พฐ.ตรวจคราบเลือด-สารระเบิดในรถตู้ “เสธ.แดง” ส่งฟ้องคดีอาวุธสงครามพรุ่งนี้

พฐ.รุดตรวจหาคราบเลือด-สารตั้งต้นระเบิดในรถตู้ที่นายทหารคนดังใช้ ป.ส่งฟ้อง “เสธ.แดง” ครอบครองอาวุธสงครามพรุ่งนี้ เตรียมแจ้งข้อหา พ.ร.บ.อาวุธปืนต่อ “เคทอง” เพิ่มอีกคดี

วันนี้ (10 มี.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดี นฤนาถ รักษาการ ผบก.ป. และ พ.ต.อ.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบก.ป.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้ร่วมกันตรวจสอบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียนตรากงจักร 2481 ที่ทาง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก นายพรวัฒน์ ทองธนบูรณ์ หรือเคทอง ลูกน้องสนิทอีก 6 ราย ใช้เป็นพาหนะ โดยทางเจ้าหน้าที่ พฐ.ได้ตรวจสอบหาลอยนิ้วมือแฝงภายใน คราบเลือด สารเสพติด และสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตวัตถุระเบิด ฯลฯ โดยนำอุปกรณ์ต่างๆ มาใช้ในการตรวจสอบ

พ.ต.อ.นัยวัฒน์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ พฐ.ได้ตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการ ทั้งในส่วนของคราบเลือด สารเสพติด สารที่ใช้ประกอบวัตถุระเบิด ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง โดยส่วนนี้ทาง พฐ.ยืนยันว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วนการตรวจสอบเลขเครื่องกับตัวถังรถนั้นไม่พบการขูดลบหรือเปลี่ยนแปลงใดๆ อย่างไรก็ดี สำหรับเลขทะเบียนรถนั้นพบว่าเป็นรถของเอกชน และยังติดไฟแนนซ์อยู่ ส่วนผู้ครอบครองรถเป็นชาวบ้านอายุประมาณ 70 ปี แต่อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบปากคำ ส่วนเลขทะเบียนตรากงจักร 2481 นั้นทางเจ้าหน้าที่ขนส่งทหารบก หรือ ขส.ทบ. ระบุว่าได้ออกให้กับรถยนต์ของทหารสังกัดมณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไม่ใช่รถตู้คันดังกล่าว

ส่วนการดำเนินคดีต่อ พล.ต.ขัตติยะ ในคดีมีอาวุธปืน เครื่องกระสุน และยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองกรณีที่ถูกทหารตรวจค้นบ้านพักภายใน ม.พัน 4 ย่านเกียกกายนั้น พ.ต.อ.นัยวัฒน์ กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็นทางคดีแล้ว และได้นัดหมายให้ พล.ต.ขัตติยะมาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 11 มีนาคมนี้ เวลา 09.30 น.เพื่อนำตัวส่งฟ้องต่ออัยการ โดยการนัดหมายดังกล่าวมีการทำเป็นหนังสือแจ้ง พล.ต.ขัตติยะ ทราบแล้ว 2 ครั้ง แต่เจ้าตัวยังไม่ตอบกลับ

พ.ต.อ.นัยวัฒน์ กล่าวถึงการดำเนินคดีต่อนายพรวัฒน์ ในคดีครอบครองเครื่องกระสุนปืนหลังถูกตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักในท้องที่ สน.ลาดกระบัง และได้มีการโอนสำนวนมาให้ บก.ป.ดำเนินการว่า ทางพนักงานสอบสวนได้รับสำนวนคดีดังกล่าวจาก สน.ลาดกระบังแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบสำนวนการสอบสวนพบว่า ของกลางที่ยึดมาได้นั้นนอกจากกระสุนปืนขนาด 9 มม.แล้วยังมี แมกกาซีนอาวุธปืนเอ็ม 16 และกระสุนปืนขนาด .380 อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งในส่วนนี้มีเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 และ พ.ร.บ.อาวุธปืน แต่ในสำนวนเดิมยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาในส่วนนี้จึงประสานกับทนายความของนายพรวัฒน์ว่าจะเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อนายพรวัฒน์ ภายในเรือนจำในวันที่ 11 มีนาคมนี้ เวลา 10.00 น.