การ์ดเสื้อแดงจับหนุ่มพกปืนอัดลมที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาส่งตัวให้ตำรวจ เจ้าตัวรับหนีทหารกลับบ้านเกิดตั้งแต่ ก.ย.ที่แล้ว เพิ่งเข้ากรุงมาหาแฟนสาวและหางานทำช่วงปีใหม่แต่หาไม่ได้เสียที เลยมานั่งรอแฟนสาวขอเงินค่ารถเดินทางกลับบ้านเกิดในจ.เลย แต่มาถูกค้นตัวจนเจอปืนอัดลมที่แฟนสาวซื้อให้เป็นของขวัญตั้งแต่ก่อนปีใหม่ "ผู้การแต้ม" ระบุไม่เข้าข่ายความผิด แต่ต้องส่งตัวให้ต้นสังกัดดำเนินคดีหนีทหาร
เมื่อเวลา 20.00 น.วันนี้ (17 มี.ค.) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 รับแจ้งจากการ์ดกลุ่มเสื้อแดงที่รักษาความเรียบร้อยอยู่บริเวณที่ชุมนุมเชิงสะพานผ่านฟ้าว่าสามารถจับกุมชายต้องสงสัยที่พกพาอาวุธปืนขนาด .32 เอาไว้ได้ จากบริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.นางเลิ้ง รุดไปตรวจสอบทันที
เมื่อไปถึงก็พบการ์ดของกลุ่มนปช.กำลังควบคุมตัวพลททารสมชาติ แถวอุทุม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 บ้านแก่งแว่น ต.ร่องจิต อ.ภูเรือ จ.เลย ตรวจค้นภายกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล พบบัตรประจำตัวยศพลทหาร สังกัดกองร้อยกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ระบุวันรับราชการวันที่ 3 พ.ค.51 ปลดกระจำการวันที่ 30 เม.ย.53 ปืนอัดลม 1 กระบอก และกระสุนเม็ดพลาสติกประมาณ 30 นัด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปาคำที่สน.นางเลิ้ง
จากการสอบสวนพลทหารสมชาติ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ได้เข้ามา แต่หลังจากนั้นก็ได้รับอนุญาตให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านเกิดเมื่อวันที่ 21 ก.ย.52 ที่ผ่านมา แต่ตนก็ไม่ได้กลับไปรับราชการอีกเลย จนกระทั่งเมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา ตนก็ได้เดินทางเข้ากทม.เพื่อมาหาแฟนสาวที่ชื่อ น.ส.วิภารัตน์ ติธรรมา อายุ 20 ปี ที่ทำงานเป็นพนักงานในผับย่านทองหล่อ โดยเมื่อมาถึง แฟนสาวก็เปิดห้องในโรงแรม 90 ให้ตนพักผ่อน พร้อมกับมอบปืนอัดลมกระบอกดังกล่าว ให้เป็นของขวัญ เพราะซื้อไว้ให้ตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้ว
พลทหารสมชาติ ให้การต่อว่า หลังจากนั้นตนพยายามออกหางานทำมาตลอด แต่จนถึงวันนี้ก็ยังหางานไม่ได้ จึงเดินมาดักรอแฟนที่บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เพื่อจะขอเงินเดินทางกลับบ้านที่ จ.เลย เนื่องจากแฟนสาวไม่ได้จ่ายค่าห้องพักมา 2 วันแล้ว จนกระทั่งมาถูกกลุ่มการร์ด นปชตรวจค้นตัวจนเจอปืนอัดลมของตน
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุก็รีบเดินทางไปรับตัวพลทหารสมชาติมาสอบสวนทันทีเนื่องจากเกรงว่าจะถูกรุมทำร้ายร่างกาย แต่หลังจากสอบปากคำแล้วพฤติกรรมก็ไม่ได้เข้าข่ายความผิดแต่อย่างใด ปืนอัดลมก็ไม่ได้เอาออกมาขายหรือข่มขู่ใคร แต่ต้องประสานตัวให้ทางต้นสังกัดมารับตัวไปดำเนินคดีข้อาหนีทหาร เนื่องจากยังรับราชการไม่ครบตามเกณฑ์ต่อไป