ขสมก.แจ้งปรับเส้นทางรถเมล์ เลี่ยงเสื้อแดงชุมนุม “ผ่านฟ้า” กำชับ พรข.-กระเป๋า เพิ่มความระมัดระวัง เพราะอาจถูกยึดรถไปเผา “เหวง” ยันไม่กระทบการจราจร เพราะเป็นแค่พื้นที่ส่วนน้อยของ กทม.โดยในช่วง 11.00 น.ได้มีการปรับเส้นทางรถเมล์เกือบทุกสายที่ต้องวิ่งผ่านบริเวณพื้นที่ชุมนุม เนื่องจากมีการปิดเส้นทางจราจร ด้านรอง ผบช.น.แนะ ปชช.เลี่ยง 6 เส้นทาง พร้อมจัด จนท.ระบายการจราจรในวันจันทร์
นายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ซึ่งตั้งเวทีปักหลักที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และบริเวณถนนราชดำเนิน วานนี้ โดยระบุว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นกับผู้โดยสารรถประจำทาง ขสมก. เพราะได้สั่งการให้ยกเลิกเส้นทางที่มีการปิดเส้นทางการจราจร เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และพนักงานของ ขสมก.เอง
นอกจากนี้ ก็ยังไม่พบว่า มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาอย่างผิดปกติ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่รับรู้ข้อมูลข่าวสารการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการเดินของรถ ขสมก.มาตลอด โดยทาง ขสมก.ได้แจ้งผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น จส.100 สถานีโทรทัศน์ เพื่อให้แจ้งการเปลี่ยนเส้นทางอย่างต่อเนื่อง ส่วนการระมัดระวังนั้น ตนเองได้กำชับให้พนักงานเพิ่มความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ใช้รถเมล์เป็นเหยื่อของความรุนแรง
โดยวานนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจัดการเดินรถและรักษาความปลอดภัย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ประเมินสถานการณ์ชุมนุมแล้ว จึงมีการสั่งให้ตัดรถในเส้นทางสาย 2, 23, 511 ตัดเสริมอุรุพงษ์ สาย 503 เปลี่ยนเส้นทางถึงแยกวัดเบญจมบพิตร ตรงไปเทเวศร์ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสามเสนตรงไปสนามหลวง สาย 70 เลี้ยวขวาที่กระทรวงศึกษาธิการ ตรงไปเทเวศร์ เลี้ยวซ้ายบางลำพูตามเส้นทาง สาย 65 สาย 509 ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า ถนนราชดำเนิน เข้า ถนนนครสวรรค์ กลับเส้นทางเดิม
นอกจากนี้ รถสาย 33 ปทุมธานี-สนามหลวง (รถปรับอากาศ) ระหว่าง 14-15 มี.ค.53 จะเดินรถจากปทุมธานี สิ้นสุด ตลาดนนทบุรี รถสาย 33 ปทุมธานี-สนามหลวง (รถโดยสารธรรมดา) ระหว่าง 14-15 มีนาคม 2553 จะเดินรถจากปทุมธานี สิ้นสุดที่บางโพ
ขสมก.ยอมรับว่า การจัดแผนปรับเปลี่ยนการเดินรถในเส้นทางเหล่านี้ อาจมีผลกระทบต่อการเดินทางสัญจรไปมาของประชาชนผู้ใช้บริการ ขสมก.จึงฝากขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดต่อศูนย์อำนวยการบริหารจัดการเดินรถและรักษาความปลอดภัย (โทร.02-2460960,02-2460339 ต่อ 1511 โทรสาร 02-2464261 E-mail centerbmta@bmta.co.th) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน นายแพทย์ เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศจะสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง หากมีการปิดการจราจรบริเวณเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า จนถึงลานพระราชวังดุสิต โดยให้เหตุผลว่า ทำให้การจราจรในกรุงเทพมหานครติดขัดนั้น ยืนยันว่า การชุมนุมบริเวณดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการจราจรอย่างแน่นอน เพราะเป็นพื้นที่ส่วนน้อยในกรุงเทพมหานครเท่านั้น อีกทั้งได้ขอความร่วมมือกับรัฐบาลมาก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือในการตรวจค้นอาวุธของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ก็ยินดีให้ความร่วมมือ
นายแพทย์ เหวง กล่าวอีกว่า จะเคลื่อนกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามายังกรุงเทพมหานครตลอดทั้งคืนนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะมาถึงเป็นชุดสุดท้าย จะเดินทางมาทางเรือ พร้อมยืนยันจะไม่ใช้เส้นทางผ่านโรงพยาบาลศิริราช และท่าพระอาทิตย์อย่างแน่นอน เพราะไม่ต้องการให้เกิดความเดือดร้อน และการยั่วยุ
