ชุดสืบคดียิงเสี่ยเจ้าของกาแฟ “ลาวิต้า” ดับ คาสวนสาธารณะ ใต้สะพานแขวน มุ่งประเด็นสอบขัดแย้งทางธุรกิจ พร้อมตัดเรื่องชู้สาวทิ้ง หลังญาติยืนยันผู้ตายมุ่งทำธุรกิจอย่างเดียว เร่งลงพื้นที่รวบรวมหาพยานแวดล้อม-วงจรปิด ส่วนที่มีญาติผู้ตายตกเป็นผู้ต้องสงสัยนั้น ตร.ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
วันนี้ (23 ก.พ.) พ.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.น.5 เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุยิง นายสมชาย เหลืองตระกูล อายุ 57 ปี เจ้าของธุรกิจกาแฟสำเร็จรูป “ลาวิต้า” เสียชีวิตที่บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ใต้สะพานแขวน ถนนพระรามที่ 3 เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (22 ก.พ.) ว่า หลังจากได้แบ่งงานให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร และ กก.สส.บก.น.5 ไปทำแล้วนั้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็ได้เรียกเจ้าหน้าที่ทั้งสองชุดเข้ามาประชุมสรุปความคืบหน้าอีกครั้ง โดยขณะนี้ได้ตัดประเด็นเรื่องชู้สาวออกไปแล้ว เนื่องจากฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร ทำการสอบปากคำบรรดาญาติสนิท และเพื่อนฝูงของผู้ตายแล้ว ทั้งหมดต่างยืนยันตรงกันว่า ผู้ตายมุ่งมั่นทำธุรกิจเพียงอย่างเดียว ไม่มีพฤติกรรมในเรื่องชู้สาวเลย
พ.ต.อ.อิทธิพล กล่าวต่อว่า ขณะนี้มุ่งไปที่เรื่องประเด็นความขัดแย้งทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว โดยจากการตรวจสอบรายละเอียดธุรกิจของผู้ตายนั้น พบว่า นอกจากบริษัทของผู้ตายจะทำธุรกิจขายกาแฟสำเร็จรูปลาวีต้าเป็นหลักนั้น ก็ยังมีธุรกิจตัวอื่นๆ แยกย่อยไปอีก เช่น ขายอุปกรณ์เครื่องครัว หรือ อุปกรณ์ชงกาแฟ อีกที่ย่านนวมินทร์ ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบว่า สาเหตุจะมาจากความขัดแย้งของธุรกิจตัวใดหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบในเรื่องที่ผู้ตายยังเล่นหุ้นอีกด้วยว่ามีความขัดแย้งในเรื่องนี้หรือไม่
พ.ต.อ.อิทธิพล กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุนั้น ทาง กก.สส.บก.น.5 ได้ทำการรวบรวมมาได้พอสมควรแล้ว กำลังอยู่ระหว่างวิเคราะห์ นอกจากนี้ ยังให้เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.5 ทำการตรวจสอบเรื่องมือปืนที่ก่อเหตุ โดยเอาหัวกระสุนขนาด .38 ที่พบในจุดเกิดเหตุไปเปรียบเทียบกับคดีก่อนหน้านี้ ว่า จะไปตรงกับคดีก่อนๆ ที่คนร้ายใช้หรือไม่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสืบสวนจับกุมคนร้ายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต ผบก.น.5 กล่าวว่า ในช่วงเวลา 14.00 น.วันนี้ พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น.ได้เรียกเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีทั้งหมดเข้าร่วมประชุมกันอีกครั้ง โดยฝั่งของ สน.วัดพระยาไกร จะให้พนักงานสอบสวนเรียกญาติของผู้ตาย และพยานมาสอบปากคำอย่างละเอียดทุกปาก ส่วนฝ่ายสืบสวนของ สน.วัดพระยาไกร ก็จะให้ลงพื้นที่ทำการสอบปากคำพยานแวดล้อมอย่างละเอียด ส่วน กก.สส.บก.น.5 ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดนั้น ขณะนี้ก็สามารถรวบรวมมาได้มากพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด นอกจากนี้ ก็จะให้ กก.สส.บก.น.5 ประสานไปยังกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบเรื่องวิถีกระสุนกับเขม่าดินปืนด้วย
พล.ต.ต.สมชาย กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีญาติของผู้ตายรายหนึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัย ว่า จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้นั้น ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดส่วน แต่ทางครอบครัวของผู้ตายมีความมั่นใจว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจ้างมือปืนไปยิงผู้ตาย หากมีความคืบหน้ามากกว่านี้ก็จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ที่ กองปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.ปพ.บก.ป.นำกำลัง เข้าร่วมสืบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คนร้ายก่อเหตุในพื้นที่ย่านใจกลางเมืองอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าแลกเปลี่ยนข้อมูลการสืบสวนที่ สน.วัดพระยาไกร ก่อนแบ่งหน้าที่กันทำงาน ส่วนปมการสังหารโหดครั้งนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากปัญหาความขัดแย้งธุรกิจของผู้เสียชีวิต หรือมาจากเรื่องส่วนตัว
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า จากนี้ไปการทำงานของ บก.ป.จะดำเนินการในเชิงรุกจะประสานข้อมูลร่วมกับตำรวจท้องที่เพื่อคลี่คลายคดีอาชญากรรมต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างอุกอาจเช่นนี้จะต้องหมดสิ้นไป คดีนี้ทางชุดสืบสวนจะทำงานร่วมกับทางชุดสืบสวนของ บช.น.โดยไม่แย่งงานกันโดยเชื่อว่าจะติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ในเร็ววันนี้
ตร.เร่งล่ามือยิงเสี่ยกาแฟ “ลาวีต้า” ตั้งปมธุรกิจ-ชู้สาว!
ดักกระหน่ำ .38 เจ้าของกาแฟ “ลาวีต้า” ดับใต้สะพานแขวน