ตำรวจสืบสวนนครบาล ตามรวบมือยิงกัปตันการบินไทยได้แล้ว ขณะเจ้าตัวกำลังนั่งกินข้าวอยู่ในร้านอาหารที่ จ.พังงา อ้างทำไปโดนขับรถปาดหน้า อีกทั้งเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหง่าย แต่ไม่ได้ตั้งใจให้ถึงตาย หลังก่อเหตุโยนปืนทิ้งแม่น้ำบางปะกง แล้วให้เพื่อนพาหนีไปภาคใต้ ด้านกัปตันบินไทยไม่ถือโทษโกรธเคืองอีกฝ่าย เพราะเข้าใจดีถึงอารมณ์วัยรุ่น ตำรวจเตรียมคุมตัวทำแผนเช้ามืดก่อนส่งฝากขัง
เมื่อเวลา 21.30 น.วานนี้ (21 ม.ค.) ที่ บก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ปัญญา กุลไทย สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น.แถลงข่าวการจับกุมนายพริสร หรือ ณัฐพงษ์ หรืออ็อฟ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่ ส.27/2554 ลงวันที่ 16 ม.ค.54 ในข้อหาพยายามฆ่า มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ หลังจากเจ้าตัวก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง ร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช กัปตันการบินไทยได้รับบาดเจ็บ ขณะกำลังขับรถยนต์ไปทำงานที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเหตุเกิดที่บริเวณถนนมอเตอร์เวย์ กม.4-6 เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา
โดยจับกุมได้ที่บริเวณร้านครัวศรีวารา เลขที่ 20/4 หมู่ 7 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.ยี่ห้อโคลท์ รุ่น เอ็มเค ไอวี ซีรี่ย์ 80 สีดำ จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.ยี่ห้อคิมเบอร์ จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนขนาด 11 มม.ยี่ห้อ สมิทแอนด์เวสสัน จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนขนาด 11 มม. จำนวน 26 นัด กระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 40 นัด และซองกระสุน 2 ซอง
จากการสอบสวนนายณัฐพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิง ร.ท.พูลวิทย์ จริง โดยยิงไป 5 นัด สาเหตุเนื่องจากมีการขับรถปาดหน้ากัน ทำให้ตนเกิดความโกรธ เพราะเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหง่าย ซึ่งความจริงตนไม่ได้ตั้งใจจะจะยิงให้ตาย หรือทำให้เรื่องราวใหญ่โต ครอบครัวเดือดร้อนขนาดนี้ หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด
นายณัฐพงษ์ ให้การต่อว่า หลังก่อเหตุแล้วได้ขับรถกลับไปที่บ้านแฟนสาวของตนที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยระหว่างทางได้โยนปืนกล็อกที่ใช้ก่อเหตุทิ้งลงแม่น้ำบางปะกงไปแล้ว จากนั้นก็โทรติดต่อให้เพื่อนมารับ ก่อนจะหลบหนีไป จ.ระยอง จากนั้นหนีลงภาคใต้ ไปที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.ภูเก็ต จนกระทั่งถูกจับกุมที่ จ.พังงา ขณะที่กำลังกินข้าวอยู่ ตอนแรกว่าว่าจะให้แม่พาเข้ามอบตัว แต่สื่อนำเสนอข่าวจนเกิดกระแสรุนแรงจึงไม่กล้าออกมามอบตัว
นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนสาเหตุที่ตนพกปืนติดตัวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากที่บ้านแฟนสาวของตนนั้นทำบ่อกุ้ง และมักจะมีขโมยเข้าไปขโมยกุ้งในบ่อ โดยปกติมีปืนอยู่ 3-4 กระบอก ทั้งหมดจะเป็นปืนไม่มีทะเบียนที่ซื้อมาจากเพื่อน
ด้าน พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายณัฐพงษ์พบว่า ยังมีคดีเก่าที่หลบหนีประกันอยู่ 3 คดี คือ คดีร่วมกันใช้อาวุธปืนพยายามฆ่า ในพื้นที่ จ.นครปฐม โดยเกิดขึ้นขณะแข่งรถจักรยานยนต์บนท้องถนน คดีที่สอง ถูกจับข้อหาพกพาอาวุธปืน ขนาด .38 ในท้องที่ จ.ราชบุรี ส่วนคดีสุดท้าย คือข้อหาครอบครองยาบ้า 14 เม็ด ในท้องที่สน.ร่มเกล้า ส่วนในเรื่องคดีนี้นั้นคงไม่มีปัญหา เนื่องจากได้หลักฐานครบถ้วน และยังมีคำสารภาพของผู้ต้องหา และเบื้องต้นผู้เสียหายอาการปลอดภัย พร้อมทั้งอโหสิกรรมให้ โดยจะปล่อยให้กฎหมาย และหลักธรรม รวมถึงเวรกรรมติดตามไปลงโทษ ขอเตือนสติประชาชนทั่วไป หวังให้เรื่องนี้เป็นเครื่องเตือนสติตัวเอง เวลามีการขัดใจ หรือกระทบกระทั่งกันควรให้อภัยกัน
