ผกก.สน.หนองค้างพลู ยันตำรวจไม่ได้ละเลยและให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาคดีการ์ด Smooth ผับ เข้าระงับเหตุวัยรุ่นตะลุมบอนกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เผย คู่กรณีที่ทะเลาะวิวาทกับกลุ่มผู้ตายเตรียมเข้าแจ้งความแล้ว ชี้ออกหมายจับการ์ดไป 4 คนเข้ามอบตัวแล้ว 2 และเตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 1 เป็นเด็กเสิร์ฟในร้าน
วันนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.มานะ กลัดเข็มเพชร ผกก.สน.หนองค้างพลู กล่าวถึงกรณีการ์ด Smooth ผับ ใช้สนับมือปลายแหลมแทงนายเชิดศักดิ์ หรือโอ๋ รักท้วม และนายอัครภณ หรือต้น ไทยอาจ สองนักท่องราตรี เสียชีวิตเหตุเกิดกลางดึกเมื่อวานนี้ (14 ก.พ.) โดยทางญาติผู้ตายกล่าวหาตำรวจสายตรวจชุดที่พยายามเข้าไประงับเหตุว่ามีส่วนช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาหลบหนีและขัดขวางไม่ให้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลว่า ตำรวจไม่ได้ละเลย และไม่ได้ให้การช่วยเหลือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน ซึ่งตนขอยืนยันว่าขณะเกิดเหตุทางร้านดังกล่าวปิดให้บริการไปแล้ว และจุดเกิดเหตุก็ไม่ได้อยู่ภายในพื้นที่ร้าน แต่เป็นเรื่องทะเลาะวิวาทกันตรงลานจอดรถภายในตลาดนัดอัศวิน ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของร้าน
จากการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทราบว่า ก่อนเกิดเหตุร้านปิดประมาณเกือบตี 2 กลุ่มผู้ตาย ซึ่งมีประมาณ 20 คน กำลังทยอยออกจากร้านเพื่อกลับบ้าน แต่ระหว่างนั้นมีคนในกลุ่มเกิดทะเลาะวิวาทกันเองเรื่องชู้สาว ซึ่งต่อมาก็ไปมีเรื่องกับแขกโต๊ะอื่น ซึ่งกำลังเดินทางกลับเช่นกันจนคู่กรณีถูกกลุ่มผู้ตายรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บไป 2 คน โดยขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นชาวบ้านมีภูมิลำเนาอยู่ในซอยเพชรเกษม 69 ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมตัวเดินทางเข้ามาแจ้งความที่ สน.หนองค้างพลู แต่ที่เรื่องบานปลายไปกันใหญ่ เพราะว่าช่วงที่ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังชุลมุลกันอยู่ นั้น พนักงานรักษาความปลอดภัยของทางร้านซี่งมีประมาณ 4 คนได้พยายามออกมาระงับเหตุเบื้องต้น แต่กลับถูกกลุ่มผู้ตายทั้งหมดรุมทำร้ายจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บไปด้วย ซึ่งคาดว่าคงมีการต่อสู้ป้องกันตัวเกิดขึ้นจึงมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว
พ.ต.อ.มานะกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนเรียกตัวผู้เสียหายทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบปากคำแล้ว จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของทางร้านที่ร่วมกันก่อเหตุได้ 4 คน คือ 1.นายวีระ หรือจ๊าบ ฤทธิสนธิ์ อายุประมาณ 40 ปี ผู้ใช้สนับมือปลายแหลมทำร้ายคู่กรณี อยู่บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ 3 ต.บ้านโพธิ์ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา 2.นายสมบัติ เอมโอษฐ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/5 หมู่ 3 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม 3.นายอนุชา เด่นชนะดวงดี อยู่บ้านเลขที่ 301/2 หมู่ 7 ต.หนองสองห้อง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และ 4.นายอิทธิศักดิ์ สุขถาวร อยู่บ้านเลขที่ 66/35 หมู่ 5 ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยทั้ง 4 รายเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลตลิ่งชัน เลขที่ 88-91/2554 ลงวันที่ 15 ก.