xs
xsm
sm
md
lg

ป.ส่งสำนวนสั่งฟ้อง “เสธ.แดง” คดีมีอาวุธสงคราม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ภาพในวันที่เจ้าหน้าที่กองปราบฯ ตรวจรถตู้ เสธ.แดง เจออาวุธเพียบ
ตำรวจกองปราบฯ คุม “เสธ.แดง” พร้อมสำนวนสอบสวน 280 หน้า ส่งอัยการสั่งฟ้องคดีครอบครองอาวุธสงคราม อัยการนัดฟังคำสั่งคดี 22 เม.ย. นี้ เจ้าตัวฟ้องกลับ แก้ลำ ตร.กองปราบกลั่นแกล้งยัดข้อหาให้ที่ซุกซ่อน “เคทอง”



วันนี้ (11 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.ท.มาโนชญ์ สวนดอกไม้ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำสำนวนการสอบสวนจำนวน 280 หน้า พร้อมความเห็นสั่งฟ้อง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ในความผิดฐานครอบครองและสะสมอาวุธปืน, ระเบิด และเครื่องกระสุนปืน โดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 และ พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 ม.ค.53 ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังกับทหารเข้าตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.ขัตติยะ ที่อยู่ภายในกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.) แยกเกียกกาย เขตดุสิต กทม.จากการตรวจค้นภายในรถตู้ยี่ห้อเบนซ์ หมายเลขทะเบียน ศข 121 กทม.พบระเบิดลูกเกลี้ยงเอ็ม 26, เอ็ม 79 อาวุธปืนขนาด .32 และเครื่องกระสุน ส่งมอบให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งคดี โดยอัยการนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 22 เม.ย.53 เวลา 10.00 น.

ภายหลัง พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า จะยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม พร้อมร้องขอให้พนักงานอัยการมีคำสั่งให้สอบสวนพยานเพิ่มเติม เพราะที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนยังไม่มีการสอบสวนตนแม้แต่ครั้งเดียว

ต่อมาบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ขัตติยะ ได้เดินทางไปที่ศาลอาญา เพื่อเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.ศานิตย์ มหถาวร รอง ผบก.ป.กับพวกรวม 13 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

คำฟ้องสุปว่า เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 6 มี.ค.53 โจทก์ ได้นำตัว นายพรวัฒน์ ทองธนสมบูรณ์ หรือ เคทอง โฆษกพรรคขัตติยะธรรม ที่มีโจทก์เป็นผู้ก่อตั้ง เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม โจทก์กับพวกได้ลงจากรถไปสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคดีของ นายพรวัฒน์ ที่ถูกกล่าวหาว่า ปลุกปั่นก่อความไม่สงบในบ้านเมือง แต่ได้รับคำตอบจากพนักงานสอบสวนกองปราบปรามว่าสำนวนคดียังมาไม่ถึง และให้มาติดต่อใหม่อีกครั้งในวันที่ 8 มี.ค.2553 แต่ขณะที่โจทก์กับพวกสอบสวนถามพนักงานสอบสวนอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามหลายนายได้เข้าตรวจค้นรถของโจทก์ ที่ติดเครื่องรออยู่ ก่อนจะจับกุมตัว นายพรวัฒน์ ที่นั่งอยู่ในรถ พร้อมแจ้งข้อหาโจทก์กับพวกรวม 6 คน ว่า “ร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่น หรือผู้ต้องหาเพื่อไม่ให้ต้องโทษโดยให้ที่พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยผู้นั้น ด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม และมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” ทั้งที่ความจริงแล้วโจทก์เตรียมนำตัวนายพรวัฒน์ เข้ามอบตัวตามหมายจับของศาล จำเลยทั้ง 13 ทราบดีว่าโจทก์ไม่ได้กระทำผิด ดังที่กล่าวหา แต่กลับร่วมกันกล่าวหาโจทก์ดังกล่าว เพื่อควบคุมตัวโจทก์ไว้ดำเนินคดี จึงเป็นการใช้อำนาจกลั่นแกล้งโจทก์ โดยใช้เล่ห์เหลี่ยมของกฎหมายอันไม่สุจริต จึงขอให้ศาลเรียกตัวจำเลยมาลงโทษตามความผิดด้วย

ศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.963/2553 และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 26 เม.ย. 53 เวลา 13.30 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น