ตำรวจผนึกกำลังทหารเข้าประจำการรักษาความสงบเรียบร้อยควบคุมฝูงชนในทุกจุดที่ล่อแหลม จุดรวมตัวของม็อบแดง กระจายกำลังดูแลทั่ว กทม.ต่อเนื่อง 7 วัน เน้นตรวจเข้มอาวุธ-ยานพาหนะ-สิ่งผิดกฎหมาย-บัตรประชาชน ป้องกันก่อความวุ่นวายและป้องกันแรงงานต่างด้าวร่วมชุมนุม พร้อมทั้งแจกแผ่นพับให้ประชาชนชุมนุมอย่างสงบ ชี้ เริ่มเดินเท้ากางร่มเคลื่อนไหวแล้ว
วันนี้ (12 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.บช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการดูแลรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ สำหรับสถานการณ์การชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทุกจุดที่มีการแจ้งว่าจะรวมตัวกัน ทั้งอนุสาวรีย์หลักสี่ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น สวนลุมพินี วงเวียนใหญ่ และบางนา ทั้ง 6 จุดนั้น ยังไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัวกัน มีเพีบงแค่กลุ่มบุคคลที่มาจัดเตรียมสถานที่เท่านั้น โดยการจราจรยังเป็นไปตามปกติ ส่วนพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมบ้างเล็กน้อย ยกเว้นการรวมตัวของผู้ชุมนุมในจุดใหญ่ๆ ตามแหล่งภูมิภาคต่างๆ เช่น บริเวณปากช่อง พัทยา หรือที่เพชรบุรี ก็มีการชุมนุมและทยอยเดินทางเข้ามาแล้ว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับการวางกำลังของตำรวจและทหารตามแบบของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ได้เริ่มวางกำลังเต็มรูปแบบไปแล้วตั้งแต่เวลา 08.00 น.ของวันนี้ สำหรับกำลังของตำรวจนครบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งมีแม่ทัพภาคที่ 1 เป็น ผบ.เหตุการณ์นั้น ตำรวจได้ลงสู่พื้นที่แล้วทั้งหมด 33 กองร้อย
สำหรับหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมฝูงชน ประกอบด้วย กำลังตำรวจจากนครบาล ตำรวจภูธร 2, 7 ตำรวจ ตชด., บช.ก. สันติบาบล และหน่วยแพทย์ ไม่นับรวมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และฝ่ายสืบสวนอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ได้ลงสู่พื่นที่เป้าหมายทั้งหมดแล้ว ทั้งถนนราชดำเนิน จุดชุมนุม 5 จุด และพื้นที่ต่างๆ ที่จะมีการดาวกระจาย และจะวางกำลังไปอย่างต่อเนื่องอีก 7 วัน
สำหรับภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากศูนย์อำนวยการรักษาความสงบของแม่ทัพภาคที่ 1 ได้กำหนดภารกิจให้เน้นย้ำในเรื่องการตรวจค้นอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายไม่ให้เข้าสู่พื้นที่การชุมนุม ส่วนเรื่องการตรวจบัตรประชาชน เพื่อป้องกันเรื่องแรงงานต่างด้าว หรือกลุ่มบุคคลอื่นๆที่ไม่ใช่คนไทยเข้ามาก่อเหตุ
“สำหรับด่านจุดตรวจแข็งแรงต่างๆ ทั้งหมด 8 จุดรอบกรุงเทพฯ จะมีภารกิจในการตรวจยานพาหนะที่ไม่ถูกต้อง หรือกรณีอาจจะมีอาวุธซุกซ่อน ส่วนพื้นที่ชั้นในจะเน้นการตรวจค้นบุคคลที่จะเข้าสู่พื้นที่การชุมนุม ให้มีความปลอดภัย และประชาสัมพันธ์เรื่องความสะดวกทางกาารจราจร พร้อมทั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็วของสถานีตำรวจและกองบังคับการต่างๆ เตรียมพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ที่จะสนับสนุนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต่างๆได้ ทั้งนี้ ทาง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกกองบัญชาการจัดเตรียมกำลังกองร้อยที่สามารถเคลื่อกำลังสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลได้ในทันทีเรียบร้อยแล้ว” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.หญิงทัสสนีย์ ภิรมณ์แก้ว ผู้ช่วยโฆษก บช.น.กล่าวว่า ในส่วนของ บช.น.ได้จัดทำเอกสารแผ่นพับเกี่ยวกับการที่ประชาชนจะเข้ามาร่วมชุมนุม โดยขอให้ประชาชนชุมนุมกันด้วยความสงบ ซึ่งทาง บช.น.