xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจสีน้ำเงิน! งัดมุกสร้างกระแสจ่อหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ตำรวจสร้างกระแส! “พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” ขนคอมมานโดคุมสำนวนจ่อออกหมายจับ แกนนำพันธมิตรฯ บุกยึดสนามบิน ตั้งป้อมรอที่ศาลอาญา สุดท้ายรอเก้อ “ปทีป” ปัดเซ็นหมายจับ ต้องหน้าม่อยกลับไป ทีมทนายพันธมิตรฯ อัด ตำรวจทำอะไรต้องรู้จักคิด ปูดมีแผนสร้างสถานการณ์ดึงเหลืองชนแดง เด็ดหัวทั้งคู่


วันนี้ (11 มี.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ชุดที่มี พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกำลังคอมมานโด อาวุธครบมือ เดินทางนำสำนวนคดีบุกยึดสนามบินดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ใส่รถกระบะ มาเตรียมรอยื่นขอศาลอนุมัติออกหมายจับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ผู้ต้องหา ต่อมาเวลา 16.30 น.พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ออกมาชี้ว่า ไม่มีคำสั่งออกหมายจับ ขณะที่คดีอยู่ระหว่างสอบสวนสำนวนเพิ่มเติม คณะพนักงานสอบสวนจึงรีบเดินทางกลับออกไปทันที

มีรายงานว่าสำหรับกลุ่มผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวน ขออนุมัติออกหมายจับกุมในครั้งนี้ ร่วมกันทั้ง 2 คดี นั้นมีด้วยกันทั้งหมด 112 คน จากเดิมที่มีแค่ 52 คน ซึ่งในกลุ่มนี้จะเป็นผู้ต้องหาที่มีชื่อ และถิ่นที่อยู่ จำนวน 81 คน ส่วนที่เหลือนั้นยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล เพราะเนเพียงภาพถ่ายตามที่ปรากฎอยู่ในหลักฐาน

นอกจากนี้ในบรรดากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 112 คน พนักงานสอบสวนยังได้แบ่งผู้ต้องหาออกเป็นสามกลุ่ม กลุ่มแรกก็คือผู้ต้องหา ที่พนักงานสอบสวนชุดเดิมออกหมายเรียก เพื่อให้มาทรับข้อกล่าวหาไปแล้ว แต่ยังไม่ยอมมารับทราบข้อกล่าวหา กลุ่มที่ 2 ก็คือกลุ่มที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และกลุ่มที่ 3 คือกลุ่มที่มีโทษเกิน 3 ปี นอกจากนี้พนักงานสอบสวน ยังได้ทำรายงานผลสรุปการสอบสวนทั้งหมด และมีการแบ่งแยกอย่างละเอียดว่าผู้ต้องหาแต่ละคนมีหลักฐาน กระทำผิดอย่างไรบ้าง ซึ่งก่อนจะเดินทางไปศาล ทางพล.ต.ท.สมยศ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ก็ได้เรื่องเสนอไปยัง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ให้เป็นผู้พิจารณามีคำสั่งดำเนินการ ส่วนทางฝ่ายคณะนักงานสอบสวน ก็ได้นำสำนวนการสอบสวน เดินทางไปรอที่ศาลอาญา ปรากฏว่าต้องรออยู่จนกระทั่งเวลาศาลปิดทำการ ก็ยังไม่มีคำสั่งจากทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงแต่อย่างใด จึงทำให้คณะพนักงานสอบสวน ต้องหอบสำนวนกลับมาที่กองปราบปราม และมีรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ ( 12 มี.ค.) คณะพนักงานสอบสวนจะเตรียมที่นำสำนวนการสอบสวน ไปขออนุมัติศาลออกหมายจับกุมอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องรอความเห็นจากทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงอีกครั้งว่ามีความเห็นสั่งการอย่างไรลงมา

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่านอกจากจะมีการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 112 คนนี้แล้ว พนักงานสอบสวนก็ยังเตรียมจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ยังเหลือเพิ่มเติมอีกด้วย โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐาน เช่นภาพถ่าย ต่างๆ เพื่อหาตัวว่าบุคคลที่ปรากฎอยู่ในหลักฐานภาพถ่ายดังกล่าวเป็นใคร เมื่อทราบก็จะได้เรียกตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ด้าน นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเดินทางมายังศาลอาญา เพื่อรอยื่นคัดค้านการออกหมายจับ กล่าวว่า เมื่อได้ข่าวว่าจะมีการออกหมายจับจึงเตรียมตัวมาคัดค้าน แต่ทราบว่า การออกหมายจับไม่ได้มีชื่อของ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมอยู่ด้วย เนื่องจาก นายกษิต ได้แยกสำนวนออกมาดำเนินคดี และ นายกษิต เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเองแล้ว ขณะที่ประเด็นที่คัดค้านการออกหมายจับจะต่อสู้ว่าผู้ต้องหาทั้งหมดมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่คิดหลบหนี ขณะที่ข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายนั้นรุนแรงเกินกว่าเหตุ การตั้งข้อกล่าวหาเป็นการกลั่นแกล้ง จึงเป็นเหตุที่ทำให้ผู้ต้องหาไม่ไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ประกอบกับได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ รรท.ผบ.ตร.แต่ก็ยังไม่เคยได้รับหนังสือตอบกลับ ซึ่งยืนยันว่าผู้ต้องหาทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือตลอด หากเป็นข้อหาอื่นที่ไม่ใช่การตั้งข้อหาก่อการร้าย

