สภาทนาย “เสียใจ-เสียดาย” สูญเสีย “ทองใบ ทองเปาด์”

สภาทนายขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวอาจารย์ “ทองใบ ทองเปาด์” ที่สูญเสียทนายความผู้ยิ่งใหญ่ ย้ำ รู้สึกเสียดายมาก เพราะเป็นคนที่ทำงานเสียสละ ทุ่มเทเพื่อสังคมมาโดยตลอด

วันนี้ (24 ม.ค.) ว่าที่ พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง โฆษกสภาทนายความ กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ อาจารย์ทองใบ ทองเปาด์ ทนายความแมกไซไซ เป็นอย่างยิ่ง ปกติท่านเป็นคนสมถะ มีหลักการปฏิบัติงานเป็นที่น่าเชื่อถือ สร้างชื่อเสียงให้กับทนายความไทยจนโด่งดังไปทั่วโลก เพราะท่านได้รับรางวัล รามอน แมกไซไซ สาขาบริการสาธารณะ จากประเทศฟิลิปปินส์ และรู้สึกเสียดายมาก เพราะจะหาบุคคลเช่นท่านที่ทำงานเสียสละ เพื่อสังคมโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ท่านต่อสู้มาโดยตลอด

“ท่านเป็นทนายความผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ ไม่ทราบว่าอีกนานเพียงใดจะมีบุคคลเช่นท่านที่ทำงานอย่างเต็มที่ให้กับสังคม และกระบวนการยุติธรรมไทย โดยสภาทนายความจะเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพ 1 คืน แต่จะเป็นวันใดต้องขอดูโอกาสที่เหมาะสมก่อน” โฆษกสภาทนายความ กล่าว

ทั้งนี้ นายทองใบ เสียชีวิตลงด้วยอาการหัวใจล้มเหลว อายุ 85 ปี ครอบครัวตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน กรุงเทพฯ โดยจะมีพิธีรดน้ำศพ เวลา 16.00 น.วันนี้(24 ม.ค.)

สำหรับประวัติ นายทองใบ ทองเปาด์ อายุ 85 ปี เกิดเมื่อวันที่ 12 เม.ย.พ.ศ.2469 ที่ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน 6 คนของ นายหนู และ นางเหง่า อาชีพทำนา จบชั้นมัธยม 6 ที่ จ.มหาสารคาม และมาเรียนต่อที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เข้าเรียนที่คณะสหกรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล้วลาออกมาเรียนนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระหว่างศึกษาในกรุงเทพฯ เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน จึงอาศัยเป็นเด็กวัด อยู่วัดชนะสงคราม มาตลอด หลังจบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เริ่มทำงานเป็นทนายความ ว่าความให้กับนักหนังสือพิมพ์ในคดีกบฏสันติภาพ เมื่อปี พ.ศ.2496 พร้อมกับทำงานเป็นนักหนังสือพิมพ์ ที่ นสพ.“ไทยใหม่” ร่วมกับ สุภา ศิริมานนท์ ต่อมาย้ายไป นสพ.“พิมพ์ไทย” ร่วมกับ ทวีป วรดิลก ย้ายไป “สยามนิกร” “สุภาพบุรุษ-ประชามิตร” และ “ข่าวภาพ” โดยมีหน้าที่เขียนข่าวการเมือง มีฉายาว่า “บ๊อบการเมือง” เพราะไว้ผมยาว ทรงบ๊อบ

ต่อมา ปี พ.ศ.2501 ได้เดินทางร่วมคณะหนังสือพิมพ์ไปประเทศจีน ร่วมกับ กุหลาบ สายประดิษฐ์ สุวัฒน์ วรดิลก และ เพ็ญศรี พุ่มชูศรี เมื่อกลับมาจึงถูกจับขังคุกหลายปี โดยไม่มีความผิด ได้รับการปล่อยตัวเมื่อ พ.ศ.2509 ออกมาทำงานเป็นทนายความ และนักข่าว นสพ. เดลินิวส์

ปี พ.ศ.2527-2529 ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย และได้รับคัดเลือกเป็นผู้รับรางวัล รามอน แมกไซไซ สาขาบริการสาธารณะ ประจำปี 2527 แต่ปฏิเสธที่จะเดินทางไปรับรางวัลที่ประเทศฟิลิปปินส์ เนื่องจากต้องรับรางวัลจากประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซึ่งในขณะนั้นมีภาพของผู้นำเผด็จการ และละเมิดสิทธิมนุษยชน จากกรณีลอบสังหาร นายเบนีโย อากีโน เมื่อ พ.ศ.2526 และเมื่อ พ.ศ.2547 ได้รับรางวัล “นักกฎหมายดีเด่น ประจำปี 2547” จากกองทุนศาสตราจารย์ สัญญา ธรรมศักดิ์ มูลนิธินิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นอกจากนี้ นายทองใบ ยังรับเป็นทนายความให้กับจำเลยในคดีทุจริตเครื่องราชฯอันโด่งดังด้วย