ปคม.ล่อซื้อบริการแล้วตะครุบเจ้าของคาราโอเกะค้ากาม พร้อมช่วยหญิงสาว 9 คน ทั้งสาวลาว และสาวไทย ส่งไปอยู่ในความดูแลของบ้านเกร็ดตระการ ขณะที่เจ้าของคาราโอเกะ ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นเรื่องค้าประเวณี อ้างเป็นการตกลงสมยอมของสองฝ่าย
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่ บก.ปคม.เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปคม. พ.ต.ท.ชูศักดิ์ เคทอง รองผกก.2 บก.ปคม.แถลงการจับกุม นางอารี หรือ หญิงเล็ก เฮงศรีธวัช อายุ 38 ปี เจ้าของร้าน “อีซี่ คาราโอเกะ” ตั้งอยู่เลขที่ 62/6 ถนนพหลโยธิน หมู่ 14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางถุงยางอนามัย 5 กล่อง ถุงยางอนามัยใช้แล้ว 1 ชิ้น และสำเนาธนบัตรฉบับละ 500 บาท (เงินสดที่ใช้ล่อซื้อ) จับกุมได้ที่ร้านคาราโอเกะดังกล่าว จึงแจ้งข้อหาค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็ก ตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 เป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณี และข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ซอยแมนฮัตตัน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่า มีการลักลอบค้าประเวณีหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี ภายในร้านคาราโอเกะแห่งนี้ จึงปลอมตัวเข้าล่อซื้อบริการหญิงสาว 2 ราย เป็นเงิน 1,500 บาท ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหา พร้อมกับช่วยเหลือหญิงสาว 9 คน โดยจำนวนนี้มี 4 คน ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นชาวไทย 2 คน และหญิงสาวชาวลาว 2 คน จึงประสานส่งตัวไปอยู่ในความดูแลของบ้านเกร็ดตระการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นางอารี ผู้ต้องหาให้การว่า เปิดร้านคาราโอเกะดังกล่าวมาเป็นเวลา 4 ปี และเปิดรับสมัครพนักงานนั่งดริงก์ เพื่อคอยให้บริการกับลูกค้าที่มาเที่ยว โดยไม่ได้มีการลักลอบค้าประเวณีแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการตกลงกันเองของหญิงสาวกับลูกค้า โดยที่ผ่านมาตนไม่เคยสอบถาม หรือขอดูบัตรประชาชนและเอกสารใดๆ จากหญิงสาวที่มาสมัครเข้าทำงานด้วย นอกจากนี้ บางคนมาทำงานแค่สัปดาห์ละ 3-4 วัน ในช่วงกลางคืน และทางร้านไม่ได้มีเงินเดือนให้ ซึ่งรายได้จะมาจากค่าดริ้งค์ที่จะหักให้กับร้านส่วนหนึ่งเท่านั้น
ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.รับไว้ดำเนินคดีก่อนขยายผลติดตามขบวนการค้ามนุษย์ที่ลักลอบนำเด็กหญิงชาวลาวมาค้าประเวณีต่อไป