แพทย์นิติเวชตำรวจร้องสื่อ ถูกย้ายจากสถาบันนิติเวชไม่เป็นธรรม ก่อนถูกย้ายลงช่วยราชการใต้โดยที่ไม่เต็มใจแถมรายได้หด
วันนี้(25 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.ต.ปิยพงษ์ สาครเย็น นายแพทย์ (สบ 2) กลุ่มงานพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับบุคคล ปฏิบัติราชการกลุ่มงานผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลตำรวจ อายุ 35 ปี เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เนื่องจากถูกให้ย้ายออกจากกลุ่มงานพิสูจน์เกี่ยวกับบุคคล หรืองานผ่านชันสูตรศพโดยไม่เป็นธรรม และต่อมาภายหลังทั้งที่ย้ายงานแล้วยังถูกให้ไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อไปปฏิบัติงานผ่าชันสูตรศพ
พ.ต.ต.ปิยพงษ์ บอกว่า ตนเป็นแพทย์นิติเวช สถาบันนิติเวชวิทยา ตั้งแต่ปี 2544 กระทั่งวันที่ 21 ต.ค.52 ที่ผ่านมา ถูกย้ายไปกลุ่มงานผู้ป่วยนอก ทั้งๆที่ทำงานด้านนิติเวชมานาน และไม่ถนัดงานตรวจผู้ป่วย โดยสถาบันนิติเวชวิทยามีเหตุผลว่าต้องการให้มีแพทย์นิติเวชเพียง 10 คน เท่านั้น ตนและ แพทย์อีกคนหนึ่งจึงถูกย้าย ทั้งนี้ในสถาบันนิติเวชฯนั้นในปีงบประมาณที่ผ่านมาๆได้งบฯ ค่าใช้จ่ายสำหรับแพทย์ที่ผ่าศพ 10 ล้านบาท เพื่อจ่ายสำหรับค่าผ่าศพให้แพทย์ ศพละ 3,000 บาท และเงินก้อนนี้กำลังจะหมดประมาณเดือนเมษายนนี้เนื่องจากทุกวันนี้มีศพมายังสถาบันฯ จำนวนมาก ซึ่งหมายความว่าการผ่าศพหลังจากนี้แพทย์จะไม่ได้รับเงินส่วนนี้เพราะได้หมดไปแล้ว ซึ่งตนเองก็ยอมรับว่าพอย้ายมาอยู่ที่กลุ่มงานผู้ป่วยนอกก็ไม่ได้เงินพิเศษส่วนนี้แต่อย่างใด มีรายได้จากเงินเดือนเท่านั้น จนต้องหารายได้พิเศษด้วยการเขียนหนังสือขาย
พ.ต.ต.ปิยพงษ์กล่าวว่า การที่ตนถูกย้ายไม่ได้อยู่ในสถาบันฯ ไม่ได้เงินพิเศษก็ไม่เท่าไหร่ แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ แพทย์ใหญ่ได้มีคำสั่งให้ตน ไปปฏิบัติงานตรวจชันสูตรศพที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ในช่วงระหว่างวันที่ 1-10 มิ.ย. ทั้งๆ ที่ไปก็ไม่ได้รับเงินค่าผ่าศพ และตนก็ไม่เต็มใจไป เป็นลักษณะว่าพอเงินสำหรับค่าผ่าศพหมดก็มาเอาตนไปทำงานและให้ไปอยู่ภาคใต้ จึงอยากขอความเป็นธรรม ซึ่งที่ผ่านมาก็ลงไปปฏิบัติงานที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกปีๆ ละ 3 ช่วงอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำรับ พ.ต.ต.ปิยพงษ์ หรือหมอพาย คือผู้เขียนหนังสือ “หมอเจ็บ” ซึ่งเคยถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์มาแล้ว