บก.น.1 แถลงผล 3 คดีรวด ดคีแรกรวบ 2 วัยรุ่นที่ประกบยิงแท็กซี่ดับ 2 ศพกลางสี่แยกหลังขอเบอร์โทร.สาวในกลุ่มเร่งติดตามอีก 1 ที่หนีไป คดีที่ 2 รวบโจรขโมยรถฮอนด้าซิตี้พร้อมนำของกลางคืนเจ้าของได้ รายสุดท้ายรวบ 2 หนุ่มพกปืนคาด่านตรวจหน้าศาลฎีกา
วันนี้ (7 มี.ค.) เมื่อเวลา 21.30 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบก.น.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายธนกร หรือบอย ทวีเพชรโสดาภา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/4 ถ.ตากสินมหาราช ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง และนายอนนท์ หรืออ้วน เกตุเจริญ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/85 ซอยปลูกจิตต์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 544/2553 ลงวันที่ 7 มี.ค.53 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครองครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ษฬ-7722 กทม.รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว หมายเลขทะเบียน ชฎ-8657 กทม. รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซสีขาว หมายเลขทะเบียน ชม-1950 กทม.ปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก หัวกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 หัว และไม้เบสบอล จำนวน 1 อัน
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายรังสรรค์ ย่องด่างดำ และนายพิสิทธิ์ รุ่งเรือง เสียชีวิตภายในรถแท็กซี่เหตุเกิดบริเวณสี่แยกเหม่งจ๋าย ถ.ประชาอุทิศ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. ก่อนหลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่าทั้ง 2 คนคือคนร้าย และมีผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คน ทราบชื่อคือ นายวิศรุต เปี่ยมเจริญ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 181 ถนนเทศบาลสาย 1 แขวงกัลยาณ์ เขตธนบุรี กทม. จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายเลขที่ 543/2553 ลงวันที่ 7 มี.ค.53 ในข้อหาเดียวกัน ก่อนเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่วนนายวิศรุตหลบหนีไปได้ หลังจากนั้นจึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่ สน.ห้วยขวาง
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายได้มาเที่ยวบริเวณร้านอาหารภายในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซอย 5 จากนั้นก็ได้เกิดมีปากเสียงกับกลุ่มผู้ต้องหา ขณะนั้นนายรังสรรค์ได้ขับรถแท็กซี่โดยมีนายพิสิทธิ์นั่งมาด้านข้าง เมื่อมาถึงบริเวณแยกเหม่งจ๋าย นายธนกรก็ได้ขับรถเบนซ์ปาดหน้ารถแท็กซี่ ก่อนที่นายอานนท์จะขับรถฮอนด้าแจ๊ซเข้าประกบ โดยมีนายวิศรุต เปี่ยมเจริญ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นมือปืน นั่งมาข้างคนขับ ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงใส่ผู้ตายจนเสียชีวิตก่อนหลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาให้ทราบแล้วส่งตัวดำเนินคดี ก่อนให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ติดตามจับกุมนายวิศรุต ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายที่สอง พล.ต.ต.วิชัย แถลงข่าวผลงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง จับกุม นายรชต ม่วงพิม อายุ 38 ปี และ น.ส.นฤภา ฉลาด อายุ 30 ปี แฟนสาว พร้อมของกลางรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีดำ ทะเบียน ชค-4727 กทม.
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก น.ส.ทิพวรรณ รุ่งแดง ผู้เสียหายได้นำรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ ทะเบียน ชค-4727 กทม.ไปจอดฝาก รปภ.ไว้บริเวณใต้ถุนอาคารเอ็มมานูเอลฯ ย่านรัชดา เพื่อไปทำธุระต่างจังหวัด ต่อมาคืนวันที่ 5 มี.ค.53 น.ส.นฤภาซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียหายได้เดินมาบริเวณลานจอดรถดังกล่าว เกิดจำผู้เสียหายที่ฝากรถไว้เป็น น.ส.นฤภา ทำให้ น.ส.นฤภา เกิดอยากได้รถคันดังกล่าว จึงทำทีว่าเป็นรถของตน จนต่อมาเมื่อวันที่ 6 มี.ค. เวลาประมาณ 07.30 น. น.ส.นฤภา ได้ว่าจ้างช่างกุญแจให้มางัดรถคันดังกล่าว แล้วขับหลบหนีไป
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. รถคันดังกล่าวที่ น.ส.นฤภา ขโมยไป ได้ขับมาจอดที่บริเวณลานจอดรถชั้น 3 อาคารพลาซ่าอาบอบนวด ย่านมะกะสัน จึงได้ไปซุ่มสังเกตการณ์ ก่อนจะพบ น.ส.นฤภา และนายรชต เพื่อนชายเดินมาขึ้นที่รถคันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลาง ก่อนควบคุมตัวมาทำการสอบสวนพร้อมแจ้งข้อหาให้ทราบ ก่อนดำนเนิคดีต่อไป
รายสุดท้าย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.ต.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สว.สส.สน.ชนะสงคราม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายศิริชัย หนูมาก อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 14 ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร นายรังวุฒิ สุขฉายา อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 1 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม จ.ชุมพร พร้อมของกลางอาวุธปืน (ลูกซอง) แบบไทยประดิษฐ์ ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนและเข็มแทงชนวนบรรจุอยู่ในรังเพลิงพร้อมยิง จำนวน 1 นัด เครื่องกระสุนปืน ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด และกระเป๋าสะพายหนังสีขาว 1 ใบ โดยสามารถจับกุมได้บริเวณสนามหลวงฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม.
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ชนะสงคราม ออกตรวจท้องที่ตามปกติ จนมาถึงบริเวณฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา พบ นายศิริชัย หนูมาก และนายรังวุฒิ สุขฉายา ผู้ต้องหากำลังเดินอยู่โดยท่าทางมีพิรุธ จึงแสดงตัวทำการตรวจค้น พบอาวุธปืน (ลูกซอง) แบบไทยประดิษฐ์ ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนและเข็มแทงชนวนบรรจุอยู่ในรังเพลิงพร้อมยิง จำนวน 1 นัด ซุกซ่อนอยู่ที่เอวด้านขวาของนายศิริชัย และยังพบเครื่องกระสุนปืน ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด ซุกซ่อนภายในกระเป๋าสะพายหนังสีขาว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
วันนี้ (7 มี.ค.) เมื่อเวลา 21.30 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบก.น.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายธนกร หรือบอย ทวีเพชรโสดาภา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/4 ถ.ตากสินมหาราช ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง และนายอนนท์ หรืออ้วน เกตุเจริญ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/85 ซอยปลูกจิตต์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 544/2553 ลงวันที่ 7 มี.ค.53 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครองครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ษฬ-7722 กทม.รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว หมายเลขทะเบียน ชฎ-8657 กทม. รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซสีขาว หมายเลขทะเบียน ชม-1950 กทม.ปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก หัวกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 หัว และไม้เบสบอล จำนวน 1 อัน
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายรังสรรค์ ย่องด่างดำ และนายพิสิทธิ์ รุ่งเรือง เสียชีวิตภายในรถแท็กซี่เหตุเกิดบริเวณสี่แยกเหม่งจ๋าย ถ.ประชาอุทิศ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. ก่อนหลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่าทั้ง 2 คนคือคนร้าย และมีผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คน ทราบชื่อคือ นายวิศรุต เปี่ยมเจริญ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 181 ถนนเทศบาลสาย 1 แขวงกัลยาณ์ เขตธนบุรี กทม. จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายเลขที่ 543/2553 ลงวันที่ 7 มี.ค.53 ในข้อหาเดียวกัน ก่อนเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่วนนายวิศรุตหลบหนีไปได้ หลังจากนั้นจึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่ สน.ห้วยขวาง
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายได้มาเที่ยวบริเวณร้านอาหารภายในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซอย 5 จากนั้นก็ได้เกิดมีปากเสียงกับกลุ่มผู้ต้องหา ขณะนั้นนายรังสรรค์ได้ขับรถแท็กซี่โดยมีนายพิสิทธิ์นั่งมาด้านข้าง เมื่อมาถึงบริเวณแยกเหม่งจ๋าย นายธนกรก็ได้ขับรถเบนซ์ปาดหน้ารถแท็กซี่ ก่อนที่นายอานนท์จะขับรถฮอนด้าแจ๊ซเข้าประกบ โดยมีนายวิศรุต เปี่ยมเจริญ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นมือปืน นั่งมาข้างคนขับ ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงใส่ผู้ตายจนเสียชีวิตก่อนหลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาให้ทราบแล้วส่งตัวดำเนินคดี ก่อนให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ติดตามจับกุมนายวิศรุต ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายที่สอง พล.ต.ต.วิชัย แถลงข่าวผลงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง จับกุม นายรชต ม่วงพิม อายุ 38 ปี และ น.ส.นฤภา ฉลาด อายุ 30 ปี แฟนสาว พร้อมของกลางรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีดำ ทะเบียน ชค-4727 กทม.
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก น.ส.ทิพวรรณ รุ่งแดง ผู้เสียหายได้นำรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ ทะเบียน ชค-4727 กทม.ไปจอดฝาก รปภ.ไว้บริเวณใต้ถุนอาคารเอ็มมานูเอลฯ ย่านรัชดา เพื่อไปทำธุระต่างจังหวัด ต่อมาคืนวันที่ 5 มี.ค.53 น.ส.นฤภาซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียหายได้เดินมาบริเวณลานจอดรถดังกล่าว เกิดจำผู้เสียหายที่ฝากรถไว้เป็น น.ส.นฤภา ทำให้ น.ส.นฤภา เกิดอยากได้รถคันดังกล่าว จึงทำทีว่าเป็นรถของตน จนต่อมาเมื่อวันที่ 6 มี.ค. เวลาประมาณ 07.30 น. น.ส.นฤภา ได้ว่าจ้างช่างกุญแจให้มางัดรถคันดังกล่าว แล้วขับหลบหนีไป
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. รถคันดังกล่าวที่ น.ส.นฤภา ขโมยไป ได้ขับมาจอดที่บริเวณลานจอดรถชั้น 3 อาคารพลาซ่าอาบอบนวด ย่านมะกะสัน จึงได้ไปซุ่มสังเกตการณ์ ก่อนจะพบ น.ส.นฤภา และนายรชต เพื่อนชายเดินมาขึ้นที่รถคันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลาง ก่อนควบคุมตัวมาทำการสอบสวนพร้อมแจ้งข้อหาให้ทราบ ก่อนดำนเนิคดีต่อไป
รายสุดท้าย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.ต.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สว.สส.สน.ชนะสงคราม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายศิริชัย หนูมาก อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 14 ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร นายรังวุฒิ สุขฉายา อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 1 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม จ.ชุมพร พร้อมของกลางอาวุธปืน (ลูกซอง) แบบไทยประดิษฐ์ ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนและเข็มแทงชนวนบรรจุอยู่ในรังเพลิงพร้อมยิง จำนวน 1 นัด เครื่องกระสุนปืน ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด และกระเป๋าสะพายหนังสีขาว 1 ใบ โดยสามารถจับกุมได้บริเวณสนามหลวงฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม.
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ชนะสงคราม ออกตรวจท้องที่ตามปกติ จนมาถึงบริเวณฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา พบ นายศิริชัย หนูมาก และนายรังวุฒิ สุขฉายา ผู้ต้องหากำลังเดินอยู่โดยท่าทางมีพิรุธ จึงแสดงตัวทำการตรวจค้น พบอาวุธปืน (ลูกซอง) แบบไทยประดิษฐ์ ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนและเข็มแทงชนวนบรรจุอยู่ในรังเพลิงพร้อมยิง จำนวน 1 นัด ซุกซ่อนอยู่ที่เอวด้านขวาของนายศิริชัย และยังพบเครื่องกระสุนปืน ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด ซุกซ่อนภายในกระเป๋าสะพายหนังสีขาว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