ขณะที่ ร.ท.พูลวิทย์ กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ตนถูกยิงจนถึงวันนี้ ก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไร เพราะหลังทราบอายุของผู้ต้องหาก็รู้ว่ารุ่นราวคราวเดียวกับลูกตน เด็กรุ่นนี้มีอารมณ์รุนแรง เป็นไปได้ก็อยากจะให้อยู่ห่างปืน ยิ่งมาทราบว่ากระทำลงไปเพราะความโมโหร้าย ยิ่งรู้สึกสงสาร ไม่โกรธและให้อภัยตลอดเวลา เนื่องจากไม่เคยโกรธแค้นอะไรกันมาก่อน และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือทุกเรื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเจ้าหน้าที่คุมตัวนายณัฐพงษ์ มาถึง บก.สส.บช.น. บรรดาญาติของผู้ต้องหาที่มารอดูการแถลงข่าวจำนวนกว่า 10 คน ก็ได้ตรงเข้าไปหอมแก้มนายณัฐพงษ์ เพื่อให้กำลังใจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปบยังห้องสอบสวนที่มี ร.ท.พูลวิทย์ นั่งรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อนายณัฐพงษ์ เห็น ร.ท.พูลวิทย์ ก็ได้ตรงเข้าไปก้มลงกราบเท้าขอขมาทันที พร้อมกล่าวขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป และเมื่อเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ป้าของนายณัฐพงษ์ ก็ได้เข้าไปกราบเท้า ร.ท.พูลวิทย์ เพื่อเป็นการขอขมาด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เจ้าของท้องที่เกิดเหตุ ไปทำการสอบปากคำเพิ่มเติม
ต่อมาเวลา 06.30 น.วันนี้ (22 ม.ค.) พ.ต.อ.เทียนชัย คามะปะโส ผกก.สน.ประเวศ พ.ต.ท.นิพนธ์ ทองแสงบุญญา รอง ผกก.สส.สน.ประเวศ พ.ต.ท.เหรียญชัย เหล่าที พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ประเวศ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ ควบคุมตัวนายณัฐพงษ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ ที่ถนนมอเตอร์เวย์ ทั้งหมด 6 จุดด้วยกัน
จุดแรกเป็นจุดที่นายณัฐพงษ์ กับ ร.ท.พูลวิทย์ ขับรถปาดหน้าทั้ง จุดที่สองเป็นจุดที่นายณัฐพงษ์ ใช้แสงเลเซอร์ส่องไปที่รถของ ร.ท.พูลวิทย์ โดยฝ่ายของ ร.ท.พูลวิทย์ ก็ได้ใช้ไฟฉายส่องกลับไปที่นายณัฐพงษ์เช่นกัน จุดที่สาม เป็นจุดที่นายณัฐพงษ์ ขับรถฟอร์จูนเนอร์ไล่ตามรถของ ร.ท.พูลวิทย์ แล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่จากทางด้านหลังรถของ ร.ท.พูลวิทย์
จุดที่ต่อมา เป็นจุดที่ ร.ท.พูลวิทย์ พยายามขับรถหนี จุดที่ 5 เป็นจุดที่ ร.ท.พูลวิทย์ ขับหนีเข้าไปทางสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนนายณัฐพงษ์ ขับรถเลยมุ่งหน้าไปทางจ.ชลบุรี และจุดสุดท้ายเป็นจุดที่นายณัฐพงษ์ นำปืนกล็อกที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งที่แม่น้ำบางปะกง โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้นักประดาน้ำงมหาปืนของด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายณัฐพงษ์ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพระโขนง
ตร.ลั่นไม่เกิน 2 วัน ตามจับมือยิงกัปตันบินไทยได้แน่!
ตร.เร่งล่ามือปืนป้ายแดง ขู่ต่อสู้จับตาย พบประวัติยิงใส่รถยนต์ตั้งแต่วัยรุ่น
“จักรทิพย์” มั่นใจจับมือยิงกัปตันบินไทยได้แน่-เตือนชุดสืบระวังตัว
ตร.รอตรวจสอบไฟซีนอนฟอร์จูนเนอร์ไล่ยิงกัปตันบินไทย!
มือปืนป้ายแดงเผ่นแล้ว! พบประวัติพัวพันยาเสพติด 5 คดี
ออกหมายจับ! มือยิงกัปตันบินไทย โดน 2 ข้อหาหนัก
จ่อหมายจับ “หนุ่มตระกูลดัง” มือยิงกัปตันบินไทย
เจอปลอกกระสุนปืนกล็อกยิงกัปตันบินไทย-เร่งล่าฟอร์จูนเนอร์!
ไร้กล้องจับฟอร์จูนเนอร์ไล่ยิงกัปตันบินไทย
แค่เปิดไฟสูงใส่! เก๋งป้ายแดงฉุนไล่ยิงกัปตันการบินไทยหวิดดับ