xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ย้ำแผนรับมือม็อบเทเลือดหน้าทำเนียบ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

บช.น.เผยแกนนำเสื้อแดงยืนยันรวบรวมเลือดแล้ว เวลา 18.00 น.จะเคลื่อนขบวนมาเทหน้าทำเนียบฯ ได้มอบให้ “วิชัย” เป็นคนเจรจากับผู้ชุมนุมว่าพื้นที่ใดเป็นเขตหวงห้าม กำชับตรวจเข้ม 24 ชม. ย้ำยึดหลักกฎหมาย ไม่มีอาวุธ ให้ ตร.คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดำเนินการจากเบาไปหาหนัก เน้นประชาสัมพันธ์ให้ผู้ชุมนุมรู้ว่าพื้นที่ใดเข้าไม่ได้ หากเจรจาไม่เป็นผลจะทำตามแผน 7 ขั้น



วันนี้ (16 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.ประจำ ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมขณะนี้ส่วนใหญ่ยังรวมตัวอยู่ที่ถนนราชดำเนิน บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ จำนวนประมาณ 20,000 คน และรอเจาะเลือดตามจุดต่างๆ โดยรอบพื้นที่การชุมนุม 60 จุด ประมาณ 3,000 คน บนเวทีมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.กำลังปราศรัยบนเวทีหลัก บริเวณสนามหลวงมีพระสงฆ์ 200 รูป รถยนต์ 2,000 คันกระจายทั่วไป

พล.ต.ต.ปิยะ ยังกล่าวถึงสภาพการจราจรว่า ตั้งแต่แยกอู่ทองในถึงสะพานผ่านพิภพ ทุกแยกรอบการชุมนุมปิดการจราจรยกเว้นแยก จปร.เปิด 1 ช่องทางที่ขึ้นสะพานพระราม 8 โดยรอบสนามหลวง และถนนราชวิถี ซึ่งการจราจรยังเคลื่อนตัวได้ หลังจากรัฐสภาได้แจ้งเลื่อนการประชุม ซึ่งผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณถนนราชวิถี ตรงแยกเทวฤทธิ์ เริ่มทยอยกลับ

ส่วนการวิเคราะห์สถานการณ์ผู้ชุมนุมหลังรัฐบาลออกมาประกาศยืนยันว่าจะไม่ยุบสภาตามที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องแนวโน้มก็อาจมีการเคลื่อนขบวนไปตามจุดต่างๆ แทน โดยได้รับการยืนยันจากแกนนำว่าหลังการเจาะเลือด และรวบรวมได้แล้วประมาณ 18.00 น. จะเคลื่อนขบวนมาเทเลือดที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมี พล.ต.ต.ภัครพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บังคับการควบคุมฝูงชน (ผบก.กคฝ.) เป็นผู้ควบคุมเหตุการณ์ พร้อมมอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ทำหน้าที่ในการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม ทำความเข้าใจว่าถนนรอบทำเนียบ ถนนลูกหลวง ถ.คู่ขนานราชดำเนิน นั้นเป็นพื้นที่หวงห้ามตามประกาศ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า วันนี้ 10.00 น. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.ได้เรียกรอง ผบก.ที่รับผิดชอบงานสายตรวจ รอง ผบช.งานสายตรวจ ผกก.ที่มีสถานที่สำคัญต่าง ๆ มาปรับแผนเผชิญเหตุ เน้นตรวจสอบโดยรอบมากขึ้น พื้นที่ใกล้ที่ชุมนุมให้เพิ่มจุดตรวจ 24 ชั่วโมงนอกเหนือจาก 6 จุดที่ตั้งอยู่ก่อนแล้วให้กว้างขึ้นอีก 10 ชุด เช่น แยกซังฮี้ แยกการเรือน แยกสนามชัย เพื่อความปลอดภัยเน้นการตรวจอาวุธระเบิดเป็นชั้นที่ 2 เนื่องจากผู้ชุมนุมรวมตัวบริเวณนั้น พร้อมอำนวยความสะดวกผู้ชุมนุม หากต้องการเดินทางกลับ เนื่องจากมีบางส่วนเริ่มทยอยกลับ ซึ่งกำลังตำรวจยังใช้เท่าเดิม คือ 42 กองร้อย และฝ่ายจราจร สืบสวนสอบสวน ตามปกติ

สำหรับขั้นตอนการใช้กำลังในการควบคุมผู้ชุมนุม พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้ ผบ.เหตุการณ์ทราบว่าผู้ชุมนุมต้องยึดหลักกฎหมาย ต้องไม่มีอาวุธเราจะคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และดำเนินการจากเบาไปหาหนัก ซึ่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ชุมนุมทราบว่าพื้นที่ใดเข้าไม่ได้ หากการเจราจรไม่เป็นผลจะดำเนินการตาม 7 ขั้นตอนที่วางไว้ คือ 1.แสดงกำลังเจ้าหน้าที่ประกอบโล่และกระบอง

ขั้นที่ 2 ฝ่ายเจราจาจะแจ้งเตือนขั้นตอนการดำเนินการ และข้อกฎหมายต่างๆ ขั้นที่ 3 คือ การใช้โล่ดัน ขั้นที่ 4 ใช้อุปกรณ์น้ำหรือคลื่นเสียง ขั้นที่ 1-4 ผบก.เหตุการณ์สามารถดำเนินการได้เอง โดยจะชี้แจงให้ทราบและสื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ได้

ส่วนขั้นที่ 5 คือ ใช้อุปกรณ์เคมีหรือแก๊สน้ำตา ขั้นที่ 6 ใช้อุปกรณ์กระบอง ขั้นที่ 7 ใช้กระสุนยาง หรือเครื่องมือควบคุมฝูงชนอื่น ขั้นที่ 5-7 ต้องได้รับคำสั่งเท่านั้น ส่วนการจับกุมสามารถดำเนินการได้ตลอด ส่วนเด็ก สตรี และคนชรานั้น พยายามให้เกิดการกระทบกระทั่งน้อยที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการดูแลในการที่กลุ่มเสื้อแดงจะนำเลือดไปบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จะดำเนินการตามขั้นตอนที่แจ้งให้ทราบ ยกเว้นหากบุกรุกเข้าไปภายในอาคารก็ว่าไปตามกฎหมาย ป.วิอาญา

ส่วนผู้ชุมนุมห้ามเข้าถนนนครปฐมตั้งแต่แยกชมัยมรุเชฐ ถึงแยกเทวกรรม ถนนลูกหลวงตั้งแต่แยกเทวกรรมถึงแยกน้ำพุ ถนนคู่ขนานราชดำเนินนอกตั้งแต่แยกสวนมิสกวัน ถึงแยกน้ำพุ อย่างไรก็ตาม จะเจรจาก่อนโดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาหากฝ่าฝืนก็จะดำเนินการตามขั้นตอน 7 ขั้นตอน
เจ๊ดา ไอ้เต้น-แรมบ้า


กำลังโหลดความคิดเห็น