นครบาล 7 ล่อซื้อยาบ้าแล้วตะครุบเครือข่ายจากเรือนจำหันตรา อยุธยา ยึดของกลาง 1 หมื่นเม็ด อาวุธสงครามพร้อมกระสุน
วันนี้ (11 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 (บก.น.7) พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบก.น.7 พ.ต.อ.ชวลิต ประสพศิลป รองผบก.น.7 พ.ต.อ.ศรัณย์วุฒิ พิทักษากร รองผบก.น.7 พ.ต.อ.ปิยะวัชร์ บุญยืนอนนต์ ผกก.สส.บก.น.7 พ.ต.ท.วีระเดช กีรติพสุวัฒน์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.7 แถลงการจับกุมนายไพรวัลย์ หรือเปิ้ล หรือวัน จอบุญ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/62 ซอยปลูกจิตต์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน นายอรรคเดช หรือหน่อง ทวีศรี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 ซอยวัดบรมนิวาศ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน นายอรรถพล หรือติ่ง เจริญวัฒนวิญญู อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ถนนบ้านเรืองใหญ่ ต.พนัสนิคม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี และนายสมบูรณ์ หรือต๊อก คู่นา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 1 ต.บ้านช้าง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
โดยจับกุมได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 26 นัด อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ยี่ห้อเมาเซอร์ พร้อมกระสุน 5 นัด รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมค 4 ประตู สีฟ้าเทา หมายเลขทะเบียนป้ายแดง จ-8379 กทม. และโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง
พล.ต.ต.จารุวัฒน์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.7 ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีแก๊งจำหน่ายยาบ้าเครือข่ายเรือนจำหันตรา จ.พระนครศรีอยุธยา ลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้กับลูกค้าที่อยู่ภายนอก โดยมีนายศักดิ์ดินันท์ หรือหลวง ดำกรี เป็นตัวกลางในการติดต่อ เจ้าหน้าที่จึงวงแผนจับกุมด้วยวิธีการล่อซื้อยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด โดยนัดหมายให้นำยามาส่งที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน
พล.ต.ต.จารุวัฒน์กล่าวต่อว่า เมื่อถึงเวลานัดหมายนายไพรวัลย์ นายอรรคเดช และนายอรรถพล ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวเข้ามาบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นภายในรถก็พบยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในลำโพง จึงยึดไว้เป็นของกลาง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พบนายสมบูรณ์เดินป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณดังกล่าวด้วยท่าทางมีพิรุธ จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้นพบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ยี่ห้อเมาเซอร์ พร้อมกระสุน 5 นัด อยู่ในตัวจึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบปากคำ
พล.ต.ต.จารุวัฒนกล่าวอีกว่า จากการสอบสวนนายไพรวัลย์ นายอรรคเดช และนายอรรถพล ให้การรับสารภาพว่า ได้รับคำสั่งนายจากนายศักดิ์ดินันท์ให้นำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าที่บริเวณดังกล่าว แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดังกล่าว จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งจะติดตามจับกุมตัวนายศักดิ์ดินันท์ มาดำเนินคดีต่อไป ส่วนนายสมบูรณ์รับสารภาพว่านำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวมาส่งให้นายอรรถพล หลังเจ้าตัวติดต่อขอซื้อในราคา 10,000 บาท จึงแจ้งข้อหามีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (11 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 (บก.น.7) พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบก.น.7 พ.ต.อ.ชวลิต ประสพศิลป รองผบก.น.7 พ.ต.อ.ศรัณย์วุฒิ พิทักษากร รองผบก.น.7 พ.ต.อ.ปิยะวัชร์ บุญยืนอนนต์ ผกก.สส.บก.น.7 พ.ต.ท.วีระเดช กีรติพสุวัฒน์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.7 แถลงการจับกุมนายไพรวัลย์ หรือเปิ้ล หรือวัน จอบุญ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/62 ซอยปลูกจิตต์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน นายอรรคเดช หรือหน่อง ทวีศรี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 ซอยวัดบรมนิวาศ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน นายอรรถพล หรือติ่ง เจริญวัฒนวิญญู อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ถนนบ้านเรืองใหญ่ ต.พนัสนิคม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี และนายสมบูรณ์ หรือต๊อก คู่นา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 1 ต.บ้านช้าง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
โดยจับกุมได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 26 นัด อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ยี่ห้อเมาเซอร์ พร้อมกระสุน 5 นัด รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมค 4 ประตู สีฟ้าเทา หมายเลขทะเบียนป้ายแดง จ-8379 กทม. และโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง
พล.ต.ต.จารุวัฒน์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.7 ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีแก๊งจำหน่ายยาบ้าเครือข่ายเรือนจำหันตรา จ.พระนครศรีอยุธยา ลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้กับลูกค้าที่อยู่ภายนอก โดยมีนายศักดิ์ดินันท์ หรือหลวง ดำกรี เป็นตัวกลางในการติดต่อ เจ้าหน้าที่จึงวงแผนจับกุมด้วยวิธีการล่อซื้อยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด โดยนัดหมายให้นำยามาส่งที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน
พล.ต.ต.จารุวัฒน์กล่าวต่อว่า เมื่อถึงเวลานัดหมายนายไพรวัลย์ นายอรรคเดช และนายอรรถพล ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวเข้ามาบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นภายในรถก็พบยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในลำโพง จึงยึดไว้เป็นของกลาง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พบนายสมบูรณ์เดินป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณดังกล่าวด้วยท่าทางมีพิรุธ จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้นพบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ยี่ห้อเมาเซอร์ พร้อมกระสุน 5 นัด อยู่ในตัวจึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบปากคำ
พล.ต.ต.จารุวัฒนกล่าวอีกว่า จากการสอบสวนนายไพรวัลย์ นายอรรคเดช และนายอรรถพล ให้การรับสารภาพว่า ได้รับคำสั่งนายจากนายศักดิ์ดินันท์ให้นำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าที่บริเวณดังกล่าว แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดังกล่าว จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งจะติดตามจับกุมตัวนายศักดิ์ดินันท์ มาดำเนินคดีต่อไป ส่วนนายสมบูรณ์รับสารภาพว่านำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวมาส่งให้นายอรรถพล หลังเจ้าตัวติดต่อขอซื้อในราคา 10,000 บาท จึงแจ้งข้อหามีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