โดยเมื่อเวลา 11.00 น.ศูนย์อำนวยการ ขสมก.รายงานสถานะการจราจร โดยระบุว่า ที่บริเวณแยกผ่านฟ้า มีผู้ชุมนุมจำนวนมาก ทำให้ต้องปิดการจราจรตั้งแต่แยกหลานหลวง มุ่งหน้าผ่านฟ้า, แยกสวนมิสกวัน รถเคลื่อนตัวได้เฉพาะถนนพิษณุโลก-เทเวศร์, บริเวณถนนศรีอยุธยา โรงพยาบาลสงฆ์ การจราจรคล่องตัว, ลานพระรูปฯ มีกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมาก รถจอดเต็มพื้นที่โดยรอบ, หัวลำโพงมุ่งหน้าสวนลุมพินี การจราจรเข้า-ออกคล่องตัวดี, แยกรัตนโกสินทร์เข้าถนนราชดำเนิน ปิดการจราจร
ส่วนการเดินรถเมล์ที่มีการตัดเส้นทางและเสริมเส้นทางในช่วงเช้านี้ ได้แก่ สาย 2, 23, 511, 59 ตัดเสริมแยกอุรุพงษ์, สาย 47 วิ่งถึง รพ.กลาง เข้าวรจักร เข้าเจริญกรุง เมอร์รี่คิงส์ สะพานมอญ กรมที่ดิน, สาย 503 ตัดเสริมแยกเสาวนีย์ (กรมทางหลวง), สาย 82 ปรับเส้นทาง เข้าบางลำพู เลี้ยวขวาถนนเจ้าฟ้า ไม่ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย, สาย 65 ตัดแยกบางลำพู เลี้ยวซ้ายถนนวิสุทธิ์กษัตริย์ เข้าถนนสามเสน เส้นทางเดิม, สาย 15 ตัดเสริม แยกแม้นศรี วิ่งกลับเส้นทางเดิม ปิดการจราจรแยกคอกวัว, สาย 70 ตัดแยกบางลำภู เลี้ยวขวาถนนสุโขทัย เลี้ยวซ้ายถนนราชสีมา ผ่านแยกวังแดง
สาย 516 ออกจากบางบัวทอง ถึงแยกพระปิ่นเกล้า เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจ้าฟ้า ลอดสะพานพระปิ่นเกล้า สนามหลวงกลับเส้นทางเดิม, สาย 203 ถึงแยกพระปิ่นเกล้า เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจ้าฟ้า ลอดสะพานพระปิ่นเกล้า สนามหลวง กลับเส้นทางเดิม, สาย 72 ตัดเสริม รพ.สงฆ์, สาย 79 ตัดเสริมสะพานพระปิ่นเกล้า, สาย 509 ถนนจรัญฯ เปลี่ยนเส้นทางเลี้ยวขวาเข้าซังฮี้ วิ่งตรงมาอนุสาวรีย์ชัยฯ, สาย 60 ตัดเสริมหลานหลวง, สาย 168 ตัดเสริมตั้งแต่ 14.15 น.เพราะมีกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่โบสถ์แม่พระถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ โดยวนกลับที่แยกผังเมือง, สาย 16 และสาย 505 เนื่องจากมีการปิดถนนราชดำเนินนอก มีการเปลี่ยนเส้นทางโดยเลี้ยวซ้ายถนนสุโขทัย เลี้ยวขวาถนนสวรรคโลก วิ่งตรงเข้าแยกยมราช วิ่งเข้าเส้นทางปกติถนนเพชรบุรี
รถเมล์สาย 80 และสาย 91 วิ่งวนกลับใต้สะพานพระปิ่นเกล้า (สาย 80 รถกะสว่าง วิ่งปกติตัดเสริมสะพานพระปิ่นเกล้า), สาย 32 ตัดแยกบางลำภู ผ่านวัดบวร เลี้ยวซ้ายถนนพระราม 8 เลี้ยวขวาถนนวิสุทธิ์กษัตริย์ เข้าถนนสามเสน เส้นทางเดิม, สาย 203 ตัดเสริมสะพานพระปิ่นเกล้า เลี้ยวกลับเข้าเส้นทางเดิม, สาย 515 ตัดเสริมข้ามทางรถไฟ เลี้ยวซ้ายถนนพระราม 5 เลี้ยวซ้ายถนนสุโขทัย เลี้ยวซ้ายถนนสามเสน ไปทางสะพานซังฮี้ เข้าเส้นทางเดิม, สาย 12 ตัดแยกบางขุนพรม เลี้ยวขาวเข้าบางขุนพรม เลี้ยวขวาเข้าสามเสน เข้าเส้นทางปกติ-แยกสวนมิสกวันด้านถนนราชดำเนิน ปิดการจราจร
ส่วนการเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เวลา 09.30 น.หลัง สน.บางนา ขบวนผู้ชุมนุมเคลื่อนไปทางพระโขนง ด้วยรถบัส 18 คัน ตามด้วย แท็กซี่ และรถจักรยานยนต์ , ไบเทคบางนา มีผู้ชุมนุมเดินทางทั้งรถแท็กซี่ รถบัส และ รถจักรยานยนต์, วงแหวนอุตสาหกรรม มุ่งหน้าผ่านฟ้า มีกลุ่มผู้ชุมนุมโดยรถบัส 7 คัน, จากถนนตกมุ่งหน้าผ่านฟ้า มีกลุ่มผู้ชุมนุม รถบรรทุก 6 คัน, คาร์ฟูร์พระราม 2 มุ่งหน้าสะพานมัฆวานฯ มีกลุ่มผู้ชุมนุม รถจักรยานยนต์ 30 คัน รถปิกอัพ 10 คัน
ล่าสุด พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงเส้นทางที่ปิดการจราจร เนื่องจากในวันที่ 15 มีนาคม 2553 ซึ่งเป็นวันเปิดทำการตามปกติ จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยง 6 เส้นทาง ดังนี้ ถนนอู่ทองใน ถนนราชดำเนินนอก ราชดำเนินใน ถนนศรีอยุธยา ถนนพิษณุโลก จุดเชื่อมต่อสะพานพระปิ่นเกล้า สะพานซังฮี้ โดยเส้นทางดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้ จึงขอให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางอื่นแทน
ทั้งนี้ ผู้ที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ สามารถสอบถามได้ที่หมายเลข 184 เพื่อตรวจสอบจุดที่มีการปรับเปลี่ยนเส้นทาง และในวันพรุ่งนี้ ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรแต่ละพื้นที่ดูแลระบายการจราจรให้สามารถใช้งานได้ และติดป้ายเส้นทางลัด หรือหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้กระทบกับชีวิตประจำวันของประชาชน