ผู้ค้าสนามหลวง 2 แฉ รปภ.ตลาดไม่เชื่อคนแจ้งว่าเกิดเพลิงไหม้ ทำให้ไฟลุกลามจนดับไม่ทัน สับเละระบบจัดการตลาดห่วยแตก หัวจ่ายน้ำไม่เพียงพอ แถมถังดับเพลิงใช้การไม่ได้ เป็นเหตุให้เกือบร้อยแผงค้าถูกเผาวอด
วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม รองผบก.น.7 พ.ต.อ.ชาตรี เศวตรัตน์ ผกก.สน.ศาลาแดง พ.ต.ท.พิทักษ์ เอียงอุบล สวป.สน.ศาลาแดง ร.ต.ท.ราชันย์ อ่อนใจ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ศาลาแดง พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เจ้าหน้าที่งานบริหารและพัฒนาตลาดสนามหลวง 2 เจ้าหน้าที่จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย กทม. ได้เข้าตรวจสอบตลาดนัดธนบุรี หรือสนามหลวง 2 ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม. บริเวณโซน 1 หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาจนได้รับความเสียหายหลายร้อยแผง มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เพื่อหาหลักฐานที่ทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเจ้าของแผงค้าที่ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย ให้ความสนใจมาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่กันเป็นจำนวนมาก
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.ได้ตั้งโต๊ะลงทะเบียนผู้ได้รับความเสียหาย และมอบถุงยังชีพช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมให้คำแนะนำว่าหลังจากผู้เสียหายแจ้งความแล้วจะมอบเงินบรรเทาทุกข์ขั้นต้นรายละ 10,000 บาท
ร.ต.ท.ราชันย์เปิดเผยว่า ในเรื่องของสำนวนคดีขณะนี้ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์หาสาเหตุเพลิงไหม้จากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งแนวทางการสอบสวนนั้นจะให้น้ำหนักไปในเรื่องไฟฟ้าลัดวงจรเป็นหลัก แต่ก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นลอบวางเพลิงทิ้ง ต้องสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุกาณ์อย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป โดยขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำพยานไปแล้วบางส่วน โดยส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่เข้าเวรอยู่ อีกส่วนหนึ่งคือบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ยังไม่ได้เดินทางกลับบ้าน โดยทั้งหมดต่างยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด เมื่อวิ่งมาดูก็พบแสงเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามาจากจุดใด ระหว่างซอย 13-14
ด้าน นายจักรินทร์ บุญรัตนากร อายุ 50 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายเสื้อผ้าทหารและอุปกรณ์การเดินป่า โซน 1 ซอย 14 กล่าวว่า ตนค้าขายที่ตลาดมานาน 12 ปี เสียค่าเช่าแผงเดือนละ 5,000 บาท ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตนเพิ่งลงสินค้าเอาไว้ขายช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ มูลค่ากว่า 500,000 บาท โดยเป็นสินค้าพวกกางเกงยีนส์ เสื้อผ้าเดินป่า จนกระทั่งช่วงเกิดเหตุ มารู้เรื่องจากเจ้าของร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่กำลังปิดร้านว่า พบเห็นไฟไหม้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว บริเวณเบรคเกอร์เสาไฟภายในซอย 14 ก่อนจะลุกลามไปร้านเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก และได้พยายามแจ้งรปภ.ที่เข้าเวรเฝ้ายามกลางคืน แต่ปรากฏว่า รปภ.ไม่ปักใจเชื่อ ทำให้เกิดความล่าช้าในการแจ้งรถน้ำดับเพลิง เนื่องจากเจ้าของร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าจำต้องโทรไปแจ้งที่ จส.100 แทน กระทั่งมีการประสานรถน้ำดับเพลิงเข้ามา แต่ไม่สามารถช่วยได้ทัน
นายจักรินทร์กล่าวต่อว่า หลังเกิดเรื่องเมื่อสอบถามไปยังผู้บริหารตลาด เพื่อสอบถามว่าระบบป้องกันความปลอดภัย เช่นหัวจ่ายน้ำมีเพียงพอหรือไม่ เนื่องจากรถน้ำดับเพลิงที่เข้ามาไม่สามารถหาแหล่งน้ำได้ทัน แต่ตนกลับได้รับคำตอบว่า ทั้งตลาดไม่มีการสำรองระบบหัวจ่ายน้ำในกรณีฉุกเฉิน แต่อนาคตต้องพัฒนาให้มีขึ้น อีกทั้งถังดับเพลิงที่นำมาติดไว้ตามเสาไฟ ก็พบว่าส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้การได้ ซึ่งทำให้ผู้ค้าส่วนใหญ่ถึงกับเสียความรู้สึก เนื่องจากแต่ละรายลงทุนไปเป็นจำนวนมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเยียวยา โดยเฉพาะเรื่องการทำประกันกลุ่ม เพราะขณะนี้แต่ละร้านค้า ต้องจ่ายค่าส่วนกลางให้ตลาดเดือนละ 600-700 บาท ซึ่งควรจะมีการนำเงินส่วนหนึ่งไปทำประกันกลุ่มให้ด้วย เพราะบางรายต้องลำบาก แทบหมดตัวเลย
ขณะที่ นายไพฑูรย์ พรหมศรี หัวหน้างานบริหารและพัฒนาตลาด กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีร้านค้าได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ 82 แผง ซึ่งอยู่ในตลาดโซน 1 สินค้าเบ็ดเตล็ด ซอยที่ 13-16 รวม 4 แถว ขณะนี้สั่งให้มีการรื้อถอนด่วน โดยคาดว่าจะทำการปิดปรับปรุงใช้เวลา 3-4 เดือน โดยใช้งบประมาณกลางเข้ามาดำเนินการ ซึ่งในช่วงเวลาปิดปรับปรุง ก็จะให้พ่อค้าแม่ค้าที่ได้รับความเดือดร้อน ย้ายไปขายยังสถานที่ที่จัดไว้รองรับ ซึ่งเป็นแผงที่ยังไม่มีการเปิดจำหน่ายบริเวณตลาดโซน 5-6 โดยจะช่วยเยียวยาบรรเทาทุกข์และไม่คิดค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาการปรับปรุง ซึ่งขณะนี้ได้รายงานไปยัง นายพุฒิยา รุมาคม ผอ.สำนักงานการตลาด กทม. รับทราบแล้ว โดยในวันจันทร์ที่ 31 ม.ค. นายพุฒิยาจะเดินทางมาตรวจสอบความเสียหายทั้งหมด
รายงานข่าวแจ้งว่า บรรดาพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดสนามหลวง 2 ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รปภ.ชุดล่าสุดที่เพิ่งเข้ามาดูแลความปลอดภัยภายในตลาด จำนวน 26 คน จะสวมเครื่องแบบสีกรมท่า และเข้าเวรช่วงกลางคืนตั้งแต่เวลา 20.00 น.ของทุกวัน จะมีการปิดไม่ให้คนภายนอกเข้ามาภายในตลาด แต่ส่วนใหญ่มักเกิดปัญหาถูกงัดแผงค้าขโมยสินค้าเป็นประจำ มีการร้องเรียนเพื่อให้ช่วยตรวจสอบ แต่ก็ยังพบว่าเหตุการณ์ต่างๆ ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งเมื่อผู้เข้ามาใช้บริการ ทาง รปภ.ชุดดังกล่าวยังบริการไม่สุภาพอีกด้วย โดยช่วงที่เกิดเพลิงไหม้ก็ไม่มีการกระตือรือร้นช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงแต่อย่างใด จนทำให้เกิดเหตุจนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก