ไพร่แดงชุมนุม สันติวิธี(เลือด)ใครบงการ!

แม้วันนี้เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในห้วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง จะยังไม่มีใครชี้ชัดได้ว่า ไอ้โม่งตัวการใหญ่ คือใคร และทำไม ต้องก่อเหตุร้าย แต่จากผลแห่งการกระทำ แน่นอน ได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง รัฐบาลถูกดิสเครดิต และที่น่าแปลกคือ เหตุการณ์ร้าย ไม่เคยเกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงแม้แต่สักครั้งเดียว ส่วนใครกันแน่คือผู้ก่อเหตุ ถือเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องกระชากหน้ากากไอ้วายร้ายตัวจริงให้ได้

และเพื่อย้ำเตือนความทรงจำ เราย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ที่ถือว่า แต่ละเหตุการณ์ไม่ธรรมดา เมื่อพบว่า การก่อเหตุได้พัฒนาไปสู่ความรุนแรง จนถึงขั้นหมายเอาชีวิต ของทหาร และประชาชนผู้บริสุทธิ์

เริ่มจาก 15 มี.ค.เวลา 13.30 น.คนร้ายกระทำการอุกอาจ ยิงระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 6 ลูก ใส่พื้นที่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 1 รอ.) ถนนวิภาวดีรังสิตขาออก ซึ่งระเบิดเอ็ม 79 ไปตกที่ต้นประดู่กิ่งก้านหักเสียหาย และส่งผลให้ จ.ส.อ.ปรีชา ปานสมุทร อายุ 49 ปี และ พลทหารหนุ่ม ศรีเฝือง อายุ 23 ปี ซึ่งเฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยอยู่หน้าป้อมยาม ราบที่ 1 ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ

16 มี.ค.เวลา 02.30 น.คนร้ายยิงเอ็ม 79 ใส่บ้านของนายวรสิทธิ์ เกียรติทวีอนันต์ นักธุรกิจนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศจีน ในซอยลาดพร้าว 23 แยก 6 ทะลุหลังคากลางบ้านเป็นรูเบอเริ่ม 2 รู แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เบื้องต้นเชื่อกันว่าคนร้ายยิงพลาดเป้า เนื่องจากในบริเวณใกล้เคียงถัดไปอีกซอยลาดพร้าว 25 เป็นบ้านนายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด

20 มี.ค.เวลา 22.30 น.คนร้ายยิงจรวดอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหม แต่พลาดเป้าโดนสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ บริเวณปากซอยซอยแพร่งภูธร ด้านหลังกระทรวงกลาโหม ถนนอัษฎางค์ แรงระเบิดทำให้กระจกหน้าต่างบ้านเรือนประชาชนแตกเสียหาย งานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบชิ้นส่วนจรวดอาร์พีจี ตกอยู่ริมคลองหลอดฝั่งถนนอัษฎางค์ มีเจ้าหน้าที่เก็บขยะของ กทม.ถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บเล็กน้อย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์-ทอง หมายเลขทะเบียน ตศ 9818 กทม.สภาพรถกระจกแค็บด้านหลังคนขับหายไปทั้งบาน กระจกประตูด้านซ้ายแตกเสียหายทั้งบาน มีคราบเขม่าดินปืนติดอยู่ภายในรถ โดยพบเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี 1 กระบอก ที่ผ่านการใช้งานแล้ว ระเบิดขว้างสังหารชนิดเอ็ม 67 จำนวน 3 ลูก อาวุธปืนทอมสัน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 44 นัด โดยคดีนี้ได้ออกหมายจับ ส.ต.ท.บัณฑิต สิทธิ์ทุม อายุ 43 ปี ผู้ต้องหา ยิงระเบิดอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหม โดยพบว่า ส.ต.ท.บัณฑิต ถูกดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2538 ที่วังน้ำเย็น เรื่องขนไม้เถื่อน และอาวุธสงคราม กระทั่งปี 2544 ถูกไล่ออกจากราชการ ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี

22 มี.ค.เวลา 22.30 น.คนร้ายปาระเบิด เอ็ม 67 ใส่ป้อมยามหมวดการทางตลิ่งชัน แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมกว้างขนาด 6 นิ้ว ลึก 4 นิ้ว ขณะที่ "พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน" รองผบช.น. ระบุยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน รู้เพียงว่าก่อนที่สำนักงานบำรุงทางธนบุรีจะถูกปาระเบิด ได้ไล่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกไป 1 คน จึงเป็นไปได้ว่า รปภ.คนดังกล่าว อาจกลับมาล้างแค้น เพราะดูจากวิถีการขว้างระเบิดเป้าหมายอยู่ที่ป้อมยาม และอาจมีคนสร้างสถานการณ์ในช่วงบ้านเมืองไม่ปกติ

23 มี.ค.เวลา 14.45 น. คนร้ายเหิมคุกคามหนักหน่วงขึ้น โดยยิงระเบิดเอ็ม 79 จากบนทางด่วน เข้าไปภายในกระทรวงสาธารณสุข ช่วงระหว่างประชานุกูลไปงามวงศ์วาน ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ซึ่งระเบิดเอ็ม 79 ไปตกลงลานจอดรถของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) หลังกรมสุขภาพจิต แรงระเบิดทำให้หลังคา มุมขวาแตก เป็นรูขนาดใหญ่ สะเก็ดระเบิดตกกระจัดกระจาย ส่วนลานจอดรถอีกหลังอยู่ถัดไป เจ้าหน้าที่พบหลุมที่พื้นลึก 25 ซม. และมีรถยนต์ที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย 3 คัน ได้แก่ รถยนต์เชฟโรเลต สีเทาดำ ทะเบียนป้ายแดง ฉ-0992 กทม. รถยนต์วอลโว่ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 7ว-3690 กทม. และรถยนต์โตโยต้า วีออส ทะเบียน ษง 2655 กทม. ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกกำลังเร่งตรวจสอบภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดทางด่วนอยู่

24 มี.ค. เวลา 20.45 น. คนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 67 ใส่อาคารที่พักห้องควบคุมการจ่ายไฟของสำนักงานเทศบาลนครนนทบุรี ที่ใช้สำหรับจ่ายไฟเข้าไปในสวนหย่อมออกกำลังกาย โดยอาคารดังกล่าวได้รับความเสียหายหลังคากระเบื้องแตกกระจาย ตู้จ่ายไฟขนาดใหญ่ถูกแรงระเบิดจนได้รับความเสียหายสายไฟห้อยออกมาระโยงระยาง ส่วนด้านข้างอาคารข้าวของอุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับงานในสวนแตกกระจายเกลื่อน บริเวณโดยพบหลุมกว้างประมาณ 20 ซม. ลึก 30 ซม. งานนี้ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้ศาลากลางนนทบุรี แต่จุดที่ปาระเบิดไม่มีกล้องวงจรปิด

24 มี.ค.เวลา 21.00 น.เกิดเหตุระเบิดทางเท้าริมรั้วกรมบังคับคดี แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมกว้าง 10 ซม.ลึก 10 ซม. สะเก็ดระเบิดทำให้เสาไฟฟ้าที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเป็นรูพรุน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบกระเดื่องลูกระเบิดชนิดขว้าง เอ็ม 67 ตกอยู่ ซึ่งเหตุระเบิดในครั้งนี้อยู่ห่างจาก สน.บางขุนนนท์ เพียง 200 เมตร เท่านั้น

26 มี.ค.เวลา 08.20 น.ยามรักษาความปลอดภัยประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาฯ เดินตรวจโดยรอบไปพบระเบิดเอ็ม 67 บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกในลานจอดรถบริเวณริมรั้วสำนักงานฯ แต่ระเบิดไม่ทำงาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่าคนร้ายคงปามาตั้งแต่เมื่อคืน จนยามไปพบตกอยู่แต่สลักไม่ทำงาน ขณะที่ นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด เชื่อสร้างสถานการณ์

27 มี.ค.เวลา 03.50 น. ร.ต.ท.อำนาจ ศรีสุวรรณโน ร้อยเวรสอบสวน สน.ท่าเรือ ได้รับแจ้งเหตุระเบิดภายในอาคาร 120 ปี กรมศุลกากร ถนนสุนทรโกษา แขวงและเขตคลองเตย กทม.ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 1 หน้าอาคารสำนักงาน 120 ปี กรมศุลกากร อยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 30 เมตร ทั้งนี้แรงระเบิดส่งผลให้พื้นสวนหย่อมด้านหน้าอาคารเป็นหลุมกว้าง 10 ซม. ลึก 5 ซม.อลูมิเนียมบนเพดานหล่นลงมากองระเนระนาด กระจกอาคารแตก 1 บาน และเป็นรูพรุน จนเกิดรอยร้าวอีก 4 บาน เนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิด โคมไฟส่องส่วางบนฟุตปาธแตก 1 ดวง และยังมีรถตู้ ยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฮค 5990 กทม. ของกรมศุลกากร ถูกแรงระเบิดจนกระจกด้านหลังแตกได้รับความเสียหายเล็กน้อย ผลการตรวจสอบของหน่วยเก็บกู้พบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เป็นระเบิดลูกเกลี้ยงชนิดขว้าง K-75

