xs
xsm
sm
md
lg

คุก 1 ปี ปรับ 6 ล้าน “หมอวิชัย” เจ้าของปาเจโร่เถื่อน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี ปรับกว่า 6 ล้าน “นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล” อดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย รับรถมิตซูบิชิปาเจโร่ที่ลักลอบนำเข้าเลี่ยงภาษี-ปลอมทะเบียนป้ายแดง แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษสมควรให้โอกาสกลับตัว โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี เจ้าตัวบอกรอปรึกษาทนายจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ หากติดใจคงเป็นเรื่องค่าปรับ

วันนี้ (25 มี.ค.) เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 614 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.3595/2549 ที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย และหนึ่ง 1 ใน 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2496 มาตรา 27 ทวิ และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268

ตามฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อระหว่างเดือน ธ.ค.40 ถึงวันที่ 20 มี.ค.41 เวลากลางวันและกลางคืน จำเลยซื้อหรือรับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ จำนวน 1 คัน โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นรถนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดหลีกเลี่ยงอากรและจำเลยใช้แผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดง หมายเลข ก-7999 อันเป็นเอกสารราชการที่มีผู้ทำปลอมขึ้น โดยติดป้ายทะเบียนไว้กับรถยนต์ดังกล่าวและขับไปตามสถานที่ต่างๆ โดยประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายและกรมการขนส่งทางบก และประชาชน ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจได้ยึดรถของกลาง หมายเลขตัวรถ วี 45-4300497 และป้ายทะเบียนปลอมจำนวน 2 แผ่น เหตุเกิดที่ ต.หนองบัว อ.เมือง และ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ที่จำเลยอ้างว่าเมื่อปลายปี 2540 หัวคะแนนของจำเลย บอกกล่าวว่าจะนำรถยนต์ของกลางมาขายให้ และเมื่อตรวจสอบเอกสารแล้วไม่มีการชำระอากร จำเลยจึงไม่ได้รับซื้อ แต่ทางนำสืบปรากฏว่าได้มีการนำรถยนต์ดังกล่าวมาจอดไว้เป็นครั้งคราวที่บ้านพัก จ.อุดรธานี ของจำเลย ขณะที่เดือน มี.ค.41 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ตรวจยึดรถมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ ที่บ้านเลขที่ 329/42 ซ.วิลล่า ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม

ส่วนสติกเกอร์ของกรมธรรม์บริษัท นารายณ์ประกันภัย เมื่อตรวจสอบกับบริษัท นารายณ์ประกันภัย พบว่าเป็นเอกสารประกันภัยที่ออกให้กับนายมนัส ค้ำชู ไม่ใช่ชื่อจำเลย นอกจากนี้ ทางนำสืบโจทก์ยังมีพยานเห็นว่าคนขับรถของจำเลย ยังได้ขับรถของกลางไปใช้ เป็นครั้งคราวเช่นเดียวกับจำเลย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยขับรถไปจอดเยื้องหน้าคลินิก อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ของจำเลยด้วย โดยโจทก์มีภาพถ่ายเป็นหลักฐานด้วย อีกทั้งยังปรากฏว่าด้านหน้ากระจกและหลังรถติดสติกเกอร์ระบุชื่อ-ตำแหน่งของจำเลยไว้ด้วย แม้จำเลยจะอ้างว่า พิมพ์สติ๊กเกอร์จำนวนมากแจกให้ประชาชนและผู้สนับสนุนนั้น แต่ทางนำสืบจำเลยไม่ได้แสดงให้เห็นว่ามีรถคันอื่นติดสติ๊กเกอร์ด้วย

ขณะที่ป้ายแดง ทะเบียน ก-7999 กทม. เมื่อกรมการขนส่งทางบกได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่ใช่ป้ายทะเบียนนของทางราชการที่จะให้นำไปใช้ได้ จึงเป็นการปลอมแปลงป้ายทะเบียนที่เป็นเอกสารปลอม เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและชำระอากร จึงเชื่อว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง ซึ่งเป็นการกระทำผิดหลายกรรม ให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรม

พิพากษาว่า จำเลย กระทำผิด พ.ร.บ.ศุลกากรฯ มาตรา 27 วิ ฐานรับของซึ่งหลีกเลี่ยงอากร ให้ปรับเป็นเงิน 6,509,602.50 บาท และให้จำคุก 1 ปี ปรับ 2,000 บาท ฐานใช้เอกสารปลอม ตามมาตรา 268 วรรคแรก แต่จำเลยไม่ต้องโทษมาก่อน สมควรให้โอกาสจำเลยกลับตัว โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้กำหนด 1 ปี หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนค่าปรับ แต่ไม่เกิน 1 ปี และให้จ่ายเงินร้อยละ 20 ของค่าปรับให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งจับกุมพร้อมทั้งคืนรถยนต์ของกลางแก่เจ้าของ

ด้าน นพ.วิชัย กล่าวว่า สำหรับโทษที่ตัดสินมานั้นจะอุทธรณ์หรือไม่ต้องปรึกษาทนายความอีกครั้ง หากจะติดใจคงเป็นประเด็นค่าปรับ
นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย และหนึ่ง 1 ใน 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เดินทางมาฟังคำพิพากษา
 ศาลพิพากษาปรับกว่า 6 ล้านและให้จำคุก 1 ปี ปรับ 2,000 บาท ฐานใช้เอกสารปลอม แต่จำเลยไม่ต้องโทษมาก่อน สมควรให้โอกาสจำเลยกลับตัว โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้กำหนด 1 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น