ดีเอสไอ แถลงจับการ์ด นปช.ใช้อาวุธปืนยิงถล่มทหารเมื่อ 10 เม.ย. พร้อมยึดอาวุธปืนทราโวไปครอบครอง แถมยังยึดปืนพกตำรวจครั้งเข้าจับ “อริสมันต์” ที่เอสซีปาร์คด้วย
วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงการจับกุมตัว นายมานพ หรือ เป็ด ชาญช่างทอง อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ 7 ต.ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ว่า เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 19 ม.ค.เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้จับกุมตัว นายมานพ ได้ที่ทางเข้าหมู่บ้านร่มโพธิ์ทอง ซ.3 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รายละเอียดพฤติการณ์ในการกระทำผิด ผู้ต้องเป็นการ์ดของกลุ่ม นปช.สังกัดเสธ.แดง โดยเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 ผู้ต้องหากับพวกได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงต่อสู้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่จนเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว ถนนดินสอ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม.และปล้นอาวุธปืนทราโว หรือยุทธภัณฑ์ทางทหารไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีการนำไปโชว์บนเวทีชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่เวทีราชประสงค์ หลังจากนั้น ได้แจกจ่ายอาวุธปืนดังกล่าวให้กลุ่มการ์ด นปช.ไปใช้ยิงทำร้ายทหารและประชาชน นอกจากนี้ ในวันที่ 16 เม.ย.53 ยังได้ร่วมกับพวกแย่งปืนพกสั้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุม นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ที่โรงแรม เอสซีปาร์ค ไปเป็นประโยชน์ส่วนตนอีกด้วย
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (21 ม.ค.) พนักงานสอบสวนดีเอสไอจะส่งตัวผู้ต้องหาให้ศาลอนุมัติฝากขัง และจะยื่นเรื่องคัดค้านการประกันตัวต่อไป
ขณะที่ นายมานพ กล่าวว่า มีอาชีพค้าของเก่า ในช่วงระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ก็ได้ไปสมัครเป็นการ์ดอาสา ไม่ได้สังกัดกลุ่มของ เสธ.แดง โดยมีหน้าที่หลัก คือ เดินซื้อหนังสือพิมพ์ให้กับแกนนำ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.เวลา 22.00 น.ได้เดินทางจากเวทีราชประสงค์พร้อมแกนนำไปที่เวทีผ่านฟ้าลีลาศ ต่อมา เมื่อเวลา 23.00 น.ได้เดินทางไปที่บริเวณสี่แยกคอกวัว และได้เห็นทหาร 30 กว่านาย ถูกผู้ชุมนุมล้อมไว้ จึงหาทางเข้าไปช่วยเพื่อให้ทหารกลับเข้าไปในที่ตั้ง ในขณะนั้นมวลชนและการ์ดที่อยู่บริเวณนั้น ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มไหนได้ปลดอาวุธของเจ้าทหารไว้ จากนั้นตนจึงขอรับช่วงต่อ โดยอาสานำอาวุธไปไว้บนเวทีโดยแบกอาวุธปืนมาจำนวน 5 กระบอกตามที่ภาพปรากฏในสื่อต่างๆ ซึ่งบริเวณนั้นเป็นบริเวณหลังเวที จากนั้นได้บอกกับผู้ใหญ่ว่าให้จัดหารถยนต์ เพื่อนำทหารไปส่งที่หน่วย เพราะเกรงว่าอาจถูกทำร้าย เมื่อหมดภารกิจจึงเดินทางไปที่เวทีราชประสงค์ หลังจากนั้น ก็ไม่ทราบว่าใครเอาอาวุธปืนไปไว้ที่ไหน เพราะไม่อยากไปก้าวก่าย
เมื่อถามว่า ในวันที่ 16 เม.ย.ได้ร่วมกับพรรคพวกปลดอาวุธของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ นายมานพ กล่าวว่า ในวันนั้นตนไม่ได้เดินทางไปที่โรงแรมเอสซีปาร์ค แต่อยู่ที่บริเวณห้างมาบุญครอง