พ.54 ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นได้รับอันตรายแก่กาย ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย จะมีเพียงนายสมบัติ ผู้ต้องหาคนที่ 2 เท่านั้นที่ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในคดีพกพาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร เนื่องจากทางผู้เสียหายให้การต่อพนักงานสอบสวนไว้อย่างนั้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการออกหมายจับไปแล้ว ได้มีผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายสมบัติ เอมโอษฐ์ อายุ 32 ปี และนายอนุชา เด่นชนะดวงดี เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 รายได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้งจากการสอบสวนเพิ่มเติมยังทราบว่าจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 1 ราย เป็นพนักงานเสิร์ฟของทางร้านเพศชาย อายุประมาณ 20 ปี ซึ่งร่วมกันก่อเหตุมาดำเนินคดีเป็นรายที่ 5 ด้วย
ด้าน พ.ต.ท.ยงยุทธ แสงยิ่ง สวป.สน.หนองค้างพลู ซึ่งเข้าเวรหัวหน้าสายตรวจในคืนวันที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกันหลังร้านดังกล่าว จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ 3 นาย ประกอบด้วย ด.ต.บุญชู พันธุ์สุวรรณ ด.ต.ณรงค์ โสตะการ และ จ.ส.ต.ยุทธสกนธ์ ชัยสิทธิ์ เดินทางไประงับเหตุ โดยเท่าที่ฟังรายงานทราบว่า พอไปถึงพบกลุ่มคู่กรณีประมาณ 20 คน ส่วนใหญ่อยู่ในอาการมึนเมา กำลังตะลุมบอนพนักงานรักษาความปลอดภัยของทางร้าน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 4 คน โดยเมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยวิ่งหลบหนีเข้าไปในร้านก็ถูกก้อนหินและขวดขว้างปาตามเข้าไปจนข้าวของได้รับความเสียหาย ซึ่งมีบางรายใช้เท้าถีบประตูและถีบรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านจนล้มคว่ำได้รับความเสียหายไปด้วย
พ.ต.ท.ยงยุทธกล่าวอีกว่า ระหว่างนั้น ด.ต.ณรงค์ได้พยายามเข้าไปห้ามปรามคู่กรณีคนหนึ่งให้หยุดการกระทำ แต่กลับถูกผลักอกและจะเข้ามาแย่งปืน พร้อมท้าทายให้ทำการจับกุมตัว จนตำรวจต้องล่าถอย ขณะนั้นตนขอยืนยันว่าไม่มีใครรู้จริงๆ ว่ามีคนเจ็บอยู่บนรถ และตำรวจก็ไม่ได้จอดรถขวางทางเข้าออกแต่อย่างใด ซึ่งสุดท้ายพอเหตุการณ์คลี่คลายยังช่วยพากลุ่มคู่กรณีดังกล่าวมาแจ้งความที่โรงพัก และติดตามไปดูอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลอีกด้วย หากชุดปฏิบัติงานจะถูกร้องเรียนด้วยเรื่องราวจากเหตุการณ์นี้ ตนก็จะขอให้การต่อคณะทำงานสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาว่าตำรวจไม่ได้ให้ความช่วยเหลือฝ่ายใดทั้งนั้น
ทางด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.กล่าวว่า ข้อสรุปคือการ์ดผับทะเลาะกับแขกที่มาใช้บริการ โดยขณะเกิดเหตุสถานบริการได้ปิดบริการแล้ว ซึ่งแขกที่มาเที่ยวเดินทางกลับหมดแล้วเช่นกัน เหลือเพียงกลุ่มวัยรุ่นซึ่งไปเรียกพวกมาถล่มกับการ์ดผับมีเพียง 4 คน แต่กลุ่มวัยรุ่นมี 20 คน ตำรวจจึงเข้าห้ามแต่กลุ่มวัยรุ่นกับผลักอกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อต้องการตะลุมบอนการ์ดร้านดังกล่าว ตำรวจจึงไล่ให้กลับ แต่กลุ่มนักเที่ยวไม่ยอมกลับจนเกิดการก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยการ์ดของร้านอ้างว่าสถานบริการปิดแล้วผู้ใช้บริการกลับหมดเช่นกัน กลุ่มวัยรุ่นจึงไปเรียกพวกมาจนเกิดเหตุการณ์วิวาทกัน
“จะสั่งการให้ พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบก.น.9 ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร รวมถึงตรวจสอบว่าสถานบริการดังกล่าวเปิดเกินเวลาหรือไม่ และสอบสวนหาสาเหตุการทะเลาะวิวาทต่อไป” รอง ผบช.น.กล่าว
ต่อมา เมื่อเวลา 14.20 น. นายสุวัฒน์ หรือ “โจ้” วัฒนวรางกูร อายุ 20 ปี อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการที่ถูกกลุ่มผู้ตายทำร้ายร่างกายก่อนที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของทางร้านจะเข้ามาไกล่เกลี่ยจนเกิดเรื่องราวใหญ่โต ได้เดินทางมาแจ้งความกับ พ.ต.ท.โชคอำนวย วงษ์บุญฤทธิ์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.หนองค้างพลู เจ้าของคดี ว่า ขณะเกิดเหตุกำลังคร่อมรถ จยย.