ได้จัดกำลังตำรวจทั้งชายและหญิงไว้ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก ส่วนสมาคมแม่บ้านตำรวจนครบาลจะเริ่มตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับ ศปก.น.บริเวณพื้นที่ถนนราชดำเนิน 6.7 กิโลเมตร นับตั้งแต่สนามหลวงถึงลานพระบรมรูปทรงม้าได้ทำการประกอบแผน ซึ่งได้แจ้งให้ทางกองทัพภาคที่ 1 ทราบและได้รับการอนุมัติแล้ว จะมีการจัดตั้ง ศปก.น.ไว้ทั้งหมด 6 จุดด้วยกัน ประกอบด้วย 1.จาก ศปก.น.พระรูป 2.ศปก.น.ทำเนียบ 3.ศปก.น.กระทรวงเกษตรฯ 4.ศปก.น.ผ่านฟ้า 5.ศปก.น.อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และ 6.ศปก.น.สนามหลวง ทั้งหมดจะมีกำลังตำรวจไม่น้อยกว่า 500 นาย และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารอีกส่วนหนึ่งในการดูแลความสงบเรียบร้อยตลอดพื้นที่ที่มีการชุมนุม
ส่วนพื้นที่ 9 บก.น.นั้น กำลังกองร้อยที่ 2 ของทุก บก.ได้ลงสู่พื้นที่เพื่อปฏิบัติหน้าที่เรียบร้อยแล้ว โดยทั้งหมดจะมีการบังคับบัญชาโดยรองผบก.ที่รับผิดชอบ สำหรับกำลังตำรวจภูธร ตชด.และบช.ก.ที่มาปฏิบัติหน้าที่เป็นกองร้อยจะขึ้นตรงกับรอง ผบก.ที่เป็นหัวหน้าใน ศปก.น.ในจุดนั้นๆ
“ในเบื้องต้นมีรายงานทางการข่าวว่าพื้นที่การชุมนุมทั้งหมด 5 จุดนั้น จะมีการทำพิธีบวงสรวงโดยเฉพาะจุดใหญ่ที่วงเวียนหลักสี่ และหลังจากนั้นตำรวจได้เตรียมแผนที่ 2 เอาไว้หากมีการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุม อาจจะมีบางจุดที่จะมีการเคลื่อนกำลังเพื่อไปปราศรัยตามจุดต่างๆ ทาง พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ได้สั่งการให้ฝ่ายจราจรและฝ่ายกองร้อยควบคุมฝูงชนติดตามอย่างใกล้ชิด โดยฝ่ายสืบสวนจะติดตามบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว รวมถึงภาพการปราศรัยต่างๆ ที่ล่อแหลมผิดกฎหมายด้วย
ส่วนเวทีที่จะมาตั้งในเย็นวันนี้ ผบช.น.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น. 1 และฝ่ายสืบสวนเป็นผู้หัวหน้าชุดในการเจรจาต่อรอง ซึ่งบ่ายวันนี้จะมีการออกไปเจรจาในหลายๆจุด โดยจะเจรจาให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้พื้นที่บนผิวจราจรให้น้อยที่สุด” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 12.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของกลุ่มคนเสื้อแดงท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ นำโดยนายวิสา คัลทัพ และ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ได้รวมตัวกันที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง พร้อมกับเดินเท้ากางร่มเคลื่อนขบวนกว่า 200 คน นำหน้าด้วยรถกระบะติดตั้งเครื่องกระจายเสียงปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลต่อเนื่อง มุ่งหน้าไปยังสามแยกดินแดง
นายชินวัฒน์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า จะเคลื่อนขบวนในเส้นทางถนนพหลโยธินเพื่อตั้งเวทีปราศรัยที่กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ จากนั้นเคลื่อนขบวนไปยังแยกสุทธิสาร กลับมาปราศรัยที่หน้าสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ก่อนกลับที่ตั้งสวนป่าวิภาวดีรังสิต
ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมที่สวนลุมพินี ได้เคลื่อนขบวนออกจากบริเวณลานอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 นำขบวนโดยกองทัพมอเตอร์ไซค์หลายร้อยคัน ตามด้วยรถยนต์และรถกระบะที่บรรทุกเครื่องเสียง ที่มี นายจรัล ดิษฐาอภิชัย และนางดารุณี กฤตบุญญาลัย เป็นแกนนำปราศรัยตลอดเส้นทาง เพื่อมุ่งหน้าไปที่แยกสามย่าน เข้าถนนสีลม และไปจบที่ถนนนราธิวาส ทั้งนี้ เส้นทางที่กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนผ่าน ทำให้การจราจรเริ่มติดขัด