เมื่อถามว่า มองเรื่องนี้เกี่ยวกับการชุมนุมเสื้อแดงที่จะมีขึ้นในวันที่ 12-14 มี.ค.นี้หรือไม่ อย่างไร นายนิติธร กล่าวว่า ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดจึงต้องมาขอออกหมายจับในช่วงที่มีการชุมนุมเสื้อแดง ซึ่งเป็นสิ่งที่พนักงานสอบสวนต้องทบทวนใคร่ครวญว่าจะเป็นแรงบวกต่อสถานการณ์ชุมนุมหรือไม่ เพราะไม่มีเหตุปัจจัยขณะนี้ที่จะเป็นกรณีเร่งด่วนที่จะต้องออกหมายจับ

ด้าน นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม.กล่าวว่า ตนทราบข่าวจะมีการขออนุมัติออกหมายจับแกนนำ พธม.รุ่น 1-2 รวมทั้งแนวร่วม พธม.อีกกว่า 100 คน เนื่องจากผู้มีอำนาจบางกลุ่มเตรียมการจะปราบทั้งเสื้อแดง และเสื้อเหลือง ไปพร้อมๆ กัน เพราะหากมีการออกหมายจับแกนนำ พธม.ก็คาดว่า จะมีกลุ่มผู้สนับสนุนเสื้อเหลืองออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งในช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง หากเกิดความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีอำนาจที่จะควบคุมปราบปรามได้ทันที อย่างไรก็ดี ตนยืนยันว่า ไม่ว่าจะมีการออกหมายจับแกนนำ พธม.ในคดีนี้หรือไม่ กลุ่มแนวร่วม พธม. จะไม่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงเวลานี้อย่างแน่นอน

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกระแสข่าวคณะพนักงานสอบสวนคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมเสนอศาลขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ว่า ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ ทราบว่าพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งในการออกหมายจับนั้นเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนที่จะใช้ดุลพินิจ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสำนวนคดียังไม่เสร็จเรียบร้อย ยังไม่มีการสรุปรายงานการสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนยังต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานบางเรื่อง ที่ยังได้ไม่ครบ หรือได้มาบางส่วนแต่ยังไม่ครบตามที่เราต้องการ ทั้งนี้ ทราบว่า คดีนี้มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหาไปแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับความร่วมมือจากผู้ต้องหา มาพบไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องหาที่มาพบตามหมายเรียกนั้น มีแกนนำตัวหลักๆ รวมอยู่ด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ตนจำไม่ได้ว่าครั้งที่แล้วที่มีการออกหมายเรียกมีใครมาพบพนักงานสอบสวนบ้าง เมื่อถามว่า แสดงว่า ยังไม่มีการออกหมายจับพันธมิตรฯในเร็วนี้หรือไม่ รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า เป็นเรื่องดุลพินิจของคณะพนักงานสอบสวน ที่มี พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้ช่วยผบ.ตร.เป็นหัวหน้า ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.ท.สมยศ ยังไม่ได้เข้าพบเพื่อหารือ เพื่อขอออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้แต่อย่างใด

พล.ต.อ.ปทีป กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวที่กลุ่มคนเสื้อแดง มีการขนปลาร้า รวมทั้งสิ่งปฏิกูล เข้ามาใน กทม.ว่า ในส่วนของปลางร้านั้น หากเอามารับประทานคงห้ามไม่ได้ ซึ่งก็ต้องดูตามข้อเท็จจริง แต่คงไม่ถึงขั้นสกัด อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะถึง กทม.ตำรวจมีการตั้งด่านตรวจตราความเรียบร้อย หากตรวจเจอคงต้องมีการเจรจาข้อร้องกัน ซึ่งก็ดูเป็นกรณีหากว่าเอามารับประทานคงไม่ว่ากัน

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนคดีกลุ่มพันธมิตรฯบุกยึดสนามบิน ได้นำสำนวนการสอบสวนเดินทางไปยังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อเตรียมขออนุมัติจากศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า คณะพนักงานสอบสวนได้เข้าหารือกับ พล.ต.อ.ปทีป ว่า ควรจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ เนื่องจากคดีบุกยึดสนามบินเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศว่าหากคดีนี้ไม่มีความคืบหน้า จะปิดล้อมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ พล.ต.อ.ปทีป มองว่า การออกหมายจับผู้ต้องหาคดีดังกล่าวในเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม จะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี

ขณะที่มีรายงานว่า ตำรวจตระเวนชายแดนค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี ได้เตรียมสถานที่ควบคุมผู้ต้องหาพิเศษ ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่เคยใช้ควบคุมตัว นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง

รายงานสดจากพื้นที่ข่าว

เดินทางไปที่นี่
Latitude: 13.745085 Longitude: 100.539191


หน่วยคอมมานโดกองปราบคุ้มกันความปลอดภัยขณะส่งสำนวนขอหมายจับพันะมิตรฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น