จะออกจากสถานบันเทิงบังเอิญมีเพื่อนรุ่นพี่กลุ่มเดียวกันเดินออกจากประตูร้านพอดี ตนจึงจอดรถเพื่อกวักมือเรียกให้กลับด้วยกัน แต่จังหวะที่กวักมือเรียกเพื่อนนั้น กลุ่มผู้ตายประมาณ 3-4 คน เกิดเห็นเข้าและคงเข้าใจผิดว่าตนกวักมือหาเรื่องเลยกรูเข้ามารุมทำร้ายตนจนสลบเหมือดโดยไม่รู้สาเหตุ เพราะไม่ได้มีเรื่องกันมาก่อน ซึ่งพอตื่นฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ก็พบว่ากลุ่มคู่กรณีไปมีปัญหากับพนักงานรักษาความปลอดภัยที่พยายามเข้ามาห้ามปรามจนมีคนเสียชีวิต จึงตัดสินใจเข้ามาแจ้งความเอาไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะถูกหางเลขไปด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ให้ตนไปตรวจร่างกายที่ รพ.ศรีวิชัย 2 ซึ่งเบื้องต้นมีอาการบวมปูดที่ตาและใบหน้าซีกขวา ส่วนที่แขนข้างขวามีร่อยรอยคล้ายถูกของมีคมขูดขีดเล็กน้อยแพทย์ให้พักรักษาตัวสักระยะก่อนให้เดินทางไปตรวจร่างกายซ้ำอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 19 ก.พ.54
ด้าน นายอนุชา เด่นชนะดวงดี หนึ่งในผู้ต้องหาที่เดินทางมามอบตัวสู้คดี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนและนายสมบัติ เอมโอษฐ์ เข้ามอบตัวหลังจากที่ถูกออกหมายจับแล้ว ซึ่งเบื้องต้นพวกตนขอให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยทางพนักงานสอบสวนเลยให้หาหลักทรัพย์เป็นเงินสดไม่เกิน 200,000 บาท มาประกันตัวออกไป อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายใคร แต่พวกตนต้องเข้าไประงับเหตุวิวาทระหว่างลูกค้าทั้ง 2 ฝ่ายที่กำลังมีเรื่องกันอยู่ ซึ่งตามปกติทางเจ้าของร้านก็ไม่มีนโยบายให้พนักงานรักษาความปลอดภัยพกพาอาวุธอยู่แล้วนอกจากไฟฉาย แต่ นายวีระ หรือ “จ๊าบ” ฤทธิสนธิ์ ผู้ก่อเหตุเป็นพนักงานใหม่จึงไม่น่าจะเข้าใจระเบียบประกอบกับนายวีระ ก็ถูกกลุ่มผู้ตายรุมทำร้ายก่อนด้วยจึงเกิดบันดาลโทสะและมีเรื่องสลดเกิดขึ้นขณะนี้ไม่ทราบว่าเจ้าตัวหลบหนีไปไหนแต่ก็พยายามติดต่อทางญาติๆ เพื่อให้เข้ามาขอมอบตัวสู้คดีกับพนักงานสอบสวนอยู่
ทางด้าน นายณัฐธวัช คีรีวนานนท์ อายุ 34 ปี หุ้นส่วนร้าน Smooth ผับ เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.วีระยา วงศ์แก้ว พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.หนองค้างพลู ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ตายซึ่งเป็นคู่กรณีด้วย เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีทรัพย์สินของทางร้านได้รับความเสียหายประกอบด้วยโต๊ะเก้าอี้ ประตูทางเข้า-ออก ขวดน้ำ แก้วน้ำ ป้ายไฟนีนอน ป้ายผ้ายาง และอื่นๆ อีกหลายรายการ โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะติดตามตัวทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบปากคำ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ น.ส.สุวรรณา สุวรรณณาวิน อายุ 24 ปี เพื่อนสนิท นายอัครภณ หรือ “ต้น” ไทยอาจ อายุ 29 ปี ผู้ตายซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วยกันตอนเกิดเรื่อง เดินทางเข้ามาให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีว่า คืนวันเกิดเหตุยอมรับว่าเดินทางไปเที่ยวกันหลายคน แต่ตอนเกิดเรื่องได้เดินทางกลับไปบางส่วนแล้วเหลือเพียงผู้ชาย 4-5 คน และผู้หญิงอีก 3 คน ซึ่งระหว่างเกิดเรื่องนั้นยืนยันว่าทางพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินมาหาเรื่องก่อน โดยอ้างว่าคนในกลุ่มตนพูดจาในทำนองท้าทายทั้งที่ไม่มีใครอยากมีเรื่องเลย ส่วนเรื่องขว้างปาข้าวของใส่ทางร้านจนมีทรัพย์สินเสียหายตนขอยอมรับว่าลงมือก่อเหตุกันจริงๆ เนื่องจากโกรธแค้นกลุ่มมือมีดที่ลงมือก่อเหตุแล้วตำรวจไม่ยอมจับกุม ขณะที่ทางตำรวจอ้างว่าพวกตนพยายามเข้าไปแย่งปืนนั้นก็เนื่องจากขณะเข้ามาระงับเหตุเห็นตำรวจเอามือกำที่ด้ามปืนแสดงท่าทางเหมือนจะชักออกมาอยู่ตลอดเวลา สำหรับเรื่องร้องเรียนพฤติกรรมตำรวจชุดนี้นั้นทางญาติของผู้ตายทั้ง 2 คน กำลังปรึกษาทนายความเพื่อรอขั้นตอนการยื่นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร็วๆ นี้
การ์ดผับใช้สนับมือติดมีดแทงเหยื่อต่อหน้าตำรวจดับ 2 ศพ