เวลา 14.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดงได้เดินขบวนวนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและมุ่งหน้าไปยังพล.ร.1 ตรงไปแยกสุทธิสาร และมาหยุดอยู่ที่สถานีโทรทัศน์ NBT ถ.วิภาวดีรังสิต
วันนี้ (12 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.บช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการดูแลรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ สำหรับสถานการณ์การชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทุกจุดที่มีการแจ้งว่าจะรวมตัวกัน ทั้งอนุสาวรีย์หลักสี่ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น สวนลุมพินี วงเวียนใหญ่ และบางนา ทั้ง 6 จุดนั้น ยังไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัวกัน มีเพีบงแค่กลุ่มบุคคลที่มาจัดเตรียมสถานที่เท่านั้น โดยการจราจรยังเป็นไปตามปกติ ส่วนพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมบ้างเล็กน้อย ยกเว้นการรวมตัวของผู้ชุมนุมในจุดใหญ่ๆ ตามแหล่งภูมิภาคต่างๆ เช่น บริเวณปากช่อง พัทยา หรือที่เพชรบุรี ก็มีการชุมนุมและทยอยเดินทางเข้ามาแล้ว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับการวางกำลังของตำรวจและทหารตามแบบของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ได้เริ่มวางกำลังเต็มรูปแบบไปแล้วตั้งแต่เวลา 08.00 น.ของวันนี้ สำหรับกำลังของตำรวจนครบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งมีแม่ทัพภาคที่ 1 เป็น ผบ.เหตุการณ์นั้น ตำรวจได้ลงสู่พื้นที่แล้วทั้งหมด 33 กองร้อย
สำหรับหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมฝูงชน ประกอบด้วย กำลังตำรวจจากนครบาล ตำรวจภูธร 2, 7 ตำรวจ ตชด., บช.ก. สันติบาบล และหน่วยแพทย์ ไม่นับรวมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และฝ่ายสืบสวนอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ได้ลงสู่พื่นที่เป้าหมายทั้งหมดแล้ว ทั้งถนนราชดำเนิน จุดชุมนุม 5 จุด และพื้นที่ต่างๆ ที่จะมีการดาวกระจาย และจะวางกำลังไปอย่างต่อเนื่องอีก 7 วัน
สำหรับภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากศูนย์อำนวยการรักษาความสงบของแม่ทัพภาคที่ 1 ได้กำหนดภารกิจให้เน้นย้ำในเรื่องการตรวจค้นอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายไม่ให้เข้าสู่พื้นที่การชุมนุม ส่วนเรื่องการตรวจบัตรประชาชน เพื่อป้องกันเรื่องแรงงานต่างด้าว หรือกลุ่มบุคคลอื่นๆที่ไม่ใช่คนไทยเข้ามาก่อเหตุ
“สำหรับด่านจุดตรวจแข็งแรงต่างๆ ทั้งหมด 8 จุดรอบกรุงเทพฯ จะมีภารกิจในการตรวจยานพาหนะที่ไม่ถูกต้อง หรือกรณีอาจจะมีอาวุธซุกซ่อน ส่วนพื้นที่ชั้นในจะเน้นการตรวจค้นบุคคลที่จะเข้าสู่พื้นที่การชุมนุม ให้มีความปลอดภัย และประชาสัมพันธ์เรื่องความสะดวกทางกาารจราจร พร้อมทั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็วของสถานีตำรวจและกองบังคับการต่างๆ เตรียมพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ที่จะสนับสนุนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต่างๆได้ ทั้งนี้ ทาง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกกองบัญชาการจัดเตรียมกำลังกองร้อยที่สามารถเคลื่อกำลังสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลได้ในทันทีเรียบร้อยแล้ว” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.หญิงทัสสนีย์ ภิรมณ์แก้ว ผู้ช่วยโฆษก บช.น.กล่าวว่า ในส่วนของ บช.น.ได้จัดทำเอกสารแผ่นพับเกี่ยวกับการที่ประชาชนจะเข้ามาร่วมชุมนุม โดยขอให้ประชาชนชุมนุมกันด้วยความสงบ ซึ่งทาง บช.น.ได้จัดกำลังตำรวจทั้งชายและหญิงไว้ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก ส่วนสมาคมแม่บ้านตำรวจนครบาลจะเริ่มตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับ ศปก.