xs
xsm
sm
md
lg

ล่าแก๊ง “พ.ต.” นอกราชการ อุ้มนักธุรกิจโสมรีดค่าไถ่ 5 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจคุม 2 ผู้ต้องหาอุ้มนักธุรกิจเกาหลีใต้ เรียกค่าไถ่ 5 ล้านฝากขังค้านประกัน สอบพบเพื่อนนักธุรกิจร่วมหุ้นทำสนามกอล์ฟชาติเดียวกัน จ้างนายทหารยศ “พ.ต.” นอกราชการลงมือหลังขัดแย้งทางธุรกิจ เร่งล่าตัวยกแก๊ง

วันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ร.ต.ต.จิรายุทธ คงคลัง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.สุทธิสาร ควบคุมตัวนายไพโรจน์ หรือใหญ่ นะยะเนตร อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 หมู่ 2 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ และนายธนิศ สิทธิวิชัย อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/494 หมู่ 2 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 2 ผู้ต้องหาที่ร่วมกับพวกที่ยังหลบหนีอยู่ ก่อเหตุอุ้มนายยูน ซุง อิล นักธุรกิจชาวเกาหลีใต้ น้องชายของรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ไปกักขังที่บ้านร้างย่านแจ้งวัฒนะ ก่อนทำร้ายร่างกายและเรียกค่าไถ่จำนวน 5 ล้านบาท ไปขออำนาจศาลฝากขังเป็นผลัดแรกที่ศาลอาญารัชดา พร้อมกับยื่นคัดค้านการประกันตัว

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.30 น.ของวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา นายยูน ซุง อิล ผู้เสียหายได้ถูกคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ จำนวน 6 คน อุ้มตัวขึ้นรถเก๋งจากบริเวณหน้าร้านอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่งบริเวณแยกสุทธิสารตัดรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง ก่อนนำตัวไปกักขังที่บ้านร้างในซอยแจ้งวัฒนะ 10 แยก 9-1-15 โดยระหว่างทางขณะที่อยู่บนรถ กลุ่มชายฉกรรจ์ได้รุมทำร้ายร่างกายไปตลอดทาง จนถูกนำตัวไปกักขังที่บ้านร้าง

จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้เรียกเงินค่าไถ่จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ซึ่งผู้เสียหายตกลงโดยให้คนร้ายไปเอาเงินที่ห้องพักย่านสุทธิสาร ก่อนจะฉวยโอกาสหลบหนีออกมาในช่วงเช้ามืดของวันที่ 3 มี.ค.ขณะที่คนร้ายที่เฝ้ายามหลับและมาแจ้งความกับทางตำรวจ สน.สุทธิสาร

นายยูน ซุง อิล ให้การเบื้องต้นว่า ได้เดินทางเข้ามาเพื่อติดต่อเรื่องทำธุรกิจสนามกอล์ฟ โดยก่อนที่จะเดินทางมาได้มีการติดต่อกับนายลี ไม่ทราบนามสกุล และนายคิม คอน ยอง เพื่อนนักธุรกิจชาวเกาหลีใต้ที่เข้ามาทำธุรกิจสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อสอบถามถึงการบริหารจัดการงานธุรกิจสนามกอล์ฟ ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ขณะที่กำลังพักอยู่ที่ห้องพักย่านสุทธิสาร นายคิม คอน ยองได้โทรศัพท์มาเรียกให้ออกไปพบที่บริเวณหน้าร้านอินเทอร์เน็ตที่เกิดเหตุ

นายยูน ซุง อิล ให้การต่อว่า ขณะที่ยืนรอนายคิมอยู่นั้น ก็มีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า อแวนซา สีบรอนซ์เงิน หมายทะเบียน ชค-2329 กทม. ขับมาจอดหน้าร้าน จากนั้นชายฉกรรจ์จำนวน 4 คนที่อยู่ในรถเก๋งคันดังกล่าวก็ลงมาจากรถแล้วลากตนขึ้นรถไปพร้อมกับใส่กุญแจมือและรุมทำร้าย โดยหนึ่งในคนร้ายนั้นมีนายคิม เพื่อนนักธุรกิจชาวเกาหลีรวมอยู่ด้วย ก่อนจะพาตนไปกักขังไว้ที่บ้านร้างลักษณะเพิงไม่มีเลขที่ย่านแจ้งวัฒนะ ซึ่งภายในบ้านร้างหลังดังกล่าวมีชายไทยรออยู่ในบ้านอีกจำนวน 2 คน

จากนั้นนายคิมก็ได้พยายามเค้นถามนายยูนเกี่ยวกับข้อมูลของนายลี นักธุรกิจชาวเกาหลีใต้ ที่มีปัญหาเรื่องธุรกิจสนามกอล์ฟกันอยู่กับนายคิม พร้อมกับข่มขู่ว่าจะฆ่าให้ตาย แต่นายยูนไม่รู้รายละเอียดมากนักและไม่ทราบว่านายลีอยู่ที่ไหน ก่อนที่นายคิมจะเสนอให้นายยูนนำเงิน 5 ล้านบาท มาแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัว นายยูนจึงบอกให้คนร้ายไปเอาเงินที่ห้องพัก และฉวยโอกาสหลบหนีออกมาขณะที่คนร้ายที่เฝ้านายยูนเผลอหลับ หลังจากจึงรีบเข้ามาแจ้งความ

ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ทาง สน.สุทธิสาร ได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.2 พร้อมกับนำตัวนายยูนไปชี้จุดบริเวณบ้านร้างที่ถูกกักขัง ซึ่งขณะที่เข้าไปชี้จุดที่บ้านร้างก็พบนายไพโรจน์อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว โดยนายยูน ได้ชี้ตัวยืนยันว่านายไพโรจน์คือหนึ่งในคนร้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบสวน จนรับสารภาพว่าอยู่ในเหตุการณ์จริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมกับกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มนายยูนมาเรียกค่าไถ่

โดยนายไพโรจน์ให้การว่า ในวันเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากเพื่อนที่เป็นทหารนอกราชการว่าจะเข้ามาหาที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ เมื่อตนไปถึงก็พบว่ามีชายฉกรรจ์จำนวน 6 คน เป็นคนไทย 4 คน และชาวเกาหลีอีก 2 คนนำตัวนายยูนมามัดใส่กุญแจมือไว้กับต้นมะม่วงหน้าบ้าน โดยได้ยินกลุ่มชายฉกรรจ์มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจสนามกอล์ฟ และพูดถึงการจะเรียกค่าไถ่นายยูนจำนวน 5 ล้านบาท แต่ต่อมาพบว่านายยูนหลบหนีไปได้ กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวจึงพากันแยกย้ายหลบหนี ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญารัชดาเลขที่ 509/2553 ลงวันที่ 4 มี.ค. 2553 โดยกล่าวหาว่าร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นฯ และข่มขืนผู้อื่นให้กระทำการใดๆ หรือไม่กระทำการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายฯเพื่อจับกุมตัวนายไพโรจน์ดำเนินคดี

รายงานข่าวแจ้งว่ าหลังการสอบสวนนายไพโรจน์ ทำให้ทราบตัวคนร้ายในคดีเพิ่ม 4 คน คือนาย อมรเทพ หรือพรเทพ หรือเทพ เปี่ยมสมบูรณ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ 2 แขวง ทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ พ.ต.อาทิตย์ สาระภิรมย์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่24/373 หมู่2 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นาย คิม คอน ยอง เพื่อนนักธุรกิจชาวเกาหลีของผู้เสียหาย และนายธนิศ สิทธิวิชัย อายุ 44 ปี ทั้งหมดได้ถูกออกหมายจับแล้วในข้อหาเดียวกัน แต่ยังอยู่ในระหว่างหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ฯ มีเพียงนายธนิศที่ถูกจับกุมตัวได้แล้วที่บ้านพักย่านอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา

ด้านทาง พ.ต.ท.ภิรมย์ สวนทอง รอง ผกก.สส.บก.น.2 เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่า แท้จริงแล้วผู้ที่ก่อเหตุมีทั้งสิ้น 5 คน เป็นชาวไทย 4 คน เป็นชาวเกาหลี 1 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 ราย ยังหลบหนีการจับกุมอยู่ 3 ราย ส่วนสาเหตุการถูกอุ้มของนายยูน เนื่องมาจากนาย คิม คอน ยอง หนึ่งในผู้ต้องหาและเป็นผู้บงการ ได้ร่วมหุ้นทำธุรกิจ สนามกอลฟ์กับนายลีที่พัทยา จนต่อมาทั้งคู่ได้มีปัญหาธุรกิจกันเรื่องเงินๆ ทองๆ จนนายลีได้หนีหายไป

จากนั้นนายคิมก็พยายามที่จะหาตัวนายลีเพื่อมาตกลงกัน จึงติดต่อไปหานายยูน ผู้เสียหายให้ช่วยติดตามนายลีให้ เนื่องจากเชื่อว่านายยูนได้ให้การช่วยเหลือพานายลีไปหลบหนี จากนั้นทางนายคิมได้นัดนายยูนผู้เสียหายไปเจอที่ร้านอินเทอร์เน็ต ก่อนจะอุ้มมาเพื่อหวังรีดข้อมูลเรื่องนายลี แต่หลังจากอุ้มนายยูนมาแล้ว กลุ่มผู้ต้องหาก็รู้ข้อมูลว่า นายยูนเป็นคนที่มีฐานะ จึงทำการจับตัวเรียกค่าไถ่ดังกล่าว แต่ยังไม่ได้เงินค่าไถ่จำนวน 5 ล้านบาทไปแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดที่ยังหลบหนีทางเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.2 ได้เร่งติดตามเฝ้าตามจุดที่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีไปซ่อนตัวแล้ว ในส่วนของ พ.ต.อาทิตย์ ทราบว่าเป็นทหารนอกราชการ แต่เดิมเป็นทหารสังกัดค่ายแห่งหนึ่งใน จ.นครนายก มีที่พักอยู่ทั้งที่ใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และใน กทม. ส่วนนายคิมผู้บงการ ทางชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.2 ได้ลงพื้นที่พัทยาเพื่อจับกุมตัวแล้ว แต่ปรากฏว่านายคิมไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มีข้อมูลว่า นายคิมมักจะเดินทางไปๆมาๆระหว่างพัทยา-กทม.แต่อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรววจเชื่อว่านายคิมยังไม่ได้มีการหลบหนีออกไปนอกประเทศ ซึ่งทางตำรวจจะเร่งดำเนินการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด ในส่วนของนายยูน ซุง อิล ที่อ้างว่าเป็นน้องชายรัฐมนตรีเกาหลีใต้นั้น ยังไม่มีข้อมูลอะไรที่ยืนยันแน่ชัดและกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางสถานฑูตในขณะนี้
นายคิม คอน ยอง ผู้บงการที่ถูกออกหมายจับและยังหลบหนี
พ.ต.อาทิตย์ สาระภิรมย์ นายทหารนอกราชการ ที่ถูกออกหมายจับและยังหลบหนี
กำลังโหลดความคิดเห็น