักรวม 9 บาทหลบหนี ขึ้นรถแท็กซี่ หมายเลขทะบียน มฉ 6656 กรุงเทพมหานคร ไปทางถนนเพชรเกษมฝั่งขาออก โดยหลังเกิดเหตุพนักงานขายของทางร้าน ได้วิ่งตามออกมาและขอความช่วยเหลือจาก นายจารุรัตน์ สุดชา อายุ 49 ปี ผู้ขับขี่ รถ จยย.รับจ้างเบอร์ 10 วินปากซอยเพชรเกษม 63 ซึ่งผ่านการอบรมตามโครงการอาสาสมัครพิทักษ์ซอย ของ บช.น.มาแล้ว ให้ช่วยขับรถติดตามคนร้ายไปอย่างกระชั้นชิด และใช้โทรศัพท์โทรแจ้งเหตุไปที่ศูนย์วิทยุผ่านฟ้า 191 ไปด้วย ทำให้ นายสมชาย อินทร์พิทักษ์ อายุ 41 ปี อาสาสมัครตำรวจบ้าน สน.หลักสอง และ นายเสริม จูเกตุ อายุ 56 ปี อาสาสมัครตำรวจบ้าน สน.หนองแขม ทราบข่าวจากทางวิทยุสื่อสาร จึงพากันขับรถ จยย.ออกจากบ้านพักมาช่วยสกัดจับรถคนร้าย จนสามารถจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมดก่อนประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปควบคุมตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีที่ สน.เพชรเกษม
จากการสอบสวน นายนพล ยอมรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยประกอบธุรกิจค้าน้ำยาล้างรถและบำรุงรักษารถให้กับร้านคาร์แคร์หลายแห่ง แต่ประสบปัญหาขาดทุนเนื่องจากลูกหนี้พากันหลบหนีไม่ยอมชำระเงิน จึงวางแผนวิ่งราวทรัพย์ร้านทองแห่งนี้ด้วยการเดินเข้าไปทำที ขอเลือกซื้อทองสินสอดไปให้ลูกชายที่กำลังจะแต่งงาน ขณะที่พนักงานกำลังจัดทองรูปพรรณมาให้ตามต้องการแล้ว ตนก็วางแผนลวงว่ากำลังรอภรรยาเดินทางมาจ่ายเงิน จากนั้นเมื่อพนักงานนำสินค้าทั้งหมดวางบนเครื่องชั่งทองให้ตรวจสอบดูน้ำหนัก ก็ฉวยโอกาสวิ่งราวทรัพย์ทั้งหมดออกมาจากร้านโบกรถแท็กซี่หลบหนีกระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้นได้ แจ้งข้อหา วิ่งราวทรัพย์ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนพลเมืองดีทั้ง 3 ราย ที่แสดงความกล้าหาญช่วยผู้เสียหายติดตามจับกุมตัวคนร้าย ได้รับมอบประกาศณียบัตรเชิดชูความดีจาก พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบก.น.9 เพื่อเป็นกำลังใจให้ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมต่อ