น.บริเวณพื้นที่ถนนราชดำเนิน 6.7 กิโลเมตร นับตั้งแต่สนามหลวงถึงลานพระบรมรูปทรงม้าได้ทำการประกอบแผน ซึ่งได้แจ้งให้ทางกองทัพภาคที่ 1 ทราบและได้รับการอนุมัติแล้ว จะมีการจัดตั้ง ศปก.น.ไว้ทั้งหมด 6 จุดด้วยกัน ประกอบด้วย 1.จาก ศปก.น.พระรูป 2.ศปก.น.ทำเนียบ 3.ศปก.น.กระทรวงเกษตรฯ 4.ศปก.น.ผ่านฟ้า 5.ศปก.น.อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และ 6.ศปก.น.สนามหลวง ทั้งหมดจะมีกำลังตำรวจไม่น้อยกว่า 500 นาย และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารอีกส่วนหนึ่งในการดูแลความสงบเรียบร้อยตลอดพื้นที่ที่มีการชุมนุม
ส่วนพื้นที่ 9 บก.น.นั้น กำลังกองร้อยที่ 2 ของทุก บก.ได้ลงสู่พื้นที่เพื่อปฏิบัติหน้าที่เรียบร้อยแล้ว โดยทั้งหมดจะมีการบังคับบัญชาโดยรองผบก.ที่รับผิดชอบ สำหรับกำลังตำรวจภูธร ตชด.และบช.ก.ที่มาปฏิบัติหน้าที่เป็นกองร้อยจะขึ้นตรงกับรอง ผบก.ที่เป็นหัวหน้าใน ศปก.น.ในจุดนั้นๆ
“ในเบื้องต้นมีรายงานทางการข่าวว่าพื้นที่การชุมนุมทั้งหมด 5 จุดนั้น จะมีการทำพิธีบวงสรวงโดยเฉพาะจุดใหญ่ที่วงเวียนหลักสี่ และหลังจากนั้นตำรวจได้เตรียมแผนที่ 2 เอาไว้หากมีการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุม อาจจะมีบางจุดที่จะมีการเคลื่อนกำลังเพื่อไปปราศรัยตามจุดต่างๆ ทาง พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ได้สั่งการให้ฝ่ายจราจรและฝ่ายกองร้อยควบคุมฝูงชนติดตามอย่างใกล้ชิด โดยฝ่ายสืบสวนจะติดตามบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว รวมถึงภาพการปราศรัยต่างๆ ที่ล่อแหลมผิดกฎหมายด้วย
ส่วนเวทีที่จะมาตั้งในเย็นวันนี้ ผบช.น.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น. 1 และฝ่ายสืบสวนเป็นผู้หัวหน้าชุดในการเจรจาต่อรอง ซึ่งบ่ายวันนี้จะมีการออกไปเจรจาในหลายๆจุด โดยจะเจรจาให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้พื้นที่บนผิวจราจรให้น้อยที่สุด” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 12.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของกลุ่มคนเสื้อแดงท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ นำโดยนายวิสา คัลทัพ และ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ได้รวมตัวกันที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง พร้อมกับเดินเท้ากางร่มเคลื่อนขบวนกว่า 200 คน นำหน้าด้วยรถกระบะติดตั้งเครื่องกระจายเสียงปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลต่อเนื่อง มุ่งหน้าไปยังสามแยกดินแดง
นายชินวัฒน์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า จะเคลื่อนขบวนในเส้นทางถนนพหลโยธินเพื่อตั้งเวทีปราศรัยที่กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ จากนั้นเคลื่อนขบวนไปยังแยกสุทธิสาร กลับมาปราศรัยที่หน้าสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ก่อนกลับที่ตั้งสวนป่าวิภาวดีรังสิต
ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมที่สวนลุมพินี ได้เคลื่อนขบวนออกจากบริเวณลานอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 นำขบวนโดยกองทัพมอเตอร์ไซค์หลายร้อยคัน ตามด้วยรถยนต์และรถกระบะที่บรรทุกเครื่องเสียง ที่มี นายจรัล ดิษฐาอภิชัย และนางดารุณี กฤตบุญญาลัย เป็นแกนนำปราศรัยตลอดเส้นทาง เพื่อมุ่งหน้าไปที่แยกสามย่าน เข้าถนนสีลม และไปจบที่ถนนนราธิวาส ทั้งนี้ เส้นทางที่กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนผ่าน ทำให้การจราจรเริ่มติดขัด
เวลา 14.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดงได้เดินขบวนวนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและมุ่งหน้าไปยังพล.ร.1 ตรงไปแยกสุทธิสาร และมาหยุดอยู่ที่สถานีโทรทัศน์ NBT ถ.วิภาวดีรังสิต