ผบช.น.กวักมือเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาทุกหน่วยร่วมถกแผนรับมือม็อบแดงชุมนุม 27 มี.ค. เชื่อคนร้ายก่อเหตุพื้นที่ชั้นในยาก จึงเลี่ยงก่อความวุ่นวายแถบชานเมือง เพื่อสร้างสถานการณ์ สั่งตั้งจุดตรวจเข้มงวด หลังมีบึ้มรายวัน “คาดโทษ” ท้องที่หย่อนยานบกพร่องต่อหน้าที่
วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.ประจำ บช.น. ในฐานะโฆษก บช.น.เปิดเผยถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาว่า สำหรับการชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เหตุการณ์ทั่วไปยังปกติ ส่วนที่รัฐสภามีผู้เข้าประชุม 212 คน จากจำนวนเต็ม 470 คน หากมีคนถึง 1 ใน 5 ก็ประชุมได้ และเมื่อประชุมเสร็จสิ้นจะมีการปรับลดกำลังในจุดนี้ เพื่อเข้าเสริมพื้นที่ชั้นกลาง ทั้งแยกซังฮี้ แยกศรีอยุธยา รวมทั้งจุดอื่น โดยวันนี้ช่วงบ่ายจะมีพิธีฝังศพของนายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ จุฬาราชมนตรี ที่มัสยิดอัลฮุสนา บ้านเจียรดับ ถนนมิตรไมตรี แขวง-เขตหนอกจาก กทม. ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และฝ่ายรัฐบาลจะเดินทางไปร่วมพิธีด้วย โดย ผบช.น. มอบหมายให้ พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ ผบก.น.3 จัดกำลังดูแลแล้ว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. จะเรียกประชุม รองผบช.น. และผบก.ทุกหน่วย รวมถึงผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงวันที่ 27 มีนาคมนี้ และเป็นวันเดียวกันกับที่จะมีงานประชุมสมาชิกรัฐสภาโลก ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เพื่อจัดระบบการวางแผนงานและการปฏิบัติควบคู่กันไปให้ชัดเจน โดยจะให้ตำรวจนครบาลเป็นพี่เลี้ยงตำรวจจากภูธรต่างๆ ที่มาเสริมในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนการปรับกำลังในพื้นที่ต่างๆ รอทาง ศอ.รส. สั่งการอีกครั้ง ขณะนี้ที่ผ่านฟ้าฯ ยังใช้กำลังตำรวจ 14 กองร้อย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าคนร้ายไม่สามารถก่อเหตุในพื้นที่ชั้นในได้ จึงไปก่อเหตุชานเมืองที่พื้นที่ บช.ภ.1 หรือย่านฝั่งธนบุรี เพื่อสร้างสถานการณ์ โดยเมื่อวานนี้ (24 มีนาคม) เวลา 20.40 น. เกิดเหตุคนร้ายขว้างระเบิดลูกเกลียงชนิดเอ็ม 67 บนทางเดินติดกับเสาไฟฟ้าข้างรั้วเหล็กด้านหน้ากรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ทำให้เกิดหลุมกว้างประมาณ 8 นิ้ว ลึกประมาณ 5 นิ้ว ตรวจสอบแล้วไม่มีทรัพย์สินผู้ใดได้รับความเสียหายและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้ระเบิดทำการตรวจสอบ เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งระดมเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว โดยแม้ถนนบรมราชชนนีไม่มีกล้องวงจรปิด แต่จะตรวจสอบจากกล้องของกรมบังคับคดี และตู้เอทีเอ็มในจุดใกล้เคียง
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผบช.น.ได้วิทยุสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยในสังกัดดำเนินการ ดังนี้ 1.เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ให้ครอบคลุมพื้นที่และห้วงเวลา มุ่งเน้นการตรวจค้นอาวุธ วัตถุต้องสงสัย ป้องกันการวินาศกรรม 2.สายตรวจรถยนต์ให้เปิดสัญญาณไฟวับวาบ ส่วนสายตรวจและชุดเคลื่อนที่เร็วทั้งระดับ บก.และสน.ให้ออกตรวจพื้นที่ ปรากฏกายให้เห็นเด่นชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางหลัก เส้นทางรอง และบริเวณสถานที่สำคัญต่างๆ พื้นที่รับผิดชอบ 3.กำลัง ปจ.ที่ปฏิบัติตามภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณพื้นที่ชุมนุม ให้เพิ่มความเข้มในการตั้งจุด ว.43 ตามแผนที่กำหนด 4.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดอย่างใกล้ชิดจริงจังและต่อเนื่อง และหากตรวจพบหน่วยใดไม่ปฏิบัติอย่างจริงจัง หรือไม่ปฏิบัติการตามข้อสั่งการจะพิจารณาข้อบกพร่องผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องทุกระดับชั้น” โฆษก บช.น.กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา สันติบาลรายงานยอดของผู้ชุมนุมสูงสุดว่ามี 20,000 คน ซึ่งขณะนี้เวลา 10.30 น.มียอดประมาณ 2,300 คน โดยในพื้นที่ชุมนุมไม่มีเหตุ ส่วนพื้นที่อื่นใน กทม.มีเหตุปล้นทรัพย์ 2 ราย และชิงทรัพย์ 6 ราย ผลการตั้งด่านจุดตรวจค้นความมั่นคงยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย 43 ราย ครอบครองยาเสพติด 5 ราย (ยาบ้า 4 ราย และยาไอซ์ 1 ราย) และพกพาอาวุธมีด 1 ราย