นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงผลการจับกุมตัวนายมานพ ชาญช่างทอง หรือ เป็ด อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีก่อการร้าย โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านร่มโพธิ์ทอง ต.บางรักพัฒนา จ.นนทบุรี วานนี้ (19 ม.ค.) ซึ่งผู้ต้องหาเป็นการ์ดของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. สังกัดกลุ่มของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ องทัพบก
โดยเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ผู้ต้องหากับพวกได้มีอาวุธและใช้อาวุธปืนสงครามยิงต่อสู้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่บริเวณสี่แยกคอกวัว จนเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก พร้อมทั้งปล้นอาวุธปืนหรือยุทธภัณฑ์ทางทหารไปเป็นจำนวนมาก และนำแสดงบนเวที นปช.ที่แยกราชประสงค์ หลังจากนั้นได้แจกจ่ายอาวุธให้กลุ่มการ์ด นปช.ใช้ยิงทำร้ายทหารและประชาชน รวมถึงยังพบว่าเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2553 ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวกแย่งอาวุธปืนพกสั้นจากเจ้าหน้าที่ ขณะเข้าจับกุมตัวนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ที่โรงแรมเอส ซี ปาร์ค ด้วย โดยพนักงานสอบสวนได้สอบสวนคดีดังกล่าวพร้อมมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหากับพวกไปแล้ว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ยอมรับเพียงเข้าไปแย่งอาวุธปืน โดยในวันพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนจะนำผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขัง และจะคัดค้านการประกันตัว
ด้านนายมานพ ชาญช่างทอง เปิดเผยถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 โดยยอมรับว่าได้เข้าไปในพื้นที่ที่มีการปะทะจริง แต่เข้าไปในช่วงเวลา 23.00-24.00 น.ซึ่งเหตุการณ์ได้สงบลงแล้ว ส่วนอาวุธปืนที่นำมาจากทหารได้นำไปเก็บไว้ด้านหลังเวทีราชประสงค์ โดยอาวุธดังกล่าวนำมาจากมวลชนและการ์ด นปช.ที่ล้อมและปลดจากทหารที่ประจำการอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ตนเองนำอาวุธปืนมา 5 กระบอก ส่วนที่เหลือไม่ทราบว่าอยู่ที่ใดบ้าง พร้อมยืนยันไม่ใช่ชายชุดดำที่ใช้ปืนยิงใส่ประชาชนและทหาร เป็นเพียงการ์ดอาสา ไม่ได้สังกัดแกนนำคนใด มีอาชีพเก็บของเก่าขาย ภายหลังสลายการชุมนุมก็กลับไปอยู่บ้าน และไม่ทราบว่าถูกหมายจับในคดีก่อการร้าย
นอกจากนี้ นายมานพ ยังปฏิเสธเรื่องการชิงอาวุธของตำรวจชุดที่พยายามจับกุมนายอริสมันต์ ที่โรงแรมเอส ซี ปาร์ค ด้วย
โดยเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ผู้ต้องหากับพวกได้มีอาวุธและใช้อาวุธปืนสงครามยิงต่อสู้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่บริเวณสี่แยกคอกวัว จนเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก พร้อมทั้งปล้นอาวุธปืนหรือยุทธภัณฑ์ทางทหารไปเป็นจำนวนมาก และนำแสดงบนเวที นปช.ที่แยกราชประสงค์ หลังจากนั้นได้แจกจ่ายอาวุธให้กลุ่มการ์ด นปช.ใช้ยิงทำร้ายทหารและประชาชน รวมถึงยังพบว่าเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2553 ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวกแย่งอาวุธปืนพกสั้นจากเจ้าหน้าที่ ขณะเข้าจับกุมตัวนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ที่โรงแรมเอส ซี ปาร์ค ด้วย โดยพนักงานสอบสวนได้สอบสวนคดีดังกล่าวพร้อมมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหากับพวกไปแล้ว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ยอมรับเพียงเข้าไปแย่งอาวุธปืน โดยในวันพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนจะนำผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขัง และจะคัดค้านการประกันตัว
ด้านนายมานพ ชาญช่างทอง เปิดเผยถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 โดยยอมรับว่าได้เข้าไปในพื้นที่ที่มีการปะทะจริง แต่เข้าไปในช่วงเวลา 23.00-24.00 น.ซึ่งเหตุการณ์ได้สงบลงแล้ว ส่วนอาวุธปืนที่นำมาจากทหารได้นำไปเก็บไว้ด้านหลังเวทีราชประสงค์ โดยอาวุธดังกล่าวนำมาจากมวลชนและการ์ด นปช.ที่ล้อมและปลดจากทหารที่ประจำการอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ตนเองนำอาวุธปืนมา 5 กระบอก ส่วนที่เหลือไม่ทราบว่าอยู่ที่ใดบ้าง พร้อมยืนยันไม่ใช่ชายชุดดำที่ใช้ปืนยิงใส่ประชาชนและทหาร เป็นเพียงการ์ดอาสา ไม่ได้สังกัดแกนนำคนใด มีอาชีพเก็บของเก่าขาย ภายหลังสลายการชุมนุมก็กลับไปอยู่บ้าน และไม่ทราบว่าถูกหมายจับในคดีก่อการร้าย
นอกจากนี้ นายมานพ ยังปฏิเสธเรื่องการชิงอาวุธของตำรวจชุดที่พยายามจับกุมนายอริสมันต์ ที่โรงแรมเอส ซี ปาร์ค ด้วย
