xs
xsm
sm
md
lg

ป้าวัย 62 แจ้งจับบริษัทโกงเงินทำวีซ่าไปอเมริกาเกือบ 4 หมื่น

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นางนวลรัตน์ คลังสุวรรณโชค โชว์หลักฐานการโอนเงิน
คุณป้าวัย 62 แจ้งความจับเจ้าของบริษัทเปิดรับทำวีซ่า เดินทางไปต่างประเทศ โกงเงินค่าดำเนินการทำวีซ่าจำนวน 37,454 บาท ไปทวงถามกับบิดเบือนนัดคืนเงินกลับเบี้ยว ตัดสินใจแจ้งความแฉให้คนอื่นรับรู้ บอกหากนำเงินมาคืนก็ยินดีถอนแจ้งความ ด้าน ตร.ระบุ หากตกลงไม่ได้จะเชิญผู้ต้องหามาสอบและแจ้งข้อหาต่อไป

วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.นางนวลรัตน์ คลังสุวรรณโชค อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161/209 ซอยอินทามระ 41 ถนนสุทธิสาร แขวงและเขตดินแดง เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมัคร ปัญญาวงศ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ลุมพินี ว่า ถูก หจก.วีซ่า ไมเกรชั่น คอนซัลติ้ง เซอร์วิส ตั้งอยู่ที่เลขที่ 112 อาคารแม็กซิทเฮ้าท์ ชั้น 6 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ซึ่งมี นายพงษ์รัตน์ รุสวานิช เป็นเจ้าของ ฉ้อโกงเงินค่าดำเนินการทำวีซ่าเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 37,454 บาท หลังจับได้ว่าถูกบริษัทหลอกลวง และไม่ยอมคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้

นางนวลรัตน์ ให้การว่า ตนจะเดินทางไปเที่ยวประเทศสหรัฐอเมริกา จึงไปปรึกษากับเพื่อนข้างบ้านก็ได้รับคำแนะนำว่า มี หจก.วีซ่า ไมเกรชั่น คอนซัลติ้ง เซอร์วิส ซึ่งมี นายพงษ์รัตน์ เป็นเจ้าของบริษัทเปิดรับทำวีซ่าอยู่ ตนจึงตัดสินใจนำเอกสารกับพาสปอร์ตตัวจริง เดินทางไปทำวีซ่ากับบริษัทดังกล่าวตามคำแนะนำของเพื่อนบ้าน ในวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเสียค่าใช้จ่ายไปทั้งสิ้น 7,454 บาท

นางนวลรัตน์ กล่าวต่อว่า จากนั้นในวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา นายพงษ์รัตน์ ได้ติดต่อกลับมาหาตนเพื่อขอให้โอนเงินจำนวน 30,000 บาท เพื่อเป็นค่ามัดจำในการจองโรงแรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเอาไว้ให้ ตนจึงโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปให้ ซึ่งตัว นายพงษ์รัตน์ เอง ก็บอกว่า จะติดต่อกลับมาหาตน เรื่องวันนัดสัมภาษณ์กับสถานทูตภายหลัง จนกระทั่งวันที่ 4 มี.ค.นายพงษ์รัตน์ ก็ติดต่อกลับมาหาตนอีกครั้ง เพื่อให้โอนเงินจำนวน 42,000 บาท กลับไปให้เป็นค่าตั๋วเครื่องบิน

นางนวลรัตน์ กล่าวต่อว่า ตอนนั้นก็รู้สึกเอะใจคิดว่าโดนหลอกแน่นอน เพราะตนต้องการเพียงแค่ทำวีซ่าเท่านั้น แต่ทางบริษัทกลับให้โอนเงินให้อีกหลายครั้ง จึงตัดสินใจเดินไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับ พ.ต.ท.สมัคร เอาไว้แล้วครั้งหนึ่ง ก่อนจะย้อนกลับไปที่บริษัทเพื่อแจ้งยกเลิกไม่ทำวีซ่าแล้ว และตัว นายพงษ์รัตน์ ก็ทำหนังสือกลับมาให้ตนว่า จะนัดคืนเงินกันจำนวน 37,454 บาท คืนให้ตนในวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงวันนัด เจ้าตัวก็โทร.เลื่อนเวลาทั้งวันตั้งแต่ 16.00-19.00 น.ตนก็รออยู่ตลอดยังไม่ยอมโอนเงินคืนมาให้ หลังจากนั้น ก็ปิดเครื่องไปเลยไม่สามารถติดต่อได้

นางนวลรัตน์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้น ในวันที่ 17 มี.ค.นายพงษ์รัตน์ ก็ติดต่อกลับมาว่า จะเดินทางมาคืนเงินให้ที่ สน.ลุมพินี ในวันนี้ เวลา 13.00 น.แต่เมื่อถึงเวลานัดก็ยังไม่ยอมมาอีกเหมือนเดิม ตนกับพนักงานสอบสวนก็เดินทางไปที่ หจก.ดังกล่าว เพื่อขอพบ นายพงษ์รัตน์ แต่กลับมีทนายความมาเจรจาขอเลื่อนคืนเงินไปอีกเป็นวันที่ 12 เม.ย.ที่จะถึงนี้ พร้อมอ้างว่า ถ้าจะเอาเงินตอนนี้ก็ไม่มีให้ เพราะนายพงษ์รัตน์ กำลังรอขายที่ดินเพื่อหาเงินมาใช้คืนตน

“วันนี้ดิฉันจึงตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีกับเขาในข้อหาฉ้อโกง แต่หากเขาเอาเงินมาคืนก็ยินดีถอนแจ้งความ นอกจากนี้ ยังต้องการให้คนอื่นรับรู้ว่าอย่าไปหลงเชื่อทำวีซ่ากับบริษัทนี้ เพราะตอนที่มาถึงโรงพักในวันนี้ ตำรวจหลายคนก็บอกว่า นายพงษ์รัตน์ ถูกผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีเรื่องนี้มาแล้วหลายราย บางรายถูกหลอกลวงหมดเงินไปเป็นแสนเลยทีเดียว” นางนวลรัตน์ กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.สมัคร กล่าวว่า ผู้เสียหายแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ว่า น่าจะถูกหลอกลวงไว้ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.แล้ว วันนี้ทางผู้เสียหายก็นัดกับนายพงษ์รัตน์ ก็นัดให้ผู้เสียหายมาพบที่โรงพัก เพื่อคืนเงินกัน แต่ก็ไม่ยอมเดินทางมาตามนัด เมื่อไปเจรจากันที่บริษัทก็ไม่ยอมคืนเงินอีก ผู้เสียหายจึงตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงไว้ ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ก็ไม่เป็นไร แต่หากยังไม่สามารถตกลงกันได้ก็ดำเนินการออกหมายเรียกนายพงษ์รัตน์มาสอบปากคำและรับทราบข้อหา หากไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น