กรมศุลกากรรวบหนุ่มชาวอิหร่านคาด่านตรวจผู้โดยสาร สนามบินสุวรรณภูมิ ลักลอบขนยาไอซ์น้ำหนัก 4,000 กรัม มูลค่า 16 ล้าน เข้าประเทศ พบซุกซ่อนในกระเป๋าที่ทำซ้อนกันเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ก่อนนำตัวส่ง ปส.ดำเนินคดี
วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. นางกรศิริ พิณรัตน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวผลการจับกุมชายชาวอิหร่าน ลักลอบนำเข้ายาไอซ์ (ICE) หรือเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ ยาเสพติดประเภท 1 น้ำหนัก รวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 4,000 กรัม มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท ที่สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นางกรศิริ พิณรัตน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า จากการสืบทราบว่าจะมีชาวต่างชาติลักลอบนำยาเสพติดให้โทษเข้ามาในราชอาณาจักร นายเอกลาภ รัตนรุจ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปราม ตามนโยบายปกป้องสังคมของกรมศุลกากรในการสกัดกั้นการลักลอบหนีศุลกากรและยาเสพติดให้โทษจนกระทั่งวันที่ 25 มีนาคม 2553 เวลาประมาณ 11.15 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้พบชายต้องสงสัยที่บริเวณช่องตรวจไม่มีของต้องสำแดง (ช่องเขียว) หมายเลข 9 โซน B อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาเข้า จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางหมายเลข N17408378 พบว่าเป็นชาวอิหร่าน ชื่อMR.JAVAD WASIRPOURMANIGH (นายจาวาด วาซิร์ปูร์มานิกฮ์) อายุ 38 ปี เดินทางมาจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน มายังประเทศไทยโดยสายการบิน MAHAN AIR เที่ยวบินที่ W5 5045/25.03.53 สะพายกระเป๋าผ้าทรงสีน้ำตาลอ่อนยี่ห้อ Lowe Alpine จำนวน 1 ใบ เย็บติดอยู่ด้านใน ขณะเดินผ่านช่องตรวจไม่มีของต้องสำแดง หมายเลข 9 โซน B เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นพบวัตถุมีลักษณะเป็นเกล็ดผลึกใสเหมือนน้ำแข็ง
ภายหลังตรวจสอบแล้วพบเป็นยาไอซ์ (ICE) หรือเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยซุกซ่อนอยู่ก้นกระเป๋า ซึ่งทำขึ้นซ้อนกันเป็น 2 ใบ น้ำหนักรวมประมาณ 4,000 กรัม มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา นำของต้องห้ามประเภทยาเสพติดให้โทษเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 27 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 และ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงได้ยึดของกลางดังกล่าวและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
