คนร้ายฉายเดี่ยว ควงปืนจี้ร้านทองย่านลาดปลาเค้าซอย 80 กวาดทองในตู้โชว์หลายสิบเส้น น้ำหนักรวม 100 บาท มูลค่า 1.7 ล้าน แถมฉกโน้ตบุ๊ก มือถือ ติดมือนั่งแท็กซี่หนีลอยนวล ตรวจกล้องวงจรปิดภายในร้านแต่ดันเสีย ตร.คาดคนร้ายมาดูลาดเลาก่อนลงมือ เร่งขอวงจรปิดร้านใกล้เคียงหาภาพคนร้าย
วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.แบ๊งค์ บัวนวล พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวเข้าไปชิงทองที่ร้านทองเจริญมณี ตั้งอยู่เลขที่ 9/78 ใกล้กับปากซอยลาดปลาเค้า 80 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.พัฒนา เพศนาวิน ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ฟูสินไพบูลย์ รอง ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.คมสัน ร่วมสนิท รอง ผกก.ปป.สน.บางเขน พ.ต.ท.เอนก เข่งคุ้ม สว.สส.เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายทอง มีประชาชนจำนวนมากกำลังมุงดูด้วยความสนใจ ภายในร้านเจ้าหน้าที่พบ นายมนตรี มหาเจริญศิริ อายุ 72 ปี เจ้าของร้าน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตื่นตระหนกตกใจ คิ้วข้างซ้ายมีแผลแตก 1 แผล เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงได้ทำการตรวจสอบรอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายไว้เป็นหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนนายมนตรีให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ที่ผ่านมา ระหว่างที่กำลังยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ในร้าน ก็มีคนร้ายเป็นผู้ชาย สูงประมาณ 180 ซม.ผิวดำแดง ตัดผมรองทรง อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อยืดแขนยาวลายทางสีชมพู นุ่งกางเกงสี่ส่วนลายพรางทหาร สวมแว่นตาสีชา ไม่สวมหมวก เดินตรงเข้ามาในร้านพร้อมชักอาวุธปืนแบบออโตเมติกขึ้นมาสไลด์ไปมาหลายครั้ง พร้อมกับขู่ตนว่าอย่าขัดขืน ก่อนจะเข้ามาผลักตนจนเซล้มคิ้วไปกระแทกกับอะไรก็ไม่ทราบจนแตก
นายมนตรี ให้การต่อว่า จากนั้นคนร้ายก็เดินเข้าไปกวาดทองเส้นละ 2 บาท กับ 5 บาท ที่อยู่ในตู้โชว์จำนวนหลายสิบเส้น น้ำหนักรวมประมาณ 100 บาท มูลค่ากว่า 1.7 ล้านบาท นอกจากนี้ ก่อนออกจากร้านคนร้ายยังหยิบเอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก มูลค่ากว่า 30,000 บาท และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อเอซุส มูลค่าประมาณ 10,000 กว่าบาทไปอีก ก่อนที่คนร้ายจะเดินออกจากร้านแล้วรีบไปเรียกรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ปากซอยลาดปลาเค้า 80 หลบหนีเข้าไปในถนนลาดปลาเค้าอย่างรวดเร็ว
ด้านวิน จยย.รับจ้างคนหนึ่ง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นชายคนดังกล่าวมานั่งอยู่บริเวณหน้าปากซอยลาดปลาเค้า 80 อยู่นานแล้ว พอมองไปก็จะก้มหน้าหลบสายตาอยู่ตลอด จนกระทั่งตนขี่รถ จยย.ออกไปส่งผู้โดยสารมาแล้ว 2-3 เที่ยว กลับทุกครั้งก็ยังเห็นนั่งอยู่เหมือนเดิม จนกระทั่งมาทราบว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุจี้ชิงทอง
ขณะที่ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 กล่าวว่า จากการสอบถามเจ้าของร้าน ยืนยันว่า ไม่เคยพบเห็นตัวคนร้ายมาก่อน แต่ก็เป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจจะมาดูลาดเลามาก่อนจนรู้ว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะมีเจ้าของร้านนั่งอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์เพียงคนเดียว
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุได้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านแล้วก็พบว่ามีอยู่ 2 ตัว แต่ก็พบว่าตัวบันทึกภาพเสียนั้นทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้ฝ่ายสืบสวนออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาดูว่า สามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะกำลังเดินเข้าไปก่อเหตุได้หรือไม่