27 มี.ค.เวลา 18.45 น.ได้เกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดเข้าไปภายในสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 สนามเป้า ถ.พหลโยธิน แต่ระเบิดไปติดตาข่ายที่กั้นไว้ ทำให้ระเบิดตกที่รั้วด้านนอกฟุตปาธ โดยแรงระเบิดทำให้ทหารที่ประจำการณ์อยู่ที่ป้อมยามได้รับ บาดเจ็บ 2 นาย ชื่อ พลทหารนฤพงษ์ อุเทนสุด อายุ 19 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ บริเวณหู เลือดออกที่ช่องหู แก้วหูแตก เนื่องจากถูกแรงระเบิด บริเวณขาได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ข้าง รู้สึกตัวดี อาการปลอดภัยแล้ว รายที่ 2 พลทหารชัยสิทธิ์ ชาวโพธิ์เอน อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาข้างขวา เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้วเช่นกัน และประชาชนที่ขับรถผ่านจุดเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บ 6 ราย โดยในจำนวนนั้นสาหัส 1 ราย ผลจุดเกิดเหตุ ตำรวจพบหลุมระเบิด กว้าง 15 ซม.ลึก 10 ซม.และกระเดื่องระเบิด โดยเบื้องต้นคาดว่าเป็นระเบิดลูกเกลี้ยง เอ็ม 67

27 มี.ค.เวลา 21.30 น.ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ ดาวเรือง ร้อยเวรสอบสวน สน.สุทธิสาร ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 เข้าใส่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ถนนวิภาวดี แขวงและเขตดินแดง กทม.จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าห้องส่งสัญญาณติดกับฝ่ายข่าว ห่างจากถนนประมาณ 200 เมตร แรงระเบิดทำให้เต็นท์ที่อยู่ด้านหน้าห้องส่งสัญญาณฉีกขาดและเป็นรูพรุน เนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิด ซึ่งเต็นท์ดังกล่าวเป็นที่สำหรับให้ทหารของ ศอ.รส.และเจ้าหน้าที่ รปภ.ของสถานีพักผ่อนเพื่อดูแลความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีแดง หมายเลขทะเบียน 6ฬ 5511 กทม. ถูกสะเก็ดระเบิดจนฝากระโปรงหน้ารถเป็นรู

โดยเหตุระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.พระมงกุฎเกล้า ทราบชื่อต่อมาคือ พลทหารโสภณ แสนตา อายุ 21 ปี ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา พลทหารสุภีร์ นามอาสา อายุ 21 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ช่องท้อง ทั้ง 2 รายเป็นทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และนายภัทรพล วิเศษชัย อายุ 25 ปี รปภ.ของช่อง 11 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณปาก แพทย์ได้ทำการช่วยเหลือจนทั้งหมดอาการปลอดภัย

28 มี.ค.เวลา 04.00 น.พ.ต.ทภูดิท จิตธรรม สว.สส.สน.บางเขน ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิดชนิด เอ็ม 79 เข้าไปภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.)ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้เป็นศูนย์บัญชาการในการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความ สงบ (ศอ.รส.) แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณสนามฟุตบอลหน้ากองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ห่างจากประตูกองรักษารณ์ประมาณ 200 เมตร ภายในสนามพบรถยีเอ็มซีของเจ้าหน้าที่ทหารได้รับความเสียหายหลังคาทะลุ 1 คัน เนื่องจากถูกแรงระเบิด ห่างออกไปประมาณ 60 เมตร พบว่าพื้นสนามฟุตบอลเป็นหลุมลึก 3 นิ้ว กว้าง 5 นิ้ว สะเก็ดระเบิดกระจายอยู่รอบพื้นสนาม เจ้าหน้าที่จึงเก็บไปตรวจสอบอย่างละเอียด นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย เป็นพลทหาร 3 ราย และ จ.ส.อ.อีก 1 ราย ถูกส่งตัวไปรักษาที่รพ.พระมงกุฏเกล้า

28 มี.ค. เวลา 16.00 น. คนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงเข้าไปในธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานขาว ถนนหลานหลวง บริเวณประตูกระจกทางเข้าธนาคาร พบรอยกระสุน จำนวน 5 รู ทำให้กระจกแตกร้าวจำนวน 3 บาน ซึ่งไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะที่ พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐ์ผล ผกก.สน.นางเลิ้ง คาดน่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของผู้ไม่หวังดี สั่งสายตรวจออกตรวจตราเข้ม

28 มี.ค. เวลา 22.30 น. .คนร้ายปาระเบิด เอ็ม 67 ใส่กำแพงบ้าน นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งบริเวณทางเท้าริมรั้วบ้านนายบรรหาร ใกล้กับสะพานลอย พบหลุมลึกประมาณ 10 เซนติเมตร และกิ่งไม้หักตกอยู่ ห่างไปประมาณ 5 เมตร โดยชาวบ้านโดนสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บ 1 ราย

กับความป่าเถื่อนในห้วง 17 วัน ที่กลุ่ม “ไพร่แดง”ชุมนุม เหตุการณ์ร้ายได้เกิดขึ้นถึง 14 ครั้ง โดยอาวุธสงครามที่ใช้ ประกอบด้วยเอ็ม 79 อาร์พีจี เอ็ม 67 เค 75 จึงถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับในแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น