xs
xsm
sm
md
lg

คนเถื่อนยิงเอ็ม 79 ถล่ม ร.1 พัน 1 รอ. 4 นัด ทหารเจ็บ 2 นาย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

คนร้ายยิงเอ็ม 79 จากรถกระบะ ถล่มราบ 1 บริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิต ตรงข้าม ม.หอการค้าไทย เบื้องต้นพบทหารบาดเจ็บ 2 นาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพระมงกุฎ ปลอดภัยแล้ว ล่าสุด ตร.สน.ทุ่งมหาเมฆ สกัดจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว



เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้(15 มี.ค.)ร.ต.อ.จิรภัทร แต้มทอง พนักงานสอบสวน(สบ 1)สน.บางซื่อ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงระเบิดเข้าใส่พื้นที่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์(ร.1 พัน 1 รอ.) ถนนวิภาวดีรังสิตขาออก แขวงและเขตดินแดง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.อำนวยนิ่มมะโน พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.ตปพ.

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทางเข้าด้านหน้าตึกกองรักษาการณ์ เจ้าหน้าที่พบกิ่งต้นประดู่ขนาดใหญ่ถูกแรงระเบิดอัดจนตกลงมาสู่พื้นเบื้องล่าง มีรายงานยอดผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นทหารที่กำลังเข้าเวรรักษาการณ์อยู่ที่ตึกดังกล่าว จำนวน 2 นาย ถูกนำตัวส่ง รพ.พระมงกุฎฯ ไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อคือ จ.ส.อ.ปรีชา ปานสมุทร อายุ 49 ปี และ พลทหารหนุ่ม ศรีเฝือง อายุ 23 ปี เบื้องต้นแพทย์ทำการตัวเข้าทำการผ่าตัดภายในห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน

จากการสอบถาม พลทหารปกรณ์ แสงศรี ทหารรักษาการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนยืนถือปืนเฝ้ารักษาความปลอดภัยอยู่ด้านหน้าติดกับถนนวิภาวดีรังสิตขาออก จู่ๆ ก็มีเสียงคล้ายระเบิดดังมาจากสนามยิงปืนบีบีกัน ด้านในกองพันจำนวน 3 ลูก ทำให้ พ.ท.ไพบูลย์ จุลภาคี ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นนายทหารเวร ต้องนำกำลังเจ้าหน้าที่รักษาการณ์บางส่วนวิ่งไปดูที่จุดเกิดเหตุ ส่วน จ.ส.อ.ปรีชา และ พลทหารหนุ่ม นั้นถูกสั่งการให้ประจำอยู่ ณ ที่ตั้งกองรักษาการณ์ จนกระทั่งระเบิดลูกที่ 4 ตกลงมาใส่ใต้ต้นประดู่ที่ทหารทั้ง 2 นาย ยืนอยู่พอดีจึงถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยก่อนหน้านี้ตนไม่เห็นว่ามีคนร้ายหรือบุคคลต้องสงสัยมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวด้านหน้ากองพันแต่อย่างใด

ด้าน พ.อ.ณัฐวัฒน์ อัคนิบุตร ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้ระเบิดแบบ เอ็ม 79 ยิงมาจากในรถซึ่งแล่นชะลออยู่บนทางด่วนถนนวิภาวดีขาเข้า ในลักษณะหลายลูกติดต่อกันจากนั้นก็หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้ตนได้พยายามประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดบนทางด่วนและสถานที่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุมาเป็นหลักฐานส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วโดยหลังจากนี้จะพยายามขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจท้องที่ให้มาร่วมตรวจการณ์สภาพพื้นที่โดยรอบกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ให้มากยิ่งขึ้น และถ้าเป็นไปได้ก็อาจจะขอกำลังมาร่วมกันตั้งด่านตรวจค้นบนทางด่วนด้วย ส่วนมาตรการการรักษาความปลอดภัยในที่ตั้งก็คงจะไม่ต้องเพิ่มหรือปรับปลี่ยนอะไรมากมายเนื่องจากที่ปฏิบัติอยู่เวลานี้ก็เข้มงวดดีอยู่แล้ว

ขณะที่ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้รายงานสถานการณ์ให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.ทราบแล้วซึ่งท่านได้กำชับมาให้ชุดเก็บกู้เร่งพิสูจน์ชนิดของระเบิดที่คนร้ายใช้ให้ได้อย่างเร็วที่สุด โดยขณะนี้ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใดต้องรอผลการสอบสวนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์และหาหลักฐานต่างๆ มาประกอบให้ได้มากที่สุดเสียก่อน ส่วนมาตรการการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการหลังจากนี้ได้สั่งการให้กำลังพลเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบให้มากยิ่งขึ้นแล้ว

ต่อมา พ.อ.พีระพล ปกป้อง ผอ.กองอุบัติเหตุและฉุกเฉิน รพ.พระมงกุฎฯ แถลงข่าวความคืบหน้าอาการของ ทหารผู้ได้รับบาดเจ็บว่า จากการตรวสอบอาการของทหารผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นาย พบว่า จ.ส.อ.ปรีชา ปานสมุทร ถูกสะเก็ดระเบิดไม่ทราบชนิด ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.5 เซนติเมตร เข้าที่หัวเข่าด้านซ้ายและช่องท้องซ้าย ซึ่งอาการไม่ถือว่าโคม่าเนื่องจากชีพจรยังปกติ ยังพูดคุยได้ แต่ติดอยู่ตรงที่ว่า จ.ส.อ.ปรีชา เป็นโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และไขมันในเลือดสูง จึงต้องทานยาละลายลิ่มเลือดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทีมแพทย์ยังไม่ตัดสินใจให้การผ่าตัดในเวลานี้ จึงต้องรอผลเอ็กซเรย์ให้แน่ชัดเสียก่อนว่าสะเก็ดระเบิดทะลุเข้าไปในช่องท้องมากเพียงใด ถ้าไม่มากนักก็อาจชะลอการผ่าตัดเอาไว้ได้ ส่วน พลทหารหนุ่ม นั้นถูกสะเก็ดระเบิดไม่ทราบชนิด ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.5 เซนติเมตร เข้าที่ต้นแขนซ้าย อาการไม่น่าเป็นห่วงคาดว่าแพทย์จะใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงให้นอนพักเพื่อรอดูอาการต่อไป

จากนั้นเมื่อเวลา 15.30 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น.5 สามารถสกัดจับกุมรถต้องสงสัยที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุครั้งนี้ได้ที่บริเวณซอยสวนพลู ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ จากการตรวจสอบเป็นรถแวน ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสเปซวากอน สีขาว ทะเบียน ศษ 231 กทม.ซึ่งมีพยานที่เห็นเหตุการณ์ แจ้งผ่านรายการ จส.100 ว่า เห็นรถคันดังกล่าวไปป้วนเปี้ยนอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุก่อนที่จะมีเสียงคล้ายวัตถุระเบิดดังขึ้นมาจากภายในรถ จากนั้นคนขับก็ขับรถคันดังกล่าวหลบหนีออกมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงรายงานให้ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. และ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก.ทราบก่อนควบคุมตัวเจ้าของรถคันดังกล่าวไปสอบสวนที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ

ล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น. พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปยังสน.ทุ่งมหาเมฆ พร้อมเครื่องตรวจหาสารรังสีวัตถุระเบิด โดยเบื้องต้นทราบเพียงว่า พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้นำเครื่องดังกล่าวมาเพื่อตรวจหาสารวัตถุระเบิดที่ตัวผู้ต้องสงสัย และรถต้องสงสัยยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีขาว รุ่นสเปซ แวกอน ทะเบียน ศษ 231 กรุงเทพมหานคร โดยภ่ยหลังตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวมาสอบสวนที่สน.ทุ่งมหาเมฆแล้ว ยังไม่มีนายตำรวจคนใด ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงข้อมูล เพื่อความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องนี้

จ.ส.อ.ปรีชา ปานสมุทร ได้รับบาดเจ็บจากคนร้ายลอบยิงเอ็ม 79 อาการปลอดภัยแล้ว









กำลังโหลดความคิดเห็น