ผบช.ภ.5 ปูดคนมีสี นักการเมือง เกี่ยวโยงเครือข่ายค้าเฮโรอีนกว่า 195 กิโลกรัม ปัดยังให้รายละเอียดเชิงลึกในตอนนี้ไม่ได้ ต้องรอสอบสวนให้กระจ่างชัดก่อน ด้าน ผบ.ตร.ปฏิเสธยังไม่ได้รับรายงานว่ามีนักการเมืองคนใดเอี่ยวด้วย จะรายงานรัฐบาลหรือไม่ต้องมีข้อมูลชัดเจนกว่านี้ แต่หากคนมีสีที่ว่าเป็นตำรวจโทษจะหนักกว่าคนธรรมดา โดยใช้มาตรการยึดทรัพย์เข้มข้น
วันนี้ (19 ก.พ.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. ร่วมกันแถลงข่าวผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอรเรนซ์ กับ พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) ซึ่งอยู่ที่ บช.ภ.5 ถึงความคืบหน้าในการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด พร้อมผู้ต้องหา 12 ราย ของกลางเฮโรอีนกว่า 195 กิโลกรัม ที่ ต.วังธง อ.เมือง จ.แพร่
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการกวดขันปราบปรามยาเสพติดในช่วงนี้ โดยเครือข่ายที่จับได้ครั้งนี้นั้นเป็นเครือข่ายชาวเขาเผ่าม้ง ที่ บช.ภ.5 ติดตามสืบสวนมานานจนจับกุมได้
ขณะที่ พล.ต.ท.ชัยยะกล่าวว่า ตำรวจสืบสวนภาค 5 ติดตามเครือข่ายนี้มาร่วม 3 เดือนแล้ว กระทั่งจับกุมได้ในครั้งนี้ ทั้งนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าเฮโรอีนล็อตนี้จะนำมาส่งใครที่ กทม. ซึ่งขอสงวนนาม แต่ด้วยจำนวนที่มากขนาดนี้บอกได้ว่าคนที่เกี่ยวข้องต้องไม่ธรรมดา ต้องเป็นคนมีสี หรือ นักการเมือง โดยให้รายละเอียดมากกว่านี้ไม่ได้ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวน ส่วนจะเกี่ยวโยงสั่งการเกี่ยวโยงกับเครือข่ายจากในเรือนจำหรือไม่ก็ยังไม่ขอตอบในตอนนี้ ซึ่งขบวนการนี้เคยถูกจับกุมมาหลายครั้ง โดยครั้งนี้นำเฮโรอีนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และนำมาเข้า กทม.โดยบางส่วนกระจายต่อไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์มาก จนสามารถขยายผลได้ เชื่อว่าอีกไม่นานจะขยายผลได้
ด้าน นายพรเทพ เอี่ยมประไพ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 กล่าวถึงการให้สินบนนำจับว่าจะเป็นไปตามระเบียบ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องในการจับกุม สืบสวนติดตาม เจ้าของคดีนี้ก็จะได้รับส่วนแบ่งสินบนตรงนี้
ขณะที่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวอีกว่า เรื่องที่ว่าสงสัยนักการเมือง คนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้อง ตนยังไม่ได้รับรายงานจาก ผบช.ภ.5 ส่วนจะต้องรายงานรัฐบาลหรือไม่ ต้องมีข้อมูลชัดเจนกว่านี้ แต่การสืบสวนคดีนี้ตนก็ได้รับรายงานเป็นระยะ ซึ่งหากคนมีสีที่ว่าเป็นตำรวจก็จะโทษหนักกว่าคนธรรมดา โดยใช้มาตรการยึดทรัพย์เข้มข้น ซึ่งก็ต้องคุยกันว่าจะมีการดำเนินการนำของกลางจากคดียาเสพติด เช่น รถ อาวุธ มาใช้ในราชการ