xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์ยืนจำคุก 5 ปี “ประวัติ ถนัดค้า” รับสินบนไม้ป่าสาละวิน 5 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายประวัติ ถนัดค้า อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน! จำคุก “ประวัติ ถนัดค้า” อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ 5 ปี ฐานรับสินบน 5 ล้าน เซ็นอนุมัติปล่อยอายัดไม้ป่าสาละวิน ส่วนพ่อค้าไม้รายใหญ่ ให้สินบนโดนให้ติดคุก 2 ปี

วันนี้ (11 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ห้องพิพากษา 808 ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวินัย พาณิชยานุบาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหวนกิจ (1999) จำกัด ซึ่งเป็นพ่อค้าไม้รายใหญ่ ในจังหวัดภาคเหนือ และนายประวัติ ถนัดค้า รองอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 144 และ ม.149 เป็นผู้ให้และรับสินบน เพื่อจูงใจให้เจ้าพนักงาน ใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการโดยทุจริต

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2548 โดยพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ ซึ่งมีพนักงานธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นผู้เบิกเงินจำนวน 5 ล้านบาท ออกไปหลังจากเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ได้ทำการตรวจสอบ และอายัดไม้สักท่อน ของบริษัท สหวนกิจฯ มูลค่า 180 ล้านบาท ไว้ มาเบิกความยืนยัน ซึ่งสอดคล้องกับพยานแวดล้อมโจทก์ปากอื่น ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนในคดีนี้ได้ยืนยันว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ถอนเงิน จำนวน 5 ล้านบาท แล้วนำไปบรรจุไว้ในกล่องกระดาษ โดยใส่ไว้ในกระเป๋า แล้วนำไปให้จำเลยที่ 2 ที่บ้านพัก ซึ่งพยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ

นอกจากนี้ โจทก์ยังเป็นพนักงานธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบางเขน เป็นพยานยืนยันว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้มาเบิกเงินด้วยตัวเอง สอดคล้องกับผลการตรวจลายนิ้วมือบนธนบัตรพบลายนิ้วมือของจำเลยทั้งสอง พฤติการณ์แห่งคดีจึงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 ขอให้จำเลยที่ 2 ปล่อยไม้ที่อายัด เป็นความผิดฐานให้สินบนเจ้าพนักงาน เพื่อไม่กระทำการตามหน้าที่โดยทุจริต และจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานรับสินบน เพื่อไม่กระทำการตามหน้าที่โดยทุจริต ที่จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ขอให้ศาลรอลงอาญา เพราะไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน เห็นว่า การกระทำของจำเลยมีความร้ายแรง ที่ศาลชั้นต้นลง 2 ปี นับว่าสาสมแก่โทษแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างจึงไม่สมควรรอลงอาญาให้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน

ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว คดีมีประเด็นว่าจำเลยที่ 2 กระทำผิดจริงตามฟ้องหรือไม่เห็นว่า โจทก์มีประจักษ์พยานเบิกความยืนยันถึงพฤติกรรมของจำเลยทั้งสองว่ามีความรู้จักสนิทสนมกันมาก่อน โดยจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของไม้สักจากสาละวิน ที่ถูกกรมป่าไม้อายัดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2540 ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นรองอธิบดีกรมป่าไม้ มีอำนาจหน้าที่อนุมัติในการยึดอายัดไม้สัก มูลค่า 180 ล้านบาท โดยโจทก์มีพยานเบิกความว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2540 จำเลยที่ 1 โทรศัพท์ติดต่อจำเลยที่ 2 ส่วนพยานโจทก์อื่นปากเบิกความว่า ได้ยินว่าจำเลยที่ 1 โทรศัพท์และพูดว่า “เรื่องไม้เสร็จแล้วหรือยัง” ซึ่งเป็นการติดต่อให้จำเลยที่ 2 เซ็นอนุมัติปล่อยไม้ โดยจำเลยเพียงว่ามีคนทิ้งโน้ตให้โทรศัพท์กลับเป็นคำเบิกความลอยๆ ไม่มีน้ำหนัก

พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก นายประวัติ ถนัดค้า อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ จำเลยที่ 2 ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน รับทรัพย์สินหรือสินบน ตาม ป.อาญา ม.149 เป็นเวลา 5 ปี ส่วนนายวินัย พานิชยานุบาล เจ้าของบริษัท สหวนกิจ (1999) จำกัด พ่อค้าไม้รายใหญ่ ในจังหวัดภาคเหนือ จำเลยที่ 1 ฐานเป็นผู้ให้ทรัพย์สินหรือสินบนแก่เจ้าพนักงาน ตาม ป.อาญา ม.144 ลงโทษจำคุก 2 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อครั้งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจช่วงปี 2540 รัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี รณรงค์ระดมทุนตั้งกองทุนช่วยชาติ โดยมีประชาชนมาบริจาคเงินจำนวนมาก ขณะเดียวกัน นายประวัติ ก็หอบเงิน 5 ล้านบาทมาบริจาค โดยอ้างว่ามีบุคคลนำเงินดังกล่าวใส่กล่องของขวัญมาวางไว้โดยนายชวน เห็นว่าเป็นเงินต้องสงสัย จึงไม่รับบริจาค พร้อมกับสั่งตั้งกรรมการสอบสวน จึงทราบว่าเป็นเงินสินบนที่ได้รับจากการเซ็นอนุมัติปล่อยไม้สาละวิน จึงถูกฟ้องดำเนินคดี

ต่อมาญาติของจำเลยทั้งสองโดยนางประไพศรี มะลิวัลย์ ได้ใช้เงินเดือนตำแหน่งครูวิทยฐานะ เงินประจำตำแหน่ง และอื่น ๆ เป็นเงิน 52,430 บาท จำนวน 10 เท่า มูลค่า 524,300 บาท ขอประกันตัวนายประวัติ ส่วนนายพจน์ บุตรชายนายวินัย ใช้โฉนดที่ดิน ที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เนื้อที่ 5 ไร่เศษ ราคาประเมิน 828,240 บาท ขอประกันตัวนายวินัย

โดยศาลพิเคราะห์คำร้องและหลักทรัพย์แล้ว อนุญาตให้จำเลยทั้งสองประกันตัวไประหว่างฎีกา โดยตีราคาประกันคนละ 500,000 บาท แต่ห้ามมิให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
กำลังโหลดความคิดเห็น