ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนให้จำคุกตลอดชีวิต สองจำเลยทีมฆ่า ส.จ.ลพบุรี แม้ไม่มีใครเห็นใบหน้าจำเลยขณะก่อเหตุชัดเจน แต่บุตรชายผู้ตายได้ขับรถไล่กวดและชนรถจำเลยจนจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมอาวุธปืนทูตมรณะ ที่เป็นพยานหลักฐานยืนยันความผิดจำเลยเป็นอย่างดี จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำ 1345/2550 ที่พนักงานอัยการจังหวัดลพบุรี เป็นโจทก์ฟ้อง นายวสันต์ วงศ์จินดา อายุ 40 ปี และ จ.ส.อ.ปัญญา ล้ำเลิศ อายุ 54 ปี อดีตทหารสังกัดกองพันบริการ กรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีพกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีร่วมกันฆ่านายทองใส แตงชุ่ม อายุ 58 ปี ส.จ.ลพบุรี เสียชีวิตขณะนั่งอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน หจก.กาญจนาบริการ ถนนสุระนารายณ์ หมู่ 1 ต.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เหตุเกิดเมื่อเดือน ส.ค.50
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า โจทก์มีพยานที่เห็นเหตุการณ์ แม้ขณะเกิดเหตุไม่มีพยานเห็นใบหน้าของจำเลยขณะกระทำความผิด แต่หลังเกิดเหตุ นายสุขเกษม แตงชุ่ม บุตรชายของผู้ตาย ได้ขับรถไล่ติดตามรถจักรยานยนต์ของจำเลย 1 ไปอย่างกระชั้นชิด กระทั่งไล่ชนรถจักรยานยนต์ของจำเลยที่ 1 พร้อมจับกุมจำเลยที่ 1 ไว้ได้ โดยพบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นตกอยู่ใกล้กัน เชื่อได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ลงมือฆ่านายทองใส ขณะที่จำเลยที่ 2 มีพยานโจทก์เบิกความว่า เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิด โดยขับรถเพื่อรอรับจำเลยที่ 1 หลังก่อเหตุ จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดร่วมกันฆ่ากับจำเลยที่ 1 ด้วย ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ที่ศาลชั้นต้นพิพากษานั้นชอบแล้วศาลอุทธรณ์เห็นฟ้องด้วย พิพากษายืน