เมื่อถามว่า มาเป็นการ์ด นปช.มีใครเป็นหัวหน้าชุด นายมานพ กล่าวว่า จำไม่ได้ว่าใครเป็นหัวหน้าชุด
วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงการจับกุมตัว นายมานพ หรือ เป็ด ชาญช่างทอง อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ 7 ต.ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ว่า เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 19 ม.ค.เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้จับกุมตัว นายมานพ ได้ที่ทางเข้าหมู่บ้านร่มโพธิ์ทอง ซ.3 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รายละเอียดพฤติการณ์ในการกระทำผิด ผู้ต้องเป็นการ์ดของกลุ่ม นปช.สังกัดเสธ.แดง โดยเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 ผู้ต้องหากับพวกได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงต่อสู้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่จนเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว ถนนดินสอ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม.และปล้นอาวุธปืนทราโว หรือยุทธภัณฑ์ทางทหารไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีการนำไปโชว์บนเวทีชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่เวทีราชประสงค์ หลังจากนั้น ได้แจกจ่ายอาวุธปืนดังกล่าวให้กลุ่มการ์ด นปช.ไปใช้ยิงทำร้ายทหารและประชาชน นอกจากนี้ ในวันที่ 16 เม.ย.53 ยังได้ร่วมกับพวกแย่งปืนพกสั้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุม นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ที่โรงแรม เอสซีปาร์ค ไปเป็นประโยชน์ส่วนตนอีกด้วย
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (21 ม.ค.) พนักงานสอบสวนดีเอสไอจะส่งตัวผู้ต้องหาให้ศาลอนุมัติฝากขัง และจะยื่นเรื่องคัดค้านการประกันตัวต่อไป
ขณะที่ นายมานพ กล่าวว่า มีอาชีพค้าของเก่า ในช่วงระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ก็ได้ไปสมัครเป็นการ์ดอาสา ไม่ได้สังกัดกลุ่มของ เสธ.แดง โดยมีหน้าที่หลัก คือ เดินซื้อหนังสือพิมพ์ให้กับแกนนำ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.เวลา 22.00 น.ได้เดินทางจากเวทีราชประสงค์พร้อมแกนนำไปที่เวทีผ่านฟ้าลีลาศ ต่อมา เมื่อเวลา 23.00 น.ได้เดินทางไปที่บริเวณสี่แยกคอกวัว และได้เห็นทหาร 30 กว่านาย ถูกผู้ชุมนุมล้อมไว้ จึงหาทางเข้าไปช่วยเพื่อให้ทหารกลับเข้าไปในที่ตั้ง ในขณะนั้นมวลชนและการ์ดที่อยู่บริเวณนั้น ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มไหนได้ปลดอาวุธของเจ้าทหารไว้ จากนั้นตนจึงขอรับช่วงต่อ โดยอาสานำอาวุธไปไว้บนเวทีโดยแบกอาวุธปืนมาจำนวน 5 กระบอกตามที่ภาพปรากฏในสื่อต่างๆ ซึ่งบริเวณนั้นเป็นบริเวณหลังเวที จากนั้นได้บอกกับผู้ใหญ่ว่าให้จัดหารถยนต์ เพื่อนำทหารไปส่งที่หน่วย เพราะเกรงว่าอาจถูกทำร้าย เมื่อหมดภารกิจจึงเดินทางไปที่เวทีราชประสงค์ หลังจากนั้น ก็ไม่ทราบว่าใครเอาอาวุธปืนไปไว้ที่ไหน เพราะไม่อยากไปก้าวก่าย
เมื่อถามว่า ในวันที่ 16 เม.ย.ได้ร่วมกับพรรคพวกปลดอาวุธของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ นายมานพ กล่าวว่า ในวันนั้นตนไม่ได้เดินทางไปที่โรงแรมเอสซีปาร์ค แต่อยู่ที่บริเวณห้างมาบุญครอง
เมื่อถามว่า มาเป็นการ์ด นปช.มีใครเป็นหัวหน้าชุด นายมานพ กล่าวว่า จำไม่ได้ว่าใครเป็นหัวหน้